Stanley started the firm with a $10

Stanley started the firm with a $100,000 investment: his savings of $50,000 as equity and a $50,000 long-term loan from the bank. He had hoped tomaintain his initial 100 percent ownership in the corporation, but after experiencing a $50,000 loss during the first year of operation (2009), he sold 60percent of the stock to a group of investors to obtain needed funds. Since then, no other stock transactions have taken place. Although he owns only 40percent of the firm, Stanley actively manages all aspects of its activities; the other stockholders are not active in management of the firm. The firm
�
sstock was valued at $4.50 per share in 2014 and at $5.28 per share in 2015.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สแตนเลย์บริษัทที่เริ่มต้น ด้วยการลงทุน $100,000: เขาประหยัด $ 50,000 หุ้นและเงินกู้ระยะยาวจากธนาคาร $50,000 เขามีหวัง tomaintain ของเขาเป็นเจ้าของ 100 เปอร์เซ็นต์เริ่มต้นในบริษัท แต่หลังจากประสบการสูญเสีย $50,000 ในปีแรกของการดำเนินการ (2009), เขาขาย 60percent หุ้นกลุ่มของนักลงทุนเพื่อขอรับเงินที่จำเป็น ตั้งแต่นั้นมา ธุรกรรมสต็อกไม่ได้รับการ ถึงแม้ว่าเขาเป็นเจ้าของเท่านั้นเงิน 40percent บริษัท สแตนลีย์เมนส์ของกิจกรรม ผู้ถือหุ้นอื่นไม่ใช้งานในการบริหารจัดการของบริษัท บริษัท�sstock ถูกให้ $4.50 ต่อหุ้นในปี 2557 และ $5.28 ต่อหุ้นในปี 2015

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สแตนเลย์เริ่มต้นที่ บริษัท มีการลงทุน $ 100,000: เงินฝากออมทรัพย์ของเขา $ 50,000 เป็นทุนและเงินกู้ $ 50,000 ในระยะยาวจากธนาคาร เขาหวัง tomaintain เจ้าของร้อยละ 100 ของเขาเริ่มต้นใน บริษัท แต่หลังจากที่ประสบความสูญเสีย $ 50,000 ในช่วงปีแรกของการดำเนินงาน (2009) เขาขาย 60percent ของหุ้นในกลุ่มของนักลงทุนที่จะได้รับเงินทุนที่จำเป็นต้องมี ตั้งแต่นั้นมาไม่มีการทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น แม้ว่าเขาจะเป็นเจ้าของ 40percent เฉพาะของ บริษัท สแตนลี่ย์อย่างแข็งขันในการจัดการทุกด้านของกิจกรรมของตนผู้ถือหุ้นอื่น ๆ ที่ไม่ได้ใช้งานในการบริหารจัดการของ บริษัท บริษัทsstock มีมูลค่าที่ $ 4.50 ต่อหุ้นในปี 2014 และที่ $ 5.28 ต่อหุ้นในปี 2015

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Stanley เริ่มต้นบริษัทมีการลงทุน $ 100000 : ของเขาออมทรัพย์ของ $ 50 , 000 และ $ 50 , 000 เป็นทุนระยะยาว เงินกู้ยืมจากธนาคาร เขาหวังรักษาความเป็นเจ้าของ 100 เปอร์เซ็นต์ เขาเริ่มต้นในบริษัท แต่หลังจากประสบปัญหาขาดทุน $ 50 , 000 ในช่วงปีแรกของการดำเนินงาน ( 2009 ) เขาขาย 60percent ของหุ้นในกลุ่มของนักลงทุนที่จะได้รับเป็นเงิน หลังจากนั้น ไม่มีธุรกรรมหุ้นอื่น ๆที่เกิดขึ้น แม้ว่าเขาจะเป็นเจ้าของเท่านั้น 40percent ของบริษัท สแตนเลย์ งานจัดการทุกด้านของกิจกรรม;ผู้ถือหุ้นอื่น ๆไม่ได้ใช้งานอยู่ในการจัดการของบริษัท บริษัท�sstock มีมูลค่า $ 4.50 บาทต่อหุ้นในปี 2014 และที่ $ 5.28 บาทต่อหุ้นในปี 2015