บทนำปัญหายาเสพติดในสังคมไทย ในสังคมไทยปัจจุบันนี้มีอัตราการติดยาเสพติด การแปล - บทนำปัญหายาเสพติดในสังคมไทย ในสังคมไทยปัจจุบันนี้มีอัตราการติดยาเสพติด ไทย วิธีการพูด

บทนำปัญหายาเสพติดในสังคมไทย ในสังคม

บทนำ
ปัญหายาเสพติดในสังคมไทย
ในสังคมไทยปัจจุบันนี้มีอัตราการติดยาเสพติดมากขึ้น ชึ่งมาจากปัจจัยในหลายๆเรื่องและส่งผลกระทบในหลายๆด้านคือ ประวัติของยาเสพติด ประเภทของยา สาเหตุของการติดยา ผลกระทบ
แนวทางการป้องกันและแก้ไข หน่วยงานที่เกี่ยงข้อง ชึ่งเป็นประเด็นหลักที่เกี่ยวกับเนื้อหารายงานของปัญหายาเสพติดของไทยในปัจจุบันมีรายละเอียดที่น่าสนใจในหลายๆด้านที่จะนำไปศึกษาในการเรียนการสอนได้และเกิดประโยชน์สำหรับผู้ที่มาศึกษา และยาเสพติดจะมีปัญหามากกับพวกวัยรุ่น เพราะวัยรุ่นจะเป็นวัยที่อยากรู้ อยากลอง และในช่วงวัยรุ่นนี้จะเชื่อเพื่อนมากกว่าที่จะเชื่อผู้ใหญ่หรือผู้ปกครอง ยาเสพติดเป็นปัญหาที่ใหญ่และยากที่จะแก้ไข เพราะยาเสพติดได้แพร่หลายและกลุ่มพวกวัยรุ่นผู้ที่เสพหรือติดมักช่วยกันปิดบัง เพราะกลัวความผิดที่ตนสร้างขึ้นและไม่กล้าที่จะบอกผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองช่วยกันหาทางแก้ไข กกับพวกวัยรุ่น เพราะวัยรุ่นจะเป็นวัยที่อยากรู้ อยากลอง และจะเชื่อเพื่อน
ประวัติของยาเสพติด
ยาหรือสารที่ถูกนำมาใช้อย่างผิดๆหรือเสพติด มีใช้กันมานานตั้งแต่มนุษย์เริ่มค้นพบ พืชซึ่งเมื่อเสพเข้า ไปแล้วทำให้ ระดับความรู้สึกตัว เปลี่ยนแปลงไปในสมัยโบราณยาหรือสาร เหล่านี้มักจะใช้ในพิธีทางศาสนา เช่นผู้ทำพิธีทางศาสนาของชาวอินเดียแดง ในอเมริกากลาง
ใช้ต้นไม้จำพวกกระบองเพชรซึ่งมีสารหลอนประสาท ทำให้ เกิดอาการประสาทหลอนเห็นภาพ ต่าง ๆ และเข้าใจว่าตนสามารถติดต่อกับวิญญาณหรือเทพเจ้าได้ ชาวอินเดียนแดง เผ่าอินคา (Incas) ในอเมริกาใต้เคี้ยวใบโคคา (COCA) ซึ่งมีโคเคน โดยถือว่าเป็นของขวัญ ที่พระเจ้า ประทานให้ แต่แรกใบโคคานี้ใช้เฉพาะในหมู่พวกกษัตริย์ของเผ่า แต่ต่อมาเมื่อประเทศสเปน เข้าครอบครองชนเหล่านี้ ใบโคคา ก็ถูกนำมาใช้ในหมู่ชาวอินเดียนแดงทั่วไปเพื่อช่วยให้พวกเขา
มีกำลังทำงานหนักรับใช้ชาวสเปนได้ เมื่อวิทยาศาสตร์เจริญ ก้าวหน้าขึ้นยาหรือสารเสพติด ก็เพิ่มปริมาณและชนิดขึ้นและมี การนำมาใช้อย่างผิด ๆ หรือเสพติดกันมาก ตัวอย่างเช่น ฝิ่น
เป็นที่รู้จักและจำหน่ายมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลโดยชาว เมโสโปเตเมีย (๕,๐๐๐ ปีก่อนคริสต ศักราช) และแพร่หลาย และรักษาโรคบางอย่าง เช่น โรคบิด โรคติดสุรา ฯลฯ ได้
นานทีเดียวกว่าอังกฤษจะรู้ฤทธิ์ในการเสพติดของฝิ่น และ เมื่อนั้นฝิ่นก็ถูกนำไปใช้ เพื่อ การเสพติด โดยอังกฤษพยายามนำ เอาไปแพร่ ในเมืองจีนเพื่อให้ชาวจีนติดฝิ่นและตนเอง ผูกการค้า ฝิ่นแต่ผู้เดียว จนกระทั่งเกิดสงคราม ฝิ่นกับประเทศจีนในปี ค.ศ.๑๘๓๙ - ๑๘๔๒ ประเทศไทยก็มีประวัติการเสพฝิ่นมา ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ แห่งกรุงศรีอยุธยา
(พระเจ้าอู่ทอง) ประมาณ ๖๐๐ ปีเศษมาแล้ว ในสมัยนั้นก็มี หลักฐานว่าพระมหากษัตริย์ทรง เล็งเห็นโทษของการเสพฝิ่น และทรงลงโทษผู้เสพติดเช่นกัน ระหว่างสงครามกลางเมือง
ของสหรัฐอเมริกา (American civil war) ค.ศ. ๑๘๖๑ - ๑๘๖๕ เริ่มมีการนำเข็มฉีดยา เข้าใต้ผิวหนังมาใช้ ทำให้มีผู้นำมอร์ฟีนมาใช้ในลักษณะยาเสพติด ต่อมาเมื่อคนรู้จักการฉีดยา
เข้าหลอดเลือดดำ เฮโรอีนซึ่งเป็น diethylated form ของมอร์ฟีนก็ถูกนำมาใช้แทนมอร์ฟีน
กลางคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ มีการนำเอาโบรไมด์ (Bromide) มาใช้เป็นยาสงบประสาท และรักษาโรคลมชัก ซึ่งได้รับความนิยมมากพอ ๆ กับยา วาเลียม (Valium) และยาริเบรียม (Librium) ในปัจจุบัน แต่โบรไมด์สำสมในร่างกาย ทำให้เกิดอาการวิกลจริต และลายสมอง อย่างถาวรด้วย ในระยะใกล้เกียงกันก็มีผู้ผลิตยาบาร์บิทุเรท (Barbiturate) และยาสงบ ประสาทตัวอื่น ๆ และได้รับความนิยมใช้อย่าง
แพร่หลายเช่นกัน โดยผู้ใช้ไม่ทราบถึง ฤทธิ์ใน การเสพติดของยาเหล่านี้ ปลายคริสตศตวรรษที่ ๑๙ มีผู้พบโคเคนและกัญชาซึ่งมีฤทธิ์ ทำให้
จิตใจสบาย โคเคนพบว่า มีประโยชน ์ทางการรักษาโรคด้วยโดยใช้เป็นยาชาเฉพาะที่ดังนั้น โคเคน จึงเป็ฯที่นิยมใช้เป็นผลให้มีการเสพติดโคเคน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒
แอมเฟตามีนถูกนำมาใช้ในกองทหารญี่ปุ่น เยอรมัน อเมริกัน และอังกฤษ เพื่อให้ร่างกายมีกำลัง กระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา พอหลังสงครามยา ซึ่งกองทัพญี่ปุ่นกักตุน ไว้มาก็ทะลักสู่ตลาด ทำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่น ใช้ยากันมาก ในปี ค.ศ.๑๙๕๕ คาดว่ามีชาวญี่ปุ่นติดแอมเฟตามีนราว
ร้อยละ ๑ ระหว่าง ค.ศ.๑๙๖๐ - ๑๙๗๐ ในประเทศสวีเดนมีการใช้ยา Phenmetrazine (Preludin) ซึ่งคล้ายแอมเฟตามีน ฉีดเข้าหลอดเลือด ดำด้วย ในสหรัฐเมริกาพวกฮิปปี้ซึ่งเคย นิยมใช้ แอลเอสดี (LSD) หรือ Lysergic Acid Diethylamide) ก็ค่อย ๆ หันมาใช้
แ อมเฟตามีน ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ เช่นกัน ระหว่างปี ค.ศ. ๑๙๖๐ - ๑๙๗๐ ยาหลอนประสาท
เริ่มถูกนำมาใช้และใช้มากหลัง ค.ศ. ๑๙๗๐ ผู้เสพส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกันวัยรุ่นที่มีฐานะทาง เศรษฐกิจปานกลางโดยเริ่มจาก แอลเอสดี ซึ่ง Hofmann เป็นผู้ค้นพบในปี ค.ศ.๑๙๕๓ เนื่องจากแอลเอสดีทำให้เกิดอาการล้าย วิกลจริต จึงมีนักจิตวิเคราะห์บางคนนำมาใช้เพื่อ การรักษาผู้ป่วนด้วย เพราะคิดว่ายานี้จะช่วยกำจัด "Repression" ให้หมดไป ด้วยเหตุที่ยานี้
ผลิตง่ายปัจจุบันจึงเป็นปัญหามากในเมริกา
เนื่องจากกัญชาซึ่งเป็นยาช่วยให้ผู้เสพรู้สึกเป็นสุขและความรู้สึกไวขึ้น เป็นยาที่หาได้ง่าย จึงมีการลักลอบใช้อย่างผิดกฎหมาย กันมาในเมริกา ตั้งแต่ ปี ค.ศ.๑๙๖๐ เป็นต้นในยุโรป ก็เช่นกันเพิ่งจะมีการใช้กัญชาในเวลาไล่เลี่ยกันนี้โดยทหารของกษัตรย์นโปเลียน เป็นผู้นำมาจาก ประเทศอียิปต์ทั้ง ๆ ที่กัญชาเป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในประเทศอินเดีย และประเทศ ในเอเชียตะวันออกกลาง มาก่อนหลานศตวรรษ ในสหรัฐนิยมใช้ในคนบางกลุ่ม เช่น พวกนัก ดนตรีแจ๊สและ พวกเม็กซิกันอพยพมาอยู่ในสหรัฐ ในฝรั่งเศสเป็นที่นิยมใช้ในกลุ่มนักประพันธ์
ถ้าจะนับตามจำนวนผู้เสพติด หรือผู้ใช้ยาอย่าง ๆ ผิด ๆ สุราและบุหรี่ น่าจะเป็น สารสำคัญของ ปัญหานี้ แต่เนื่องจากราคาย่อมเยา สามารถหามาเสพได้ง่ายกว่าและไม่ผิดกฎหมาย ทำให้สาร ๒ ชนิดนี้ ดูจะไม่มีความสำคัญเท่าใดนักแต่กัญชา ยาหลอนประสาท และเฮโรอีน จำนวนผู้ใช้ ละ ผู้เสพติดน้อยกว่ากลับเป็นปัญห สำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฮโรอีนกำลังเป็นปัญหา มากในประเทศไทย และประเทศเพื่อน
บ้านที่อยู่บนคาบสมุทรอินโดจีน ทั้งนี้เพราะเป็นสารซึ่ง มีราคา แพงและผิดกฎหมาย ทั้งอำนาจในการเสพติดก็สูงและวิธีบางวิธียังอาจทำให้เกิด
อันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพจึงก่อให
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
บทนำปัญหายาเสพติดในสังคมไทย ในสังคมไทยปัจจุบันนี้มีอัตราการติดยาเสพติดมากขึ้นชึ่งมาจากปัจจัยในหลายๆเรื่องและส่งผลกระทบในหลายๆด้านคือประวัติของยาเสพติดประเภทของยาสาเหตุของการติดยาผลกระทบ แนวทางการป้องกันและแก้ไขหน่วยงานที่เกี่ยงข้องชึ่งเป็นประเด็นหลักที่เกี่ยวกับเนื้อหารายงานของปัญหายาเสพติดของไทยในปัจจุบันมีรายละเอียดที่น่าสนใจในหลายๆด้านที่จะนำไปศึกษาในการเรียนการสอนได้และเกิดประโยชน์สำหรับผู้ที่มาศึกษาและยาเสพติดจะมีปัญหามากกับพวกวัยรุ่นเพราะวัยรุ่นจะเป็นวัยที่อยากรู้อยากลองและในช่วงวัยรุ่นนี้จะเชื่อเพื่อนมากกว่าที่จะเชื่อผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองยาเสพติดเป็นปัญหาที่ใหญ่และยากที่จะแก้ไขเพราะยาเสพติดได้แพร่หลายและกลุ่มพวกวัยรุ่นผู้ที่เสพหรือติดมักช่วยกันปิดบังเพราะกลัวความผิดที่ตนสร้างขึ้นและไม่กล้าที่จะบอกผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองช่วยกันหาทางแก้ไขกกับพวกวัยรุ่นเพราะวัยรุ่นจะเป็นวัยที่อยากรู้อยากลองและจะเชื่อเพื่อน ประวัติของยาเสพติด ยาหรือสารที่ถูกนำมาใช้อย่างผิดๆหรือเสพติด มีใช้กันมานานตั้งแต่มนุษย์เริ่มค้นพบ พืชซึ่งเมื่อเสพเข้า ไปแล้วทำให้ ระดับความรู้สึกตัว เปลี่ยนแปลงไปในสมัยโบราณยาหรือสาร เหล่านี้มักจะใช้ในพิธีทางศาสนา เช่นผู้ทำพิธีทางศาสนาของชาวอินเดียแดง ในอเมริกากลางใช้ต้นไม้จำพวกกระบองเพชรซึ่งมีสารหลอนประสาท ทำให้ เกิดอาการประสาทหลอนเห็นภาพ ต่าง ๆ และเข้าใจว่าตนสามารถติดต่อกับวิญญาณหรือเทพเจ้าได้ ชาวอินเดียนแดง เผ่าอินคา (Incas) ในอเมริกาใต้เคี้ยวใบโคคา (COCA) ซึ่งมีโคเคน โดยถือว่าเป็นของขวัญ ที่พระเจ้า ประทานให้ แต่แรกใบโคคานี้ใช้เฉพาะในหมู่พวกกษัตริย์ของเผ่า แต่ต่อมาเมื่อประเทศสเปน เข้าครอบครองชนเหล่านี้ ใบโคคา ก็ถูกนำมาใช้ในหมู่ชาวอินเดียนแดงทั่วไปเพื่อช่วยให้พวกเขามีกำลังทำงานหนักรับใช้ชาวสเปนได้ เมื่อวิทยาศาสตร์เจริญ ก้าวหน้าขึ้นยาหรือสารเสพติด ก็เพิ่มปริมาณและชนิดขึ้นและมี การนำมาใช้อย่างผิด ๆ หรือเสพติดกันมาก ตัวอย่างเช่น ฝิ่น
เป็นที่รู้จักและจำหน่ายมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลโดยชาว เมโสโปเตเมีย (๕,๐๐๐ ปีก่อนคริสต ศักราช) และแพร่หลาย และรักษาโรคบางอย่าง เช่น โรคบิด โรคติดสุรา ฯลฯ ได้
นานทีเดียวกว่าอังกฤษจะรู้ฤทธิ์ในการเสพติดของฝิ่น และ เมื่อนั้นฝิ่นก็ถูกนำไปใช้ เพื่อ การเสพติด โดยอังกฤษพยายามนำ เอาไปแพร่ ในเมืองจีนเพื่อให้ชาวจีนติดฝิ่นและตนเอง ผูกการค้า ฝิ่นแต่ผู้เดียว จนกระทั่งเกิดสงคราม ฝิ่นกับประเทศจีนในปี ค.ศ.๑๘๓๙ - ๑๘๔๒ ประเทศไทยก็มีประวัติการเสพฝิ่นมา ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ แห่งกรุงศรีอยุธยา
(พระเจ้าอู่ทอง) ประมาณ ๖๐๐ ปีเศษมาแล้ว ในสมัยนั้นก็มี หลักฐานว่าพระมหากษัตริย์ทรง เล็งเห็นโทษของการเสพฝิ่น และทรงลงโทษผู้เสพติดเช่นกัน ระหว่างสงครามกลางเมือง
ของสหรัฐอเมริกา (American civil war) ค.ศ. ๑๘๖๑ - ๑๘๖๕ เริ่มมีการนำเข็มฉีดยา เข้าใต้ผิวหนังมาใช้ ทำให้มีผู้นำมอร์ฟีนมาใช้ในลักษณะยาเสพติด ต่อมาเมื่อคนรู้จักการฉีดยา
เข้าหลอดเลือดดำ เฮโรอีนซึ่งเป็น diethylated form ของมอร์ฟีนก็ถูกนำมาใช้แทนมอร์ฟีน
กลางคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ มีการนำเอาโบรไมด์ (Bromide) มาใช้เป็นยาสงบประสาท และรักษาโรคลมชัก ซึ่งได้รับความนิยมมากพอ ๆ กับยา วาเลียม (Valium) และยาริเบรียม (Librium) ในปัจจุบัน แต่โบรไมด์สำสมในร่างกาย ทำให้เกิดอาการวิกลจริต และลายสมอง อย่างถาวรด้วย ในระยะใกล้เกียงกันก็มีผู้ผลิตยาบาร์บิทุเรท (Barbiturate) และยาสงบ ประสาทตัวอื่น ๆ และได้รับความนิยมใช้อย่าง
แพร่หลายเช่นกัน โดยผู้ใช้ไม่ทราบถึง ฤทธิ์ใน การเสพติดของยาเหล่านี้ ปลายคริสตศตวรรษที่ ๑๙ มีผู้พบโคเคนและกัญชาซึ่งมีฤทธิ์ ทำให้
จิตใจสบาย โคเคนพบว่า มีประโยชน ์ทางการรักษาโรคด้วยโดยใช้เป็นยาชาเฉพาะที่ดังนั้น โคเคน จึงเป็ฯที่นิยมใช้เป็นผลให้มีการเสพติดโคเคน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒
แอมเฟตามีนถูกนำมาใช้ในกองทหารญี่ปุ่น เยอรมัน อเมริกัน และอังกฤษ เพื่อให้ร่างกายมีกำลัง กระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา พอหลังสงครามยา ซึ่งกองทัพญี่ปุ่นกักตุน ไว้มาก็ทะลักสู่ตลาด ทำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่น ใช้ยากันมาก ในปี ค.ศ.๑๙๕๕ คาดว่ามีชาวญี่ปุ่นติดแอมเฟตามีนราว
ร้อยละ ๑ ระหว่าง ค.ศ.๑๙๖๐ - ๑๙๗๐ ในประเทศสวีเดนมีการใช้ยา Phenmetrazine (Preludin) ซึ่งคล้ายแอมเฟตามีน ฉีดเข้าหลอดเลือด ดำด้วย ในสหรัฐเมริกาพวกฮิปปี้ซึ่งเคย นิยมใช้ แอลเอสดี (LSD) หรือ Lysergic Acid Diethylamide) ก็ค่อย ๆ หันมาใช้
แ อมเฟตามีน ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ เช่นกัน ระหว่างปี ค.ศ. ๑๙๖๐ - ๑๙๗๐ ยาหลอนประสาท
เริ่มถูกนำมาใช้และใช้มากหลัง ค.ศ. ๑๙๗๐ ผู้เสพส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกันวัยรุ่นที่มีฐานะทาง เศรษฐกิจปานกลางโดยเริ่มจาก แอลเอสดี ซึ่ง Hofmann เป็นผู้ค้นพบในปี ค.ศ.๑๙๕๓ เนื่องจากแอลเอสดีทำให้เกิดอาการล้าย วิกลจริต จึงมีนักจิตวิเคราะห์บางคนนำมาใช้เพื่อ การรักษาผู้ป่วนด้วย เพราะคิดว่ายานี้จะช่วยกำจัด "Repression" ให้หมดไป ด้วยเหตุที่ยานี้
ผลิตง่ายปัจจุบันจึงเป็นปัญหามากในเมริกา
เนื่องจากกัญชาซึ่งเป็นยาช่วยให้ผู้เสพรู้สึกเป็นสุขและความรู้สึกไวขึ้น เป็นยาที่หาได้ง่าย จึงมีการลักลอบใช้อย่างผิดกฎหมาย กันมาในเมริกา ตั้งแต่ ปี ค.ศ.๑๙๖๐ เป็นต้นในยุโรป ก็เช่นกันเพิ่งจะมีการใช้กัญชาในเวลาไล่เลี่ยกันนี้โดยทหารของกษัตรย์นโปเลียน เป็นผู้นำมาจาก ประเทศอียิปต์ทั้ง ๆ ที่กัญชาเป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในประเทศอินเดีย และประเทศ ในเอเชียตะวันออกกลาง มาก่อนหลานศตวรรษ ในสหรัฐนิยมใช้ในคนบางกลุ่ม เช่น พวกนัก ดนตรีแจ๊สและ พวกเม็กซิกันอพยพมาอยู่ในสหรัฐ ในฝรั่งเศสเป็นที่นิยมใช้ในกลุ่มนักประพันธ์
ถ้าจะนับตามจำนวนผู้เสพติด หรือผู้ใช้ยาอย่าง ๆ ผิด ๆ สุราและบุหรี่ น่าจะเป็น สารสำคัญของ ปัญหานี้ แต่เนื่องจากราคาย่อมเยา สามารถหามาเสพได้ง่ายกว่าและไม่ผิดกฎหมาย ทำให้สาร ๒ ชนิดนี้ ดูจะไม่มีความสำคัญเท่าใดนักแต่กัญชา ยาหลอนประสาท และเฮโรอีน จำนวนผู้ใช้ ละ ผู้เสพติดน้อยกว่ากลับเป็นปัญห สำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฮโรอีนกำลังเป็นปัญหา มากในประเทศไทย และประเทศเพื่อน
บ้านที่อยู่บนคาบสมุทรอินโดจีน ทั้งนี้เพราะเป็นสารซึ่ง มีราคา แพงและผิดกฎหมาย ทั้งอำนาจในการเสพติดก็สูงและวิธีบางวิธียังอาจทำให้เกิด
อันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพจึงก่อให
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติของยาเสพติดประเภทของยาสาเหตุของการติดยาผลกระทบแนวทางการป้องกันและแก้ไขหน่วยงานที่เกี่ยงข้อง เพราะวัยรุ่นจะเป็นวัยที่อยากรู้อยากลอง กกับพวกวัยรุ่นเพราะวัยรุ่นจะเป็นวัยที่อยากรู้อยากลอง พืชซึ่งเมื่อเสพเข้าไปแล้วทำให้ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลงไปในสมัยโบราณยาหรือสารเหล่านี้มักจะใช้ในพิธีทางศาสนา ทำให้เกิดอาการประสาทหลอนเห็นภาพต่าง ๆ ชาวอินเดียนแดงเผ่าอินคา (อินคา) ในอเมริกาใต้เคี้ยวใบโคคา (COCA) ซึ่งมีโคเคนโดยถือว่าเป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานให้ แต่ต่อมาเมื่อประเทศสเปนเข้าครอบครองชนเหล่านี้ใบโคคา เมื่อวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้าขึ้นยาหรือสารเสพติดก็เพิ่มปริมาณและชนิดขึ้นและมีการนำมาใช้อย่างผิด ๆ หรือเสพติดกันมากตัวอย่างเช่น เมโสโปเตเมีย (5,000 ปีก่อนคริสตศักราช) และแพร่หลายและรักษาโรคบางอย่างเช่นโรคบิดโรคติดสุรา ฯลฯ และเมื่อนั้นฝิ่นก็ถูกนำไปใช้เพื่อการเสพติดโดยอังกฤษพยายามนำเอาไปแพร่ ผูกการค้าฝิ่น แต่ผู้เดียวจนกระทั่งเกิดสงครามฝิ่นกับประเทศจีนในปี ค.ศ. 1839 - 1842 ประเทศไทยก็มีประวัติการเสพฝิ่นมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 แห่งกรุงศรีอยุธยา(พระเจ้าอู่ทอง) ประมาณ 600 ปีเศษมาแล้ว ในสมัยนั้นก็มีหลักฐานว่าพระมหากษัตริย์ทรงเล็งเห็นโทษของการเสพฝิ่นและทรงลงโทษผู้เสพติดเช่นกัน (สงครามกลางเมืองอเมริกัน) ค.ศ. 1861 - 1865 เริ่มมีการนำเข็มฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังมาใช้ เฮโรอีนซึ่งเป็นรูปแบบ diethylated 19 มีการนำเอาโบรไมด์ (Bromide) มาใช้เป็นยาสงบประสาทและรักษาโรคลมชักซึ่งได้รับความนิยมมากพอ ๆ กับยาวาเลียม (Valium) และยาริเบรียม (Librium) ในปัจจุบัน แต่โบ รไมด์สำสมในร่างกายทำให้เกิดอาการวิกลจริตและลายสมองอย่างถาวรด้วย (ประสาท) และยาสงบประสาทตัวอื่น ๆ โดยผู้ใช้ไม่ทราบถึงฤทธิ์ในการเสพติดของยาเหล่านี้ปลายคริสตศตวรรษที่ 19 มีผู้พบโคเคนและกัญชาซึ่งมีฤทธิ์ทำให้จิตใจสบายโคเคนพบว่าได้มีประโยชน โคเคน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ เยอรมันอเมริกันและอังกฤษเพื่อให้ร่างกายมีกำลังกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลาพอหลังสงครามยาซึ่งกองทัพญี่ปุ่นกักตุนไว้มาก็ทะลักสู่ตลาดทำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นใช้ยากันมากในปี ค.ศ. 1955 1 ระหว่าง ค.ศ. 1960-1970 ในประเทศสวีเดนมีการใช้ยา Phenmetrazine (Preludin) ซึ่งคล้ายแอมเฟตามีนฉีดเข้าหลอดเลือดดำด้วยในสหรัฐเมริกาพวกฮิปปี้ซึ่งเคยนิยมใช้แอลเอสดี (LSD ) หรือ Lysergic Acid diethylamide) ก็ค่อย ๆ หันมาใช้แอมเฟตามีนฉีดเข้าหลอดเลือดดำเช่นกันระหว่างปี ค.ศ. 1960 - 1970 ค.ศ. 1970 เศรษฐกิจปานกลางโดยเริ่มจากแอลเอสดีซึ่ง Hofmann เป็นผู้ค้นพบในปี ค.ศ. 1953 วิกลจริต การรักษาผู้ป่วนด้วยเพราะคิดว่ายานี้จะช่วยกำจัด "ปราบปราม" ให้หมดไป เป็นยาที่หาได้ง่ายจึงมีการลักลอบใช้อย่างผิดกฎหมายกันมาในเมริกาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 เป็นต้นในยุโรป เป็นผู้นำมาจากประเทศอียิปต์ทั้ง ๆ และประเทศในเอเชียตะวันออกกลางมาก่อนหลานศตวรรษในสหรัฐนิยมใช้ในคนบางกลุ่มเช่นพวกนักดนตรีแจ๊สและพวกเม็กซิกันอพยพมาอยู่ในสหรัฐ หรือผู้ใช้ยาอย่าง ๆ ผิด ๆ สุราและบุหรี่น่าจะเป็นสารสำคัญของปัญหานี้ แต่เนื่องจากราคาย่อมเยา ทำให้สาร 2 ชนิดนี้ ยาหลอนประสาทและเฮโรอีนจำนวนผู้ใช้ละผู้เสพติดน้อยกว่ากลับเป็นปัญหสำคัญทั่วโลก มากในประเทศไทย ทั้งนี้เพราะเป็นสารซึ่งมีราคาแพงและผิดกฎหมาย























การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
บทนำ

ในสังคมไทยปัจจุบันนี้มีอัตราการติดยาเสพติดมากขึ้นปัญหายาเสพติดในสังคมไทยชึ่งมาจากปัจจัยในหลายๆเรื่องและส่งผลกระทบในหลายๆด้านคือประวัติของยาเสพติดประเภทของยาสาเหตุของการติดยาผลกระทบ
แนวทางการป้องกันและแก้ไขหน่วยงานที่เกี่ยงข้องและยาเสพติดจะมีปัญหามากกับพวกวัยรุ่นเพราะวัยรุ่นจะเป็นวัยที่อยากรู้อยากลองและในช่วงวัยรุ่นนี้จะเชื่อเพื่อนมากกว่าที่จะเชื่อผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองยาเสพติดเป็นปัญหาที่ใหญ่และยากที่จะแก้ไขเพราะกลัวความผิดที่ตนสร้างขึ้นและไม่กล้าที่จะบอกผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองช่วยกันหาทางแก้ไขกกับพวกวัยรุ่นเพราะวัยรุ่นจะเป็นวัยที่อยากรู้อยากลองและจะเชื่อเพื่อน
ประวัติของยาเสพติด
ยาหรือสารที่ถูกนำมาใช้อย่างผิดๆหรือเสพติดมีใช้กันมานานตั้งแต่มนุษย์เริ่มค้นพบพืชซึ่งเมื่อเสพเข้าไปแล้วทำให้ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลงไปในสมัยโบราณยาหรือสารเหล่านี้มักจะใช้ในพิธีทางศาสนาในอเมริกากลาง
ใช้ต้นไม้จำพวกกระบองเพชรซึ่งมีสารหลอนประสาททำให้เกิดอาการประสาทหลอนเห็นภาพต่างจะและเข้าใจว่าตนสามารถติดต่อกับวิญญาณหรือเทพเจ้าได้ชาวอินเดียนแดงเผ่าอินคา ( อินคา ) ในอเมริกาใต้เคี้ยวใบโคคา ( Coca ) ซึ่งมีโคเคนที่พระเจ้าประทานให้แต่แรกใบโคคานี้ใช้เฉพาะในหมู่พวกกษัตริย์ของเผ่าแต่ต่อมาเมื่อประเทศสเปนเข้าครอบครองชนเหล่านี้ใบโคคาก็ถูกนำมาใช้ในหมู่ชาวอินเดียนแดงทั่วไปเพื่อช่วยให้พวกเขา
มีกำลังทำงานหนักรับใช้ชาวสเปนได้เมื่อวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้าขึ้นยาหรือสารเสพติดก็เพิ่มปริมาณและชนิดขึ้นและมีการนำมาใช้อย่างผิดจะหรือเสพติดกันมากตัวอย่างเช่นฝิ่น
เป็นที่รู้จักและจำหน่ายมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลโดยชาวเมโสโปเตเมีย ( ๕๐๐๐ปีก่อนคริสต , ศักราช ) และแพร่หลายและรักษาโรคบางอย่างเช่นโรคบิดโรคติดสุราฯลฯได้
นานทีเดียวกว่าอังกฤษจะรู้ฤทธิ์ในการเสพติดของฝิ่นและเมื่อนั้นฝิ่นก็ถูกนำไปใช้เพื่อการเสพติดโดยอังกฤษพยายามนำเอาไปแพร่ในเมืองจีนเพื่อให้ชาวจีนติดฝิ่นและตนเองผูกการค้าฝิ่นแต่ผู้เดียวฝิ่นกับประเทศจีนในปีค .ศ . ๑๘๓๙ - ๑๘๔๒ประเทศไทยก็มีประวัติการเสพฝิ่นมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่๑แห่งกรุงศรีอยุธยา
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: