In a class action lawsuit filed in

In a class action lawsuit filed in the US District Court for the District of New Jersey, the plaintiffs asserted a number of claims against Roche and JCI.
Among other claims, the plaintiffs alleged that Roche and JCI entered into the outsourcing agreement in order to interfere with their rights to pension benefits in violation of ERISA Section 510. However, the district court granted summary judgment in favor of Roche and JCI, holding that the plaintiffs had failed to prove a prima facie case of specific intent to interfere with pension benefits. The court further held that Roche had articulated legitimate nondiscriminatory reasons for its decisions, namely, technical and financial reasons; and that the plaintiffs had failed to prove that those reasons were a pretext for discrimination under ERISA Section 510. The plaintiffs appealed, and the Third Circuit reached a split decision in the case.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในคดีชั้นดำเนินการเก็บข้อมูลในเราเขตศาลสำหรับอำเภอนิวเจอร์ซี่ โจทก์คนจำนวนเรียกร้องกับ Roche และ JCI ผู้ร้องเรียนอื่น ๆ โจทก์ถูกกล่าวหาว่า Roche และ JCI เข้าตกลงจ้างเพื่อรบกวนสิทธิเพื่อประโยชน์ในการละเมิดของ 510 ส่วน ERISA เพนชั่น อย่างไรก็ตาม ศาลแขวงได้รับคำพิพากษาสรุปสามารถโรและศูนย์สุขภาพ ถือว่า โจทก์ได้ล้มเหลวในการพิสูจน์กรณี prima facie เฉพาะเจตนารบกวนผลประโยชน์เงินบำนาญ ศาลเพิ่มเติมถือว่า โรได้พูดชัดแจ้งสาเหตุ nondiscriminatory กฎหมายตัดสินความ คือ เทคนิค และการเงินเหตุผล และที่โจทก์ได้ล้มเหลวในการพิสูจน์ว่า เหตุผลเหล่านั้นถูกแบ่งแยกภายใต้ 510 ERISA ส่วนทุกที่ โจทก์อุทธรณ์ และวงจรที่ 3 ถึงการตัดสินใจแบ่งในกรณี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในระดับปฏิบัติการคดีฟ้องในศาลแขวงสหรัฐในเขตของรัฐนิวเจอร์ซีย์โจทก์ถูกกล่าวหาจำนวนของการเรียกร้องกับ Roche และ JCI.
ในการเรียกร้องอื่น ๆ ที่โจทก์กล่าวหาว่าโรชและ JCI ลงนามในสัญญาจ้างในการสั่งซื้อที่จะแทรกแซง ที่มีสิทธิของพวกเขาเพื่อผลประโยชน์เงินบำนาญในฝ่าฝืนมาตรา ERISA 510. อย่างไรก็ตามศาลแขวงที่ได้รับการตัดสินสรุปในความโปรดปรานของ Roche และ JCI ถือได้ว่าโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นกรณีเบื้องต้นของเจตนาที่เฉพาะเจาะจงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์เงินบำนาญ ศาลถือได้ว่าโรชได้พูดชัดแจ้งเหตุผลที่ไม่เลือกปฏิบัติที่ถูกต้องสำหรับการตัดสินใจคือเหตุผลทางเทคนิคและการเงิน และโจทก์ล้มเหลวที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเหตุผลเหล่านั้นเป็นข้ออ้างสำหรับการเลือกปฏิบัติภายใต้ ERISA มาตรา 510 โจทก์ยื่นอุทธรณ์และวงจรที่สามถึงตัดสินใจแยกในกรณีที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในชั้นการยื่นฟ้องในศาลแขวงสหรัฐสำหรับเขตนิวเจอร์ซี่ โจทก์อ้างตัวเลขของการเรียกร้องกับ โรช และระดับ .
ระหว่างการเรียกร้องอื่น ๆที่โจทก์กล่าวหาว่าโรช JCI เข้าไป outsourcing และข้อตกลงในการสั่งซื้อ รบกวนสิทธิของพวกเขาเพื่อผลประโยชน์เงินบำนาญในการละเมิดของกระดาษหนังส่วน 510 อย่างไรก็ตามศาลชั้นต้นได้ตัดสินและสรุปในความโปรดปรานของโรช JCI ถือว่าโจทก์ได้ล้มเหลวที่จะพิสูจน์ว่า คดีมีมูลเฉพาะความตั้งใจที่จะขัดขวางผลประโยชน์เงินบำนาญ ศาลจัดขึ้นที่โรชได้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไปก้องดเหตุผลในการตัดสินใจ มันคือ เหตุผลทางด้านเทคนิคและการเงินและโจทก์ได้ล้มเหลวที่จะพิสูจน์ว่า เหตุผลที่เป็นข้ออ้างสำหรับการเลือกปฏิบัติภายใต้กระดาษหนังส่วน 510 โจทก์ยื่นอุทธรณ์ และวงจรที่สามถึงแยก ในการตัดสินคดี