In this report we argue that modern

In this report we argue that modern manufacturing has the potential to be a lead knowledge
economy sector as the recession forces our economy to restructure away from an overdependence on financial services.
The knowledge economy is a phrase often used but seldom defined. It essentially describes a
process whereby the economic competitiveness and performance of organisations and firms
is increasingly determined by their investment in ‘knowledge based’ or intangible assets such
as R&D, design, software, human and organisational capital, and brand equity and less by
investment in physical assets such as machines, buildings, and vehicles1
.
One indicator of the scale and pace of this change is shown in the ratio between business
investment in tangibles and business investment in intangibles. In 1970 UK business investment
in intangibles was worth 40 per cent of investment in tangibles. By 2004 the ratio was 130 per
cent. Recent research using the same methodology shows similar results for the US, Finland
and the Netherlands2
.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในรายงานฉบับนี้เรายืนยันว่าการผลิตที่ทันสมัย​​มีศักยภาพที่จะเป็นความรู้ที่นำไปสู่​​ภาคเศรษฐกิจ
เป็นภาวะถดถอยบังคับให้เศรษฐกิจของเราที่จะปรับโครงสร้างห่างจาก overdependence ให้บริการทางการเงิน
เศรษฐกิจฐานความรู้เป็นวลีที่ใช้บ่อย แต่ไม่ค่อยกำหนด มันเป็นหลักอธิบายถึงกระบวนการ
เหตุสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจและผลการดำเนินงานขององค์กรและ บริษัท
จะถูกกำหนดขึ้นโดยการลงทุนในสินทรัพย์ 'ตามความรู้หรือไม่มีตัวตนดังกล่าวเป็น r
& D, ออกแบบ, ซอฟแวร์ส่วนของทุนมนุษย์และองค์กรและตราสินค้าและน้อยลงโดยการลงทุนในสินทรัพย์
ทางกายภาพเช่นเครื่องจักรอาคารและ vehicles1
.
หนึ่งตัวบ่งชี้ของขนาดและจังหวะของการเปลี่ยนแปลงนี้จะแสดงในอัตราส่วนระหว่างธุรกิจ
การลงทุนในการกายภาพและการลงทุนทางธุรกิจในสินทรัพย์ที่จับต้อง ในปี 1970
UK ธุรกิจการลงทุนในสินทรัพย์ที่จับต้องเป็นมูลค่าร้อยละ 40 ของเงินลงทุนในกายภาพ โดย 2004 อัตราส่วนถูก 130 ร้อยละ
งานวิจัยล่าสุดโดยใช้วิธีการเดียวกันแสดงให้เห็นถึงผลที่คล้ายกันสำหรับเรา, ฟินแลนด์และ netherlands2

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในรายงานนี้ เราโต้เถียงว่า ผลิตที่ทันสมัยมีศักยภาพที่จะนำความรู้
ภาคเศรษฐกิจเป็นภาวะถดถอยกำลังเศรษฐกิจของเราจะปรับโครงสร้างจาก overdependence การบริการทางการเงิน
เศรษฐกิจความรู้เป็นวลีที่ใช้บ่อย แต่ไม่ใคร่มีกำหนด อธิบายถึงหลักการ
โดยดำเนินการแข่งขันทางเศรษฐกิจและประสิทธิภาพขององค์กรและบริษัท
ถูกกำหนดขึ้น โดยการลงทุนใน 'เพิ่มขึ้น' หรือไม่มีตัวตนสินทรัพย์ดังกล่าว
R&D ออกแบบ ซอฟต์แวร์ ทุนมนุษย์ และ organisational และแบรนด์หุ้นน้อยโดย
ลงทุนในสินทรัพย์ทางกายภาพเช่นเครื่องจักร อาคาร และ vehicles1
.
ตัวบ่งชี้หนึ่งก้าวของการเปลี่ยนแปลงนี้และจะแสดงในอัตราส่วนระหว่างธุรกิจ
ลงทุนในธุรกิจการลงทุนใน intangibles tangibles ลงทุนธุรกิจ UK 1970 ใน
ใน intangibles เป็นมูลค่า 40 ร้อยละของการลงทุนใน tangibles โดยปี 2004 อัตราการถูก 130 ต่อ
ร้อยละ ใช้วิธีเดียวกับการวิจัยล่าสุดแสดงผลเหมือนในสหรัฐอเมริกา ฟินแลนด์
และ Netherlands2

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในรายงานฉบับนี้เราให้เหตุผลว่าการผลิตที่ทันสมัยมี ศักยภาพ ที่จะเป็น ภาค เอกชนนำไปสู่ความรู้
เศรษฐกิจเป็น ภาวะ เศรษฐกิจถดถอยที่กองทัพเศรษฐกิจของเราเพื่อเป็นการปรับโครงสร้างอยู่ห่างจาก overdependence ในบริการทางการเงิน
เศรษฐกิจความรู้ที่เป็นคำที่ใช้บ่อยแต่ไม่บ่อยนักที่กำหนด เป็นสิ่งจำเป็นจะอธิบาย
กระบวนการซึ่ง ประสิทธิภาพ และความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของบริษัทและองค์กร
เพิ่มขึ้นเป็นกำหนดโดยการลงทุนใน''ใช้ความรู้หรือสินทรัพย์เช่น
เป็น r&d ,การออกแบบ,ซอฟท์แวร์,เงินทุนมนุษย์และผู้ใช้ในองค์กรและแบรนด์และส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่าโดย
การลงทุนในสินทรัพย์ทาง กายภาพ เช่นเครื่อง,อาคารและรถยนต์ 1
.
แสดงระดับน้ำหนึ่งของขนาดและความเร็วของการเปลี่ยนแปลงที่แสดงในอัตราส่วนระหว่างธุรกิจ
การลงทุนใน tangibles และการลงทุนทางธุรกิจในคาดเดาได้ยาก. ในปี 1970 การลงทุนของธุรกิจสหราชอาณาจักร
ในคาดเดาได้ยากมีมูลค่าเพียงร้อยละ 40 ของการลงทุนใน tangibles 2004 โดยอัตราที่เป็น 130 ต่อ
ร้อยละ การวิจัยในปัจจุบันโดยใช้หลักการเดียวกันจะแสดงผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกันสำหรับเรา,ฟินแลนด์,
และเนเธอร์แลนด์ 2
ที่