The nuclear envelope normally prote

The nuclear envelope normally protects the DNA from digestion by nucleases. Nuclear envelope is the membrane that surrounds the nucleus and prevents the exposure of its contents such as the DNA to the contents of cytoplasm. In the process of DNA extraction, we need to break down the nuclear envelope in order to access the DNA. This would expose the DNA to nucleases and if we don't deactivate these enzymes, they will cut and damage the DNA. Nucleases need divalent cations such as Mg2+ to function. In order to deactivate these enzymes we use EDTA which stands for Ethylenediaminetetraacetic acid to our sample tissue. EDTA has four carboxyl groups ( -COOH). In the alkaline condition of the buffer, EDTA becomes negatively charged. The EDTA ions then form covalent bonds with the divalent cations and prevent them from reacting with nucleases. As a result, the enzymes are deactivated and will no longer cause a threat to the DNA.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ซองจดหมายนิวเคลียร์ป้องกันดีเอ็นเอปกติจากย่อยอาหาร โดย nucleases ซองจดหมายนิวเคลียร์เป็นเยื่อ ที่อยู่ล้อมรอบนิวเคลียสป้องกันการเปิดเผยเนื้อหาเช่นดีเอ็นเอเนื้อหาของไซโทพลาซึม ในกระบวนการสกัดดีเอ็นเอ เราจำเป็นต้องแบ่งซองนิวเคลียร์ในการเข้าถึงดีเอ็นเอ นี้จะทำให้ดีเอ็นเอเพื่อ nucleases และถ้าเราไม่ปิดเอนไซม์เหล่านี้ พวกเขาจะตัด และทำลายดีเอ็นเอ Nucleases divalent เป็นของหายากเช่น Mg2 + ทำงานได้ การปิดใช้งานเอนไซม์เหล่านี้ เราใช้ EDTA ซึ่งหมายถึง Ethylenediaminetetraacetic กรดในเนื้อเยื่อของเราอย่าง EDTA มีสี่กลุ่ม carboxyl (- COOH) สภาพด่างของบัฟเฟอร์ EDTA กลายเป็นส่งที่ต้องชำระ ประจุ EDTA แล้วแบบโคเวเลนต์พันธบัตร ด้วยเป็นของหายาก divalent และป้องกันพวกเขาจากปฏิกิริยากับ nucleases ดัง เอนไซม์ถูกปิดเรียกใช้ และจะไม่ทำให้เป็นอุปสรรคต่อดีเอ็นเอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซองจดหมายนิวเคลียร์ตามปกติช่วยปกป้อง DNA จากการย่อยโดยนิ ซองจดหมายนิวเคลียร์เป็นเมมเบรนที่อยู่รอบนิวเคลียสและป้องกันการสัมผัสของเนื้อหาเช่นดีเอ็นเอกับเนื้อหาของพลาสซึม ในกระบวนการของการสกัดดีเอ็นเอที่เราต้องที่จะทำลายลงซองนิวเคลียร์เพื่อให้สามารถเข้าถึงดีเอ็นเอ นี้จะเปิดเผยดีเอ็นเอเพื่อนิและถ้าเราไม่ได้ยกเลิกการใช้เอนไซม์เหล่านี้พวกเขาจะตัดและความเสียหายของดีเอ็นเอ นิต้อง divalent ไพเพอร์เช่น Mg2 + ทำงาน เพื่อที่จะยกเลิกการใช้เอนไซม์เหล่านี้เราใช้ EDTA ซึ่งย่อมาจากกรด Ethylenediaminetetraacetic เนื้อเยื่อตัวอย่างของเรา EDTA มีสี่กลุ่ม carboxyl (-COOH) ในสภาพที่เป็นด่างของบัฟเฟอร์ EDTA กลายเป็นประจุลบ ไอออน EDTA แล้วรูปแบบพันธะโควาเลนกับไพเพอร์ divalent และป้องกันไม่ให้พวกเขาจากการทำปฏิกิริยากับนิ เป็นผลให้เอนไซม์ที่มีการปิดการใช้งานและจะไม่ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อดีเอ็นเอที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นิวเคลียสปกติช่วยปกป้องดีเอ็นเอจากการย่อยโดย nucleases . นิวเคลียสมีเยื่อที่ล้อมรอบนิวเคลียสและป้องกันการเปิดรับเนื้อหาเช่น DNA ในเนื้อหาของ cytoplasm ในกระบวนการของการสกัดดีเอ็นเอ เราต้องแบ่งนิวเคลียสเพื่อเข้าถึงดีเอ็นเอนี้จะแสดงดีเอ็นเอ nucleases และถ้าเราไม่ปิดการทำงานเอนไซม์เหล่านี้ พวกเขาจะตัดและความเสียหายของดีเอ็นเอ nucleases ต้องการแคต mg2 ขนาดเช่นฟังก์ชัน เพื่อปิดการทำงานเอนไซม์เหล่านี้เราใช้ EDTA ซึ่งหมายถึงกรดบอนตัวอย่างเนื้อเยื่อของเรา EDTA มี 4 หมู่คาร์บอกซิ ( - โดยใช้เทคนิค ) ในภาวะด่างของบัฟเฟอร์EDTA กลายเป็นประจุลบ . EDTA ไอออนแล้วสร้างพันธะโควา กับ ทำให้ขนาดและป้องกันไม่ให้ทำปฏิกิริยากับ nucleases . ผลคือ เอนไซม์ที่ใช้งานไม่ได้ และจะไม่ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อดีเอ็นเอ