ดินแดนเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) คื

ดินแดนเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) คือบริเวณดินแดนที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำไทกริส (Tigris) และยูเฟรติส (Euphrates) หรือบริเวณประเทศอิรักในปัจจุบัน เป็นดินแดนที่มีความเจริญรุ่งเรืองจนกลายเป็นอู่อารยธรรมที่สำคัญของโลก ดินแดนแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์เนื่องจากแม่น้ำทั้งสองสายท่วมท้นตลิ่งในฤดูใบไม้ผลิ เมื่อน้ำลดพื้นดินจึงเต็มไปด้วยโคลนตมที่กลายเป็นปุ๋ยอันอุดมสมบูรณ์ ทำให้บริเวณนี้เหมาะแก่การเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ ดินแดนจากเมโสโปเตเมียไปจนถึงชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจึงมีชื่อว่า ดินแดนพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์ (The Fertile Crescent) หรือ วงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์



2. การตั้งถิ่นฐานของชาติพันธุ์ต่างๆ

ผู้ตั้งหลักแหล่งพวกแรกของอารยธรรมเมโสโปเตเมีย คือ พวกสุเมเรียน ภายหลังจากนั้นจึงมีพวกเซมิติกและสาขา เช่น พวกฟินีเชียน อมอไรต์และฮิบรู พวกอินโด-ยูโรเปียน และสาขา ได้แก่ พวกฮิตไตท์และเปอร์เซียน อพยพจากดินแดนตอนเหนือเข้ามาตั้งถิ่นฐานในดินแดนเมโสโปเตเมียในเวลาต่อมา

3. ด้านการเมืองการปกครอง

ชาวสุเมเรียนรวมตัวกันเป็นแว่นแคว้นแบบนครรัฐ มีเจ้าผู้ครองนครทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองและผู้นำทางศาสนา มีฐานะเสมือนเทพเจ้าประจำนคร ปกครองแบบนครรัฐอิสระไม่ขึ้นต่อกัน ต่อมาเริ่มมีการแย่งชิงดินแดนและแหล่งน้ำระหว่างรัฐ จนในที่สุดถูกโจมตีจากพวกคาลเดียน ที่มีอำนาจจนสามารถตั้งอาณาจักรที่มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงบาบิโลน ภายหลังจากนั้นก็มีพวกอื่นเข้ามาโจมตีอาณาจักรนี้ จนกระทั่งผู้นำเผ่าอมอไรต์(เป็นสาขาหนึ่งของพวกเซมิติก) เข้ายึดอาณาจักรบาบิโลนพร้อมทั้งสถาปนาผู้นำขึ้นเป็นกษัตริย์



ชาวอมอไรต์มีกษัตริย์ชื่อ พระเจ้าฮัมมูราบี เป็นผู้มีชื่อเสียง เนื่องจากทรงขยายอำนาจและทำการปกครองอย่างมีระบบ เห็นได้จากการที่ทรงโปรดให้ประมวลกฎหมายของนครรัฐต่างๆ เป็นกฎหมายชื่อ “ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี” ซึ่งถือเป็นประมวลกฎหมายที่จารึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเป็นครั้งแรก บันทึกไว้ด้วยอักษรรูปลิ่ม ลักษณะกฎหมายมีความเข้มงวดกว่ากฎหมายเดิมของชาวสุเมเรียน ซึ่งลงโทษโดยเสียเงินค่าปรับ แต่ประมวลกฎหมายฮัมมูราบีเป็นการลงโทษโดยใช้หลัก “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดินแดนเมโสโปเตเมีย (กาล) คือบริเวณดินแดนที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำไทกริส (Tigris) และยูเฟรติส (เฟรติ) หรือบริเวณประเทศอิรักในปัจจุบันเป็นดินแดนที่มีความเจริญรุ่งเรืองจนกลายเป็นอู่อารยธรรมที่สำคัญของโลกดินแดนแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์เนื่องจากแม่น้ำทั้งสองสายท่วมท้นตลิ่งในฤดูใบไม้ผลิเมื่อน้ำลดพื้นดินจึงเต็มไปด้วยโคลนตมที่กลายเป็นปุ๋ยอันอุดมสมบูรณ์ทำให้บริเวณนี้เหมาะแก่การเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ดินแดนจากเมโสโปเตเมียไปจนถึงชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจึงมีชื่อว่าดินแดนพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์ (Fertile Crescent) หรือวงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์2. การตั้งถิ่นฐานของชาติพันธุ์ต่าง ๆ ผู้ตั้งหลักแหล่งพวกแรกของอารยธรรมเมโสโปเตเมียคือพวกสุเมเรียนภายหลังจากนั้นจึงมีพวกเซมิติกและสาขาเช่นพวกฟินีเชียนอมอไรต์และฮิบรูพวกอินโดยูโรเปียนและสาขาได้แก่พวกฮิตไตท์และเปอร์เซียนอพยพจากดินแดนตอนเหนือเข้ามาตั้งถิ่นฐานในดินแดนเมโสโปเตเมียในเวลาต่อมา3. ด้านการเมืองการปกครอง ชาวสุเมเรียนรวมตัวกันเป็นแว่นแคว้นแบบนครรัฐมีเจ้าผู้ครองนครทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองและผู้นำทางศาสนามีฐานะเสมือนเทพเจ้าประจำนครปกครองแบบนครรัฐอิสระไม่ขึ้นต่อกันต่อมาเริ่มมีการแย่งชิงดินแดนและแหล่งน้ำระหว่างรัฐจนในที่สุดถูกโจมตีจากพวกคาลเดียนที่มีอำนาจจนสามารถตั้งอาณาจักรที่มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงบาบิโลนภายหลังจากนั้นก็มีพวกอื่นเข้ามาโจมตีอาณาจักรนี้จนกระทั่งผู้นำเผ่าอมอไรต์(เป็นสาขาหนึ่งของพวกเซมิติก)เข้ายึดอาณาจักรบาบิโลนพร้อมทั้งสถาปนาผู้นำขึ้นเป็นกษัตริย์ ชาวอมอไรต์มีกษัตริย์ชื่อพระเจ้าฮัมมูราบีเป็นผู้มีชื่อเสียงเนื่องจากทรงขยายอำนาจและทำการปกครองอย่างมีระบบเห็นได้จากการที่ทรงโปรดให้ประมวลกฎหมายของนครรัฐต่าง ๆ เป็นกฎหมายชื่อ "ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี" ซึ่งถือเป็นประมวลกฎหมายที่จารึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเป็นครั้งแรกบันทึกไว้ด้วยอักษรรูปลิ่มลักษณะกฎหมายมีความเข้มงวดกว่ากฎหมายเดิมของชาวสุเมเรียนซึ่งลงโทษโดยเสียเงินค่าปรับแต่ประมวลกฎหมายฮัมมูราบีเป็นการลงโทษโดยใช้หลัก "ตาต่อตาฟันต่อฟัน"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดินแดนเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) (ไทกริส) และยูเฟรติส (ยูเฟรติส) หรือบริเวณประเทศอิรักในปัจจุบัน (กว้างไกลเสี้ยว) หรือวงโค้งแห่งความอุดมสมบูรณ์2 คือพวกสุเมเรียน เช่นพวกฟินีเชียนอมอ ไรต์และฮิบรูพวกอินโด - ยูโรเปียนและสาขา ได้แก่ พวกฮิต ไตท์และเปอร์เซียน มีฐานะเสมือนเทพเจ้าประจำนครปกครองแบบ นครรัฐอิสระไม่ขึ้นต่อกัน จนในที่สุดถูกโจมตีจากพวกคา ลเดียน พระเจ้าฮัมมูราบีเป็นผู้มี ชื่อเสียง เป็นกฎหมายชื่อ "ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี" บันทึกไว้ด้วยอักษรรูปลิ่ม ซึ่งลงโทษโดยเสียเงินค่าปรับ "ตาต่อตาฟันต่อฟัน"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดินแดนเมโสโปเตเมีย ( Mesopotamia ) คือบริเวณดินแดนที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำไทกริส ( เสือก ) และยูเฟรติส ( ยูเฟรติส ) หรือบริเวณประเทศอิรักในปัจจุบันเป็นดินแดนที่มีความเจริญรุ่งเรืองจนกลายเป็นอู่อารยธรรมที่สำคัญของโลกดินแดนแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์เนื่องจากแม่น้ำทั้งสองสายท่วมท้นต ลิ่งในฤดูใบไม้ผลิเมื่อน้ำลดพื้นดินจึงเต็มไปด้วยโคลนตมที่กลายเป็นปุ๋ยอันอุดมสมบูรณ์ทำให้บริเวณนี้เหมาะแก่การเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ดินแดนจากเมโสโปเตเมียไปจนถึงชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจึงมีชื่อว่าดินแดนพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์ ( ดินแดนพระจันทร์เสี้ยว ) วงโค้ค็อค งแห่งความอุดมสมบูรณ์2 . การตั้งถิ่นฐานของชาติพันธุ์ต่างๆผู้ตั้งหลักแหล่งพวกแรกของอารยธรรมเมโสโปเตเมียความพวกสุเมเรียนภายหลังจากนั้นจึงมีพวกเซมิติกและสาขาเช่นพวกฟินีเชียนอมอไรต์และฮิบรูพวกอินโด - ยูโรเปียนและสาขาได้แก่พวกฮิตไตท์และเปอร์เซียนอพยพจากดินแดนตอนเหนือเข้ามาตั้งถิ่นฐานในดินแดนเมโสโปเตเมียในเวลาต ่อมา3 . ด้านการเมืองการปกครองชาวสุเมเรียนรวมตัวกันเป็นแว่นแคว้นแบบนครรัฐมีเจ้าผู้ครองนครทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองและผู้นำทางศาสนามีฐานะเสมือนเทพเจ้าประจำนครปกครองแบบนครรัฐอิสระไม่ขึ้นต่อกันต่อมาเริ่มมีการแย่งชิงดินแดนและแหล่งน้ำระหว่างรัฐจนในที่สุดถูกโจมตีจากพวกคาลเดียนที่มีอำนา จจนสามารถตั้งอาณาจักรที่มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงบาบิโลนภายหลังจากนั้นก็มีพวกอื่นเข้ามาโจมตีอาณาจักรนี้จนกระทั่งผู้นำเผ่าอมอไรต์ ( เป็นสาขาหนึ่งของพวกเซมิติก ) เข้ายึดอาณาจักรบาบิโลนพร้อมทั้งสถาปนาผู้นำขึ้นเป็นกษัตริย์ชาวอมอไรต์มีกษัตริย์ชื่อพระเจ้าฮัมมูราบีเป็นผู้มีชื่อเสียงเนื่องจากทรงขยายอำนาจและทำการปกครองอย่างมีระบบเห็นได้จากการที่ทรงโปรดให้ประมวลกฎหมายของนครรัฐต่างๆเป็นกฎหมายชื่อ " ประมวลกฎหมายฮัมมูราบี " ซึ่งถือเป็นประมวลกฎหมายที่จารึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเป ็นครั้งแรกบันทึกไว้ด้วยอักษรรูปลิ่มลักษณะกฎหมายมีความเข้มงวดกว่ากฎหมายเดิมของชาวสุเมเรียนซึ่งลงโทษโดยเสียเงินค่าปรับแต่ประม