Asean needs to face reality and not

Asean needs to face reality and not shy away from tackling differences in regional security issues if it wants to be respected on the global stage, former foreign minister Kasit Piromya said yesterday.
Speaking at the start of a seminar in Bangkok yesterday, entitled "Asean-China Relations: Taking Stock and Looking Ahead," Mr Kasit said Asean was heading through turbulent global times and a changing regional landscape as a result of China's rise using what has been a peaceful yet aggressive nationalistic tone.
The group's leaders must face reality and try to address difficult issues such as the territorial disputes in the South China Sea, he said.
"Stop lingering on a dependency mentality like we had in the first two decades [of the grouping's existence]. Asean is quite developed now ...So do not shy away but instead take more common positions at the United Nations, World Trade Organisation, and the World Bank," Mr Kasit said.
Asean members must overlook their self-interests in the wake of the superpowers' attempts to expand their influence, he said.
"Asean must be brave and not petty-minded in creating self-respect and self-responsibility and assert itself globally," Mr Kasit said. Cambodia has to "take a bigger interest in Asean, not just [rely on] a few dollars or yuan".
The Philippines and Vietnam, he said, also need to conduct more shuttle diplomacy, explaining their territorial disputes with China to their Asean colleagues before reaching out to other nations.
Mr Kasit said he believed new Indonesian President Jokowi Widodo, despite his domestic political and economic reform agenda, would still be able to act as the holder of a maritime balance of power and prevent China from having its way in the South China Sea disputes.
Yang Yi, secretary-general of the China Institute of International Studies, said China and Asean both recognise that diplomacy and not conflict should be the norm for regional interaction.
"There is no real problem in the South China Sea. [The sea] remains a peaceful area with freedom of passage. Of course, there are territorial disputes ... but globally speaking there are 44 countries embroiled in maritime disputes [not just China]," Mr Yang told the seminar, co-hosted by Chulalongkorn University and his institute.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาเซียนต้องเผชิญกับความเป็นจริง และไม่อายจากการแก้ปัญหาความแตกต่างในประเด็นความปลอดภัยภูมิภาคถ้ามันต้องการที่จะยอมรับบนเวทีโลก อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ Piromya นายกษิตกล่าวว่า เมื่อวานนี้พูดที่จุดเริ่มต้นของการสัมมนาในกรุงเทพเมื่อวานนี้ ได้รับ "อาเซียนจีนความสัมพันธ์:มีหุ้นและมองไปข้างหน้า นายนายกษิตกล่าวว่า อาเซียนมีหัวเวลาปั่นป่วนทั่วโลกและภูมิทัศน์ภูมิภาคการเปลี่ยนแปลงจากการเพิ่มขึ้นของจีนใช้อะไรแล้วดี ยังก้าวร้าวเสียง nationalisticผู้นำของกลุ่มต้องเผชิญกับความเป็นจริง และพยายามที่จะจัดการปัญหายากเช่นข้อพิพาทดินแดนในทะเลจีนใต้ เขากล่าวว่า"หยุดอืดอาดตามความคิดพึ่งพามาในสองทศวรรษแรก [ของการดำรงอยู่ของการจัดกลุ่ม] อาเซียนจะพัฒนามากขณะนี้...ดังนั้น ไม่อายไป แต่ใช้แทน ตำแหน่งทั่วไปที่สหประชาชาติ องค์การการค้าโลก และธนาคารโลก นายนายกษิตกล่าวว่าสมาชิกอาเซียนต้องมองข้ามการรุกรานของพวกเขาในการปลุกของของประเทศมหาอำนาจพยายามขยายอิทธิพล เขากล่าวว่า"อาเซียนต้องกล้า และไม่ petty-ใจในการสร้างการเคารพตัวเองและ self-responsibility และยืนยันรูปเองทั่วโลก นายนายกษิตกล่าวว่า กัมพูชามีการ "ใช้สนใจใหญ่ในอาเซียน ไม่เพียง [พึ่ง] กี่ดอลลาร์หรือหยวน"ฟิลิปปินส์และเวียดนาม เขากล่าว ต้องดำเนินการทูตอย่างรถ อธิบายความข้อพิพาทดินแดนกับจีนเพื่อเพื่อนร่วมอาเซียนก่อนที่จะออกไปประเทศอื่น ๆ ด้วยนายนายกษิตกล่าวว่า เขาเชื่อใหม่ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย Jokowi Widodo แม้ มีวาระการปฏิรูปทางการเมือง และเศรษฐกิจภายในประเทศของเขา จะยังคงสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ถือดุลอำนาจแบบทะเล และป้องกันไม่ให้จีนมีวิธีการในข้อพิพาททะเลจีนใต้ยางยี่ เลขาธิการของจีนสถาบันการศึกษานานาชาติ กล่าวว่า จีนและอาเซียนทั้งรู้ว่า การทูตและความขัดแย้งไม่ควรเป็นการโต้ตอบที่ภูมิภาค"มีปัญหาจริงในทะเลจีนใต้ [ทะเล] ยังคง เงียบสงบที่ มีเสรีภาพในทาง แน่นอน มีข้อพิพาทดินแดน... แต่ทั่วโลกพูดมี 44 ประเทศที่พัวพันในข้อพิพาททางทะเล [ไม่ใช่แค่จีน], ชุด"ยางนายบอกสัมมนา ร่วมจัด โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสถาบันของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาเซียนจำเป็นต้องเผชิญกับความจริงและไม่อายห่างจากการแก้ปัญหาความแตกต่างในประเด็นความมั่นคงในภูมิภาคถ้ามันอยากที่จะได้รับการเคารพในเวทีระดับโลกอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศนายกษิตภิรมย์กล่าวว่าเมื่อวานนี้.
พูดในช่วงเริ่มต้นของการสัมมนาในกรุงเทพฯเมื่อวานนี้ชื่อ "อาเซียน จีนสัมพันธ์การสต็อกและมองไปข้างหน้า "นายกษิตกล่าวว่าอาเซียนกำลังมุ่งหน้าผ่านช่วงเวลาที่โลกปั่นป่วนและการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ในระดับภูมิภาคเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของจีนโดยใช้สิ่งที่ได้รับความสงบสุขยังก้าวร้าวเสียงชาตินิยม.
ผู้นำของกลุ่มจะต้องเผชิญกับความจริงและพยายาม เพื่อแก้ไขปัญหาที่ยากลำบากเช่นข้อพิพาทดินแดนในทะเลจีนใต้เขากล่าวว่า.
"หยุดอืดอาดในการพึ่งพาความคิดเหมือนที่เรามีอยู่ในสองทศวรรษแรก [ของการดำรงอยู่ของการจัดกลุ่ม]. อาเซียนมีการพัฒนาค่อนข้างตอนนี้ ... เพื่อทำ ไม่อายไป แต่แทนที่จะใช้ตำแหน่งร่วมกันมากขึ้นที่สหประชาชาติองค์การการค้าโลกและ World Bank, "นายกษิตกล่าวว่า.
สมาชิกอาเซียนจะต้องมองข้ามผลประโยชน์ของตัวเองของพวกเขาในการปลุกของความพยายามที่มหาอำนาจ 'เพื่อขยายอิทธิพลของตนเขา กล่าวว่า.
"อาเซียนจะต้องมีความกล้าหาญและไม่ลหุโทษใจในการสร้างความเคารพในตัวเองและความรับผิดชอบต่อตนเองและการยืนยันตัวเองทั่วโลก" นายกษิตกล่าวว่า กัมพูชามีการ "เอาดอกเบี้ยที่ใหญ่กว่าในอาเซียนไม่เพียง [พึ่งพา] ไม่กี่ดอลลาร์หรือหยวน".
ฟิลิปปินส์และเวียดนามเขากล่าวว่ายังต้องดำเนินการเจรจาต่อรองมากขึ้นรถรับส่งอธิบายข้อพิพาทดินแดนของพวกเขากับจีนกับเพื่อนร่วมงานของพวกเขาอาเซียน ก่อนที่จะเอื้อมมือออกไปประเทศอื่น ๆ .
นายกษิตกล่าวว่าเขาเชื่อว่าประธานใหม่อินโดนีเซีย Jokowi Widodo แม้จะมีวาระการปฏิรูปทางการเมืองและทางเศรษฐกิจในประเทศจะยังคงสามารถที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ถือสมดุลของอำนาจทางทะเลและป้องกันไม่ให้ประเทศจีนจากการมีวิธีการในการ ทะเลจีนใต้ข้อพิพาท.
ยางยี่เลขาธิการทั่วไปของจีนสถาบันการศึกษานานาชาติกล่าวว่าจีนและอาเซียนทั้งยอมรับว่าการเจรจาต่อรองและไม่เกิดความขัดแย้งควรจะเป็นบรรทัดฐานสำหรับการปฏิสัมพันธ์ในระดับภูมิภาค.
"ไม่มีปัญหาจริงในทะเลจีนใต้เป็น . [ทะเล] ยังคงเป็นบริเวณที่เงียบสงบกับเสรีภาพของทาง. แน่นอนมีข้อพิพาทดินแดนทั่วโลก ... แต่พูดมี 44 ประเทศพัวพันในข้อพิพาททางทะเล [ไม่เพียงจีน] "นายหยางบอกสัมมนาร่วม เป็นเจ้าภาพโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาเซียนต้องเผชิญความจริง และไม่อายห่างจากการแก้ปัญหาความแตกต่างในประเด็นความมั่นคงในภูมิภาค ถ้าต้องการที่จะได้รับการเคารพในเวทีระดับโลก อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ กษิต ภิรมย์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้
การพูดที่เริ่มต้นของงานสัมมนาในกรุงเทพเมื่อวาน เรื่อง " ความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนและจีน : การหุ้น และมองไปข้างหน้า" นายกษิตกล่าวว่า อาเซียนกำลังจะผ่านเวลาที่โลกปั่นป่วน และเปลี่ยนแปลงภูมิภาค ภูมิผลเพิ่มขึ้นของจีนใช้สิ่งที่ได้รับที่เงียบสงบแต่ก้าวร้าวชาตินิยมโทน .
ของผู้นำกลุ่มต้องเผชิญหน้ากับความจริง และพยายามที่จะแก้ไขปัญหาได้ยาก เช่น ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ , เขากล่าวว่า .
" หยุดอ้อยอิ่งในการพึ่งพาความคิดเหมือนเราอยู่ในแรกสองทศวรรษของการจัดกลุ่ม [ ตัวตน ] อาเซียนจะพัฒนามากแล้ว . . . . . . . ดังนั้นอย่าอายไป แต่แทนที่จะใช้ตำแหน่งทั่วไปที่สหประชาชาติ องค์การการค้าโลก และโลกของธนาคาร " นายกษิตกล่าว
สมาชิกอาเซียนต้องมองข้ามผลประโยชน์ของตนเองในการปลุกของประเทศมหาอำนาจพยายาม ' ที่จะขยายอิทธิพลของพวกเขา , เขากล่าวว่า .
" อาเซียน ต้องกล้าหาญและไม่แคบ ใจ ในการสร้างความนับถือตนเองและความรับผิดชอบและยืนยันตัวเองทั่วโลก " นายกษิตกล่าว กัมพูชาได้ " รับดอกเบี้ยใหญ่ในอาเซียน ไม่ใช่แค่ [ พึ่ง ] ไม่กี่ดอลลาร์ หรือหยวน " .
ฟิลิปปินส์และเวียดนาม เขากล่าวว่ายังต้องการที่จะดำเนินการเพิ่มเติมรับส่งทูตอธิบายข้อพิพาทดินแดนกับจีนให้เพื่อนร่วมงานของอาเซียนก่อนเอื้อมมือไปยังประเทศอื่น ๆ .
นายกษิตกล่าวว่าเขาเชื่อว่าประธานาธิบดีอินโดนีเซียใหม่ jokowi โก วิโดโด แม้วาระการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศของเขา