Fig. 3. The vulnerability of a spec

Fig. 3. The vulnerability of a species or ecosystemis based on its exposure to climate change, its sensitivity, and its inherent capacity to adapt to change. The relative balance of these different components of vulnerability would lead to different management interventions. The x axis represents the degree of exposure to climate change faced by species and communities (exogenous factors). This axis is largely determined by the species’ or population’s geographical location, the rate and magnitude of climate change anticipated for that region, and the size, cohesiveness, and connectivity of the species’ habitat within and beyond that region. The other two measures from the vulnerability framework, adaptive capacity and sensitivity (see Box 1), are plotted together on the y axis. This axis is primarily determined by biological
characteristics of species that influence their mobility, specificity, and sensitivity (endogenous factors). These include, for example, physiological constraints, phenotypic plasticity, evolutionary potential, dispersal and growth capacity, and biotic interactions critical to persistence. The relative position of species and ecosystems along the axes can inform decisions on appropriate research, monitoring, and management strategies. Decisions are also likely to be affected by costs and assessments of benefits (e.g., an ecosystems service value or lower cost might shift strategies implemented toward the top right). Circled text denotes generic conservation responses. Specific conservation responses that will be appropriate under the different circumstances are discussed in the text. Species in the upper left corner have high sensitivity to climate
change but are expected to face relatively minor challenges. Such species are not a priority for intervention unless there is a change in climate-change pressures or landscape permeability. Their potential vulnerability means that they need to be monitored to ensure that they are thriving and remain unthreatened, with contingency plans that can be deployed in a timely manner in case of change. Species with high exposure but low sensitivity and high adaptive capacity (lower right corner) can presumably cope with change, and therefore need only low-intensity intervention as change becomes more extreme. Species in the upper right corner will have relatively high levels of both exposure and sensitivity; with decreasing adaptability, more intensive and specific management will be required.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูป 3 จุดอ่อนของสายพันธุ์หรือ ecosystemis อิงการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ความไวเป็น และความจุโดยธรรมชาติเพื่อปรับเปลี่ยน ยอดดุลสัมพันธ์ของส่วนประกอบเหล่านี้แตกต่างกันของช่องโหว่จะนำไปสู่การแทรกแซงการบริหารจัดการที่แตกต่างกัน แกน x แสดงถึงระดับของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ต้องเผชิญกับสายพันธุ์และชุมชน (ปัจจัยภายนอก) แกนนี้จะส่วนใหญ่กำหนดตามชนิดหรือของประชากรภูมิศาสตร์ ราคาและขนาดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคาดว่า ภูมิภาค และขนาด ความ และการเชื่อมต่อที่อยู่อาศัยของพันธุ์ภายใน และ นอกภูมิภาคนั้น อีกสองวัดจากกรอบช่องโหว่ กำลังการผลิตปรับตัว และความไวแสง (ดูกล่อง 1) ถูกลงจุดบนแกน y ด้วยกัน แกนนี้เป็นหลักจะถูกกำหนด โดยทางชีวภาพลักษณะของสายพันธุ์ที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของพวกเขา ความจำเพาะ และความไวแสง (ปัจจัยภายนอก) เหล่านี้ ด้วย เช่น ข้อจำกัดทางสรีรวิทยา ปั้นฟีโนไทป์ ศักยภาพวิวัฒนาการ ความจุแพร่กระจายและเจริญเติบโต ลร่วมโต้ที่สำคัญในการมีอยู่ ตำแหน่งสัมพันธ์ของพันธุ์และระบบนิเวศตามแนวแกนสามารถแจ้งการตัดสินใจในกลยุทธ์วิจัย ตรวจสอบ และการจัดการที่เหมาะสม ตัดสินใจก็จะได้รับผลกระทบจากต้นทุนและการประเมินผลประโยชน์ (เช่น ค่าบริการของระบบนิเวศหรือลดต้นทุนอาจเปลี่ยนกลยุทธ์ดำเนินไปทางด้านขวาบน) ข้อความวงกลมหมายถึงการตอบสนองทั่วไปอนุรักษ์ อนุรักษ์เฉพาะการตอบสนองที่เหมาะสมภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ จะมีการกล่าวถึงในข้อความ ในมุมซ้ายด้านบนมีความไวสูงกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงแต่จะต้องเผชิญความท้าทายเล็ก ๆ สายพันธุ์ดังกล่าวไม่ได้มีความสำคัญสำหรับการแทรกแซงยกเว้นว่ามีการเปลี่ยนแปลงในความดันเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือซึมผ่านภูมิทัศน์ ช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นหมายความ ว่า พวกเขาต้องตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่า พวกเขาเป็นที่เจริญรุ่งเรือง และยังคง unthreatened มีแผนฉุกเฉินที่สามารถใช้งานได้ทันในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง พันธุ์แสงสูง แต่ความไวแสง และปรับความจุ (มุมขวาล่าง) สามารถสันนิษฐานว่ารับมือกับการเปลี่ยนแปลง และดังนั้น ต้องแทรกแซงความเข้มต่ำเพียงเปลี่ยนแปลงกลายเป็นรุนแรงมากขึ้น ในมุมขวาบนจะมีค่อนข้างมากทั้งแสงและความไว ที่ปรับตัวลดลง การจัดการที่เข้มข้น และเฉพาะเจาะจงมากขึ้นจะต้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะเดื่อ. 3. ช่องโหว่ของสายพันธุ์หรือ ecosystemis ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, ความไวและความสามารถโดยธรรมชาติของมันที่จะปรับเปลี่ยน ความสมดุลของความสัมพันธ์ขององค์ประกอบที่แตกต่างเหล่านี้ของช่องโหว่จะนำไปสู่การแทรกแซงการจัดการที่แตกต่างกัน แกน x แสดงให้เห็นถึงระดับของการสัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ต้องเผชิญกับสายพันธุ์และชุมชน (ปัจจัยภายนอก) เดอะ แกนนี้จะถูกกำหนดโดยส่วนใหญ่สายพันธุ์หรือสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ประชากรอัตราและขนาดของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่คาดการณ์ไว้สำหรับภูมิภาคนั้นและขนาดเอกภาพและการเชื่อมต่อของสายพันธุ์ที่อยู่อาศัยในและนอกภูมิภาคนั้น อีกสองมาตรการจากกรอบช่องโหว่ความสามารถปรับตัวและความไว (ดูกรอบที่ 1) มีการวางแผนร่วมกันในแกน y แกนนี้จะถูกกำหนดเป็นหลักโดยทางชีวภาพ
ลักษณะของสายพันธุ์ที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของพวกเขาความจำเพาะและความไว (ปัจจัยภายนอก) เหล่านี้รวมถึงตัวอย่างเช่นข้อ จำกัด ทางสรีรวิทยาปั้นฟีโนไทป์ที่มีศักยภาพวิวัฒนาการการแพร่กระจายและความสามารถในการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตและการมีปฏิสัมพันธ์ที่สำคัญในการติดตา ตำแหน่งสัมพัทธ์ของสายพันธุ์และระบบนิเวศตามแนวแกนสามารถแจ้งการตัดสินใจเกี่ยวกับการวิจัยที่เหมาะสม, การตรวจสอบและกลยุทธ์การจัดการ การตัดสินใจนอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายและการประเมินผลของผลประโยชน์ (เช่นค่าบริการระบบนิเวศหรือลดค่าใช้จ่ายอาจจะเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินการไปยังด้านบนขวา) ข้อความวงกลมหมายถึงการตอบสนองต่อการอนุรักษ์ทั่วไป การตอบสนองต่อการอนุรักษ์ที่เฉพาะเจาะจงที่จะมีความเหมาะสมภายใต้สถานการณ์ที่แตกต่างกันที่จะกล่าวถึงในข้อความ ชนิดนี้ในมุมบนด้านซ้ายมีความไวสูงกับสภาพภูมิอากาศ
เปลี่ยนแปลง แต่คาดว่าจะเผชิญกับความท้าทายค่อนข้างน้อย สายพันธุ์ดังกล่าวไม่ได้มีความสำคัญสำหรับการแทรกแซงจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในความกดดันเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือการซึมผ่านของภูมิทัศน์ ช่องโหว่ศักยภาพของพวกเขาหมายความว่าพวกเขาจะต้องมีการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขามีความเจริญรุ่งเรืองและยังคง unthreatened กับแผนฉุกเฉินที่สามารถนำไปใช้ในเวลาที่เหมาะสมในกรณีของการเปลี่ยนแปลง สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง แต่ไวต่ำและความสามารถในการปรับตัวสูง (มุมขวาล่าง) สันนิษฐานว่าสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้เพียงการแทรกแซงความเข้มต่ำการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นมากขึ้น สายพันธุ์ที่มุมขวาบนจะมีระดับที่ค่อนข้างสูงของทั้งแสงและความไว; การปรับตัวลดลงด้วยการบริหารจัดการที่เข้มข้นและเฉพาะเจาะจงมากขึ้นจะต้อง