The disease was first identified in

The disease was first identified in Malaysia near Batu Pahat, Johor in late 2003. Another incidence was later reported in Bidor, Perak, in October 2004. More recently, Maktar et al. [4] reported E. papayae as causing papaya dieback in Malaysia. However, they performed no significant biochemical tests to distinguish E. papayae and E. mallotivora, which are closely related species. They relied on two basic biochemical tests (oxidase and catalase) and the sequence similarity of the 16S rRNA gene to confirm E. papayae as a causal agent of papaya dieback in Malaysia. E. papayae was first reported by Gardan et al. [5] as the causal organism of papaya bacterial canker in the Caribbean region. However, the advanced stage of papaya dieback reported by Maktar et al. [4] had no canker symptom. Thereafter, no additional information on further occurrence of the disease has been reported until our finding, reported here, of E. mallotivora as a causal organism for this disease.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรคมีการระบุไว้ก่อนในมาเลเซียใกล้ฮัท ยะโฮร์ในช่วงปี 2546 ภายหลังอุบัติการณ์อื่นรายงานใน Bidor เปรัค ในเดือนตุลาคมปี 2004 เมื่อเร็ว ๆ นี้ Maktar et al. [4] รายงาน papayae E. เป็นสาเหตุ dieback มะละกอในมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม พวกเขาทำการทดสอบชีวเคมีไม่สำคัญเพื่อแยก E. papayae และ E. mallotivora ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พวกเขาอาศัยในสองชีวเคมีทดสอบพื้นฐาน (oxidase และ catalase) และเฉพาะลำดับของยีนใน rRNA 16S ยืนยัน E. papayae เป็นตัวแทนสาเหตุของ dieback มะละกอในมาเลเซีย E. papayae ก่อนรายงานโดย Gardan et al. [5] เป็นสิ่งมีชีวิตสาเหตุของมะละกอ canker แบคทีเรียในภูมิภาคแคริบเบียน อย่างไรก็ตาม ระยะขั้นสูงของมะละกอ dieback รายงานโดย Maktar et al. [4] มีอาการ canker ไม่ หลังจากนั้น ได้รายงานข้อมูลเพิ่มเติมบนเหตุการณ์เพิ่มเติมของโรคจนถึงการค้นหาของเรา ที่นี่ รายงานของ mallotivora ตะวันออกเป็นสิ่งมีชีวิตสาเหตุโรคนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรคที่ถูกระบุว่าเป็นครั้งแรกในประเทศมาเลเซียใกล้ Batu Pahat, ยะโฮร์ในช่วงปลายปี 2003 เกิดอีกมีรายงานต่อมาใน Bidor, รัฐเประในเดือนตุลาคมปี 2004 เมื่อเร็ว ๆ นี้ Maktar และคณะ [4] รายงานอี papayae เป็นสาเหตุของมะละกอ dieback ในมาเลเซีย อย่างไรก็ตามพวกเขาดำเนินการไม่มีการทดสอบทางชีวเคมีที่สำคัญในการแยกแยะอี papayae และอี mallotivora ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พวกเขาอาศัยอยู่บนสองการทดสอบพื้นฐานทางชีวเคมี (oxidase และ catalase) และความคล้ายคลึงกันลำดับของยีน 16S rRNA เพื่อยืนยันอี papayae เป็นสาเหตุของมะละกอ dieback ในมาเลเซีย อี papayae มีรายงานครั้งแรกโดย Gardan และคณะ [5] เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นสาเหตุของมะละกอเปื่อยแบคทีเรียในภูมิภาคแคริบเบียน อย่างไรก็ตามขั้นสูงของมะละกอ dieback รายงานโดย Maktar และคณะ [4] ไม่มีอาการเปื่อย หลังจากนั้นเป็นต้นมาไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของโรคได้รับรายงานถึงการค้นพบของเรารายงานที่นี่, อี mallotivora เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นสาเหตุการเกิดโรคนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรคระบุครั้งแรกในมาเลเซียใกล้ Batu Pahat , ยะโฮร์ในปลายปี 2003 อุบัติการณ์อื่นภายหลังการรายงานในบิดอร์ เปรัค ในเดือนตุลาคม 2547 เมื่อเร็วๆ นี้ maktar et al . [ 4 ] รายงานเช่น papayae ที่ก่อให้เกิด dieback มะละกอในมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม พวกเขาแสดงความสัมพันธ์ทางชีวเคมีทดสอบแยกแยะ . . papayae mallotivora ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด .พวกเขาอาศัยสองการทดสอบทางชีวเคมีพื้นฐาน ( oxidase และ Catalase ) และความเหมือนของลำดับเบส 16S rRNA ยีนเพื่อยืนยันเช่น papayae เป็นตัวแทนสาเหตุของมะละกอ dieback ในมาเลเซีย E . papayae เป็นครั้งแรกที่รายงานโดย gardan et al . [ 5 ] เป็นสิ่งมีชีวิตสาเหตุของมะละกอแบคทีเรียแคงเกอร์ในภูมิภาคแคริบเบียน อย่างไรก็ตาม ขั้นสูงของมะละกอ dieback รายงานโดย maktar et al .[ 4 ] ไม่มีปากนกกระจอกอาการ หลังจากนั้นไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่เกิดขึ้นต่อไปของโรคได้รับรายงานถึงการหาของเรารายงานมา . mallotivora เป็นสิ่งมีชีวิตสาเหตุของโรคนี้