“What am I to say sorry about?” he

“What am I to say sorry about?” he said when asked whether he would apologise for the rampant corruption and human rights abuses during his father’s regime if he runs for president next year.
“Will I say sorry for the thousands and thousands of kilometres [of roads] that were built? Will I say sorry for the agricultural policy that brought us to self-sufficiency in rice? Will I say sorry for the power generation? Will I say sorry for the highest literacy rate in Asia?”
During Ferdinand Marcos’ 21 year reign from 1965, the ruling familyamassed a huge fortune and the country experienced rampant human rights abuses.
But his son grudgingly noted that if some Filipinos suffered during his father’s time in power, then the Marcos family was “ sorry that happened”. He added: “These are instances that have fallen through the cracks.”
Critics would describe that as the ultimate political euphemism. Indeed, a group of victims of the martial law era just launched a new lawsuit against Mr Marcos Jr and his mother for allegedly refusing to pay damages awarded for human rights victims.
“The lawsuit … is singularly significant because it magnifies in perspective the total arrogance of the Marcos family in its historical denial of the gross violations of human rights committed by Ferdinand Marcos under martial law,” the claimants said in a statement.
Yet Mr Marcos Jr, commonly known by his nickname “Bongbong”, has been aggressively defending his father’s record and insisting that the family name is a political plus not a liability.
Mr Marcos hopes to draw votes from the family power base in the populous home region of Ilocos Norte, where he previously served as governor. Hissister and mother both have political seats there.
To critics of his clan, he said: “There is nothing I can do that will change what my father did. History will judge him proper

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"อะไรฉันว่าเสียใจ" เขากล่าวว่า เมื่อถามว่า เขาจะ apologise การละเมิดสิทธิมนุษยชนและการทุจริตอาละวาดระหว่างระบอบการปกครองของบิดาถ้าวิ่งสำหรับประธานปีถัดไป"ฉันจะพูดขอหลักพัน และพันกิโลเมตร [ของถนน] ที่สร้างขึ้นหรือไม่ จะฉันว่า ขออภัยสำหรับนโยบายการเกษตรที่นำเราสู่ปรัชญาข้าว จะฉันว่า ขอสร้างพลังงานหรือไม่ จะฉันว่า ขออัตราสามารถสูงสุดในเอเชียหรือไม่"เฟอร์ดินานด์ Marcos ของ 21 ปีครอบครองจาก 1965, familyamassed ปกครองโชคใหญ่และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอาละวาดประเทศที่มีประสบการณ์แต่บุตร grudgingly ไว้ที่ถ้าบาง Filipinos รับความเดือดร้อนระหว่างพ่อของเขาในพลังงาน แล้วครอบครัว Marcos ถูก "ขออภัยที่เกิดขึ้น" เขาเพิ่ม: "เหล่านี้เป็นกรณีที่ได้ลดลงผ่านรอยแตก"นักวิจารณ์จะอธิบายที่เป็นลีลาทางการเมืองที่ดีที่สุด แน่นอน กลุ่มของเหยื่อของยุคกฎอัยการศึกเพียงเปิดคดีใหม่กับนายเจ Marcos และลูกตัวหลังปฏิเสธที่จะชดใช้ค่าเสียหายที่ได้รับรางวัลสิทธิมนุษยชนที่"คดี...เป็น singularly สำคัญเนื่องจากจะขยายในมุมมองหยิ่งรวมของครอบครัว Marcos ปฏิเสธของประวัติศาสตร์ของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่มุ่งมั่น โดยเฟอร์ดินานด์ Marcos ภายใต้กฎอัยการศึก รวม" ประเทศที่กล่าวในคำแถลงยัง นายเจ Marcos รู้จักกันทั่วไป โดยชื่อเล่นของเขา "Bongbong" ได้อุกอาจปกป้องพ่อคอร์ด และ insisting ว่า ชื่อครอบครัวการเมืองและไม่รับผิดชอบนาย Marcos หวังวาดโหวตจากครอบครัวอำนาจพื้นฐานในแคว้นอิโลคอสเหนือ ที่เขาเคยทำหน้าที่เป็นผู้ว่าราชการมีประชากรที่บ้าน Hissister และมารดาทั้งสองได้ที่นั่งทางการเมืองมีการวิจารณ์ของตระกูลของเขา เขากล่าวว่า: "ไม่มีอะไรสามารถทำที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่พ่อไม่ ประวัติศาสตร์จะตัดสินเขาเหมาะสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"สิ่งที่ฉันจะบอกว่าเสียใจกับ?" เขากล่าวเมื่อถูกถามว่าเขาจะขอโทษสำหรับความเสียหายอาละวาดและละเมิดสิทธิมนุษยชนในช่วงระบอบการปกครองของบิดาของเขาถ้าเขาวิ่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปีถัดไป.
"ฉันจะพูดขอโทษเป็นพันและหลายพันกิโลเมตร [ถนน] ที่ถูกสร้างขึ้น? ฉันจะบอกว่าเสียใจกับนโยบายทางการเกษตรที่นำเราไปสู่การพึ่งตัวเองในข้าว? ฉันจะบอกว่าเสียใจสำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าหรือไม่ ฉันจะพูดขอโทษสำหรับอัตราการรู้หนังสือสูงที่สุดในเอเชีย?
"ในช่วงเฟอร์ดินานด์มาร์กอสครองราชย์21 ปีนับจากปี 1965 การพิจารณาคดี familyamassed โชคลาภขนาดใหญ่และเป็นประเทศที่มีประสบการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนอาละวาดด่าทอ.
แต่ลูกชายของเขาอย่างเสียไม่ได้ตั้งข้อสังเกตว่าถ้าชาวฟิลิปปินส์บางส่วนได้รับความเดือดร้อนในช่วงของเขา เวลาพ่ออยู่ในอำนาจแล้วครอบครัวมาร์กอสคือ "เสียใจที่เกิดขึ้น" เขาเพิ่ม: "เหล่านี้เป็นกรณีที่ได้ลดลงผ่านรอยแตก."
นักวิจารณ์จะอธิบายว่าเป็นสุดยอดถ้อยคำการเมือง อันที่จริงกลุ่มของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของยุคกฎอัยการศึกเปิดตัวเพียงคดีใหม่กับนายมาร์กอสจูเนียร์และแม่ของเขาถูกกล่าวหาว่าปฏิเสธที่จะจ่ายค่าเสียหายที่ได้รับรางวัลสำหรับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อสิทธิมนุษยชน.
"คดี ... มีความสำคัญอย่างแปลกประหลาดเพราะมันขยายมิติในมุมมองของความหยิ่งรวม ของครอบครัวมาร์กอสในการปฏิเสธประวัติศาสตร์ของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กระทำโดยเฟอร์ดินานด์มาร์กอสภายใต้กฎอัยการศึก "ก็ได้กล่าวว่าในคำสั่ง.
แต่นายมาร์กอสจูเนียร์ที่รู้จักกันทั่วไปโดยชื่อเล่นของเขา" Bongbong "ได้รับการอุกอาจปกป้องเขา บันทึกของพ่อและยืนยันว่าชื่อครอบครัวเป็นบวกทางการเมืองไม่รับผิด.
นายมาร์กอสหวังที่จะดึงคะแนนจากฐานอำนาจของครอบครัวในภูมิภาคที่มีประชากรบ้านของโลคอสหมอนที่เขาทำหน้าที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด . Hissister
และแม่ของทั้งสองมีที่นั่งทางการเมืองที่มีในการวิจารณ์ของตระกูลของเขาเขากล่าวว่า"มีอะไรที่ฉันสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่คุณพ่อของผมคือ ประวัติศาสตร์จะตัดสินเขาที่เหมาะสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" สิ่งที่ผมจะพูดขอโทษ ? " เขากล่าวเมื่อถูกถามว่าเขาจะขอโทษสำหรับการทุจริตอาละวาด และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในช่วงการปกครองของบิดาของเขาถ้าเขาวิ่งประธานาธิบดีปีหน้า
" ฉันจะพูดขอโทษเป็นพันๆ กิโลเมตร [ ถนน ] ที่ถูกสร้างขึ้น ผมจะพูดขอโทษ นโยบายการเกษตรที่ทำให้เราพึ่งตนเองได้ในข้าวผมจะพูดขอโทษสำหรับการผลิตไฟฟ้า ? ผมจะพูดขอโทษสำหรับการรู้อัตราสูงสุดในเอเชีย "
ในระหว่างเฟอร์ดินานด์มาร์คอส ' 21 ปีครองราชย์ตั้งแต่ปี 1965 , ปกครอง familyamassed โชคใหญ่และประเทศที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอาละวาด .
แต่ลูกชายของเขาไม่พอใจที่ระบุว่า หากชาวฟิลิปปินส์บางส่วนได้รับความเดือดร้อนในช่วงเวลาของบิดาของเขาในอำนาจ แล้วครอบครัวมาร์กอส " ขอโทษที่เกิดขึ้น "เขาเพิ่ม : " เหล่านี้เป็นกรณีที่ได้ลดลงผ่านรอยแตก "
นักวิจารณ์จะ อธิบายว่า เป็นคำสุภาพของการเมืองที่ดีที่สุด จริงๆแล้ว กลุ่มของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของยุคกฎอัยการศึกเพิ่งเปิดตัวคดีใหม่กับนายมาร์ค เจอาร์ และแม่ของเขาที่ถูกกล่าวหาว่าไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายที่ได้รับรางวัลสิทธิมนุษยชน
เหยื่อ" คดีแปลกประหลาดที่สำคัญ . . . . . . . เพราะมันขยายในมุมมองความรวมของครอบครัวมาร์กอสปฏิเสธประวัติศาสตร์ของการละเมิดขั้นต้นของสิทธิมนุษยชนที่กระทำโดย เฟอร์ดินานด์ มาร์คอส ภายใต้กฎอัยการศึก " สิทธิกล่าวในงบ .
แต่นายมาร์ค เจอาร์ ที่รู้จักกันทั่วไป โดยชื่อเล่นของเขา " bongbong "ได้รับอุกอาจปกป้องบันทึกพ่อของเขา และยืนยันว่าชื่อครอบครัวคือการเมืองบวกไม่รับผิดชอบ .
นายมาร์คหวังที่จะวาดโหวตจากครอบครัวฐานอำนาจในภูมิภาคที่มีประชากรบ้านโลคอส นอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาทำหน้าที่เป็นผู้ว่าการ hissister และคุณแม่มีที่นั่งทางการเมืองนั้น
นักวิจารณ์ของตระกูลของเขา เขากล่าวว่า :" มีอะไรที่ฉันสามารถทำอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่พ่อทำ ประวัติศาสตร์จะตัดสินเขาเหมาะสม