Many families and individuals find

Many families and individuals find themselves, at least at some point, questioning the advantages of rural versus urban life. Quality of life is one of the central issues to consider in any comparison between rural versus urban living. While a case can be made for either location as being the best place to live, it is worthwhile to consider how these two options, rural versus urban, are similar and different. Important factors such as the capacity to make general choices, diversity, health, and employment concerns all influence both sides of the comparison and although each both rural and urban living offer great benefits, they both have a seemingly equal number of drawbacks. Rural and urban areas are generally similar in terms of terms of human interaction but differ most widely when diversity and choice are issues.

There are a number of positive as well as negative factors that contribute the overall quality of life in urban centers and if there is any general statement to be made about urban living, it is that there is a great deal of diversity and choice. In urban areas, there are many more choices people can make about a number of aspects of their daily lives. For instance, in urban areas, one is more likely to be able to find many different types of food and this could lead to overall greater health since there could be a greater diversity in diet. In addition, those in urban areas enjoy the opportunity to take in any number of cultural or social events as they have a large list to choose from. As a result they have the opportunity to be more cultured and are more likely to encounter those from other class, cultural, and ethnic groups.

Parents have a number of choices available for the education of their children and can often select from a long list of both public and private school districts, which leads to the potential for better education. It is also worth noting that urban areas offer residents the possibility to choose from a range of employment options at any number of companies or organizations. Aside form this, urbanites have better access to choices in healthcare as well and if they suffer from diseases they have a number of specialists to choose from in their area. According to one study conducted in Canada, “rural populations show poorer health than their urban counterparts, both in terms of general health indicators (i.e. standardized mortality, life expectancy at birth, infant mortality) and in terms of factors such as motor vehicle accidents and being overweight” (Pampalon 421). This could be the result of less reliance on vehicles in urban areas as well as greater emphasis on walking. Despite the conclusions from this study, however, there are a number of drawbacks to urban living as well. Although the life expectancy in cities may be higher, pollution (noise and atmospheric) is an issue that could impact the overall quality of life. In addition to this, overpopulation concerns can also contribute to a decrease in the standard of living.

Rural places do not offer the same level of choice and in very isolated areas and one might be forced to commute long distances to find even a remote selection of the diversity found in urban centers. Still, despite this lack of choice, there are a number of positive sides to rural living in terms of quality of life. For instance, living in a rural area allows residents to enjoy the natural world more easily instead of having to go to parks. In addition, people do not have to fight with the daily stresses of urban life such as being stuck in traffic, dealing with higher rates of crime, and in many cases, paying higher taxes. These absences of stressors can have a great effect on the overall quality of life and as one researcher notes, “People living in rural and sparsely populated areas are less likely to have mental health problems than those living in urban areas and may also be less likely to relapse into depression or mental illness once they have recovered from these in more densely populated areas” (Combs 12).

The lack of daily stress found in cities from external factors (traffic, long lines, feeling caged, etc) has much to do with this. While there may not be a large number of stores and restaurants to choose from, those in rural areas have the benefit of land upon which to grow their own food, which is much healthier. Although urban populations have large numbers of social networks and networking opportunities, rural communities offer residents the ability to have long-lasting and more personal relationships since they encounter the same people more frequently. While there are not as many schools to choose from and sometimes rural schools are not funded as well as some others, children can grow up knowing their classmates and experience the benefits of smaller classrooms.

One of the drawbacks to living in a rural area, however, is that unlike urban areas, residents do not have the best opportunity to choose from a range of employment options. While they can commute to larger towns, this gets expensive and is not as convenient as working close to their residence. In general, if there is any statement to be made about the quality of life of rural living, it is that there is a greater ability to connect with people and the landscape. The quality of life in urban areas is similar to that in rural areas in that both involve a high degree of socialization, even if on a cursory level. Where they differ most noticeably is in the availability of choices and diversity, especially when vital factors (healthcare, education, and employment options) are concerned.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในครอบครัวและบุคคลค้นหาตัวเอง น้อยในบางจุด ซักถามประโยชน์ของชนบทกับเมือง คุณภาพชีวิตเป็นประเด็นกลางเพื่อพิจารณาในการเปรียบเทียบระหว่างชนบทกับพักผ่อน ในขณะที่กรณีได้ในตำแหน่งใดถูกสุดอยู่ จะแนะนำให้วิธีเหล่านี้สองตัวเลือก ชนบทกับเมือง คล้ายคลึงกัน และแตกต่างกัน ปัจจัยที่สำคัญเช่นความสามารถในการทำให้ตัวเลือกทั่วไป ความหลากหลาย สุขภาพ และงานเกี่ยวข้องทั้งหมดมีอิทธิพลต่อทั้งสองด้านเปรียบเทียบ และแม้ว่าแต่ละชีวิตทั้งชนบท และในเมืองมีประโยชน์มาก พวกเขาทั้งสองมีจำนวนข้อเสียเท่าที่ดูเหมือนว่า พื้นที่ชนบท และในเมืองมีลักษณะโดยทั่วไปในรูปแบบของเงื่อนไขของมนุษย์โต้ตอบ แต่แตกต่างกันอย่างแพร่หลายเมื่อความหลากหลายและทางเลือก ปัญหามีปัจจัยบวก เป็นค่าลบที่นำโดยรวมคุณภาพของชีวิตในเมือง และถ้ามีงบทั่วไปใด ๆ การใช้ชีวิตเมือง มันคือมีความหลากหลายและทางเลือกมาก ในพื้นที่เขตเมือง มีตัวเลือกเพิ่มเติมที่หลายคนสามารถทำเกี่ยวกับจำนวนด้านของชีวิตประจำวัน ตัวอย่าง ในพื้นที่เมือง หนึ่งมีแนวโน้มที่จะสามารถหาอาหารชนิดต่าง ๆ และซึ่งอาจทำให้สุขภาพโดยรวมมากขึ้นเนื่องจากอาจมีความหลากหลายมากขึ้นในอาหาร นอกจากนี้ ในพื้นที่เมืองเพลิดเพลินกับโอกาสที่จะเกิดในหลายวัฒนธรรม หรือสังคมเหตุการณ์มีรายการขนาดใหญ่ให้เลือก ดังนั้นพวกเขามีโอกาสที่จะมีอ่าง และมีแนวโน้มที่จะพบจากคลาส วัฒนธรรม และชนเผ่ากลุ่มอื่น ๆผู้ปกครองมีจำนวนตัวเลือกที่พร้อมใช้งานสำหรับการศึกษาของบุตร และมักจะสามารถเลือกจากรายการยาวของรัฐและโรงเรียนเอกชนเขต ซึ่งนำไปสู่ศักยภาพการศึกษาดีกว่า เป็นเร็ว ๆ ให้ พื้นที่เมืองมีผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกจากช่วงของตัวเลือกการจ้างงานที่หมายเลขใด ๆ ของบริษัทหรือองค์กร กันแบบนี้ urbanites ได้เข้าถึงตัวเลือกในการดูแลสุขภาพด้วย และถ้าพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากโรค ที่มีจำนวนผู้เชี่ยวชาญให้เลือกในพื้นที่ของตน ตามหนึ่งศึกษาในแคนาดา "ประชากรชนบทแสดงย่อมสุขกว่าคู่ของพวกเขาเมือง ทั้ง ในตัวบ่งชี้สุขภาพทั่วไป (เช่นมาตรฐานตาย อายุขัยที่เกิด การตายทารก) และในแง่ ของปัจจัยต่าง ๆ เช่นอุบัติเหตุรถยนต์และเป็นภาวะ" (Pampalon 421) นี้อาจเป็นผลมาจากของน้อยพึ่งพายานพาหนะในเขตเมืองมากกว่าเน้นเดิน แม้ มีข้อสรุปจากการศึกษานี้ อย่างไรก็ตาม มีจำนวนข้อเสียการเมืองอยู่เช่น แม้อายุขัยการใช้งานในเมืองอาจสูง มลภาวะ (เสียง และบรรยากาศ) เป็นประเด็นที่อาจส่งผลกระทบโดยรวมคุณภาพชีวิตการ นอกจากนี้ ความกังวล overpopulation สามารถร่วมมาตรฐานการครองชีพลดลงสถานชนบทเสนอระดับเดียวกัน ที่เลือก และบริเวณแยกมาก และหนึ่งที่อาจถูกบังคับให้เดินทางระยะไกลหาแม้เลือกระยะไกลของความหลากหลายทางชีวภาพที่พบในเมือง ยังคง แม้ว่าขาดตัวเลือก มีจำนวนด้านบวกเพื่อชีวิตชนบทในแง่ของคุณภาพชีวิต เช่น อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบททำให้คนเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติได้ง่ายขึ้นแทนที่จะไปสวนสาธารณะ นอกจากนี้ คนไม่ได้ต่อสู้กับความเครียดประจำวันของชีวิตเมืองเช่นกำลังติดอยู่ ในการ จราจร การจัดการกับอาชญากรรม อัตราสูงขึ้น และ ในหลาย กรณี จ่ายภาษีสูง เหล่านี้ขาดลดได้ผลดีในภาพรวมคุณภาพชีวิต และเป็นเหตุหนึ่งนักวิจัย "คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท และสถาปนิกมีแนวโน้มจะมีปัญหาสุขภาพจิตมากกว่าผู้อยู่อาศัยในเขตเมือง และอาจจะน้อยลงน่าจะเป็นโรคซึมเศร้าการกลับไปเสพ หรือทนเจ็บป่วยเมื่อพวกเขาได้กู้คืนจากเหล่านี้ขึ้นหนาแน่นไปเติมพื้นที่" (รวงผึ้ง 12)การขาดของความเครียดประจำวันที่พบในเมืองจากปัจจัยภายนอก (จราจร สายยาว รู้สึก caged ฯลฯ) มีมากที่จะทำนี้ ในขณะที่อาจไม่มีร้านค้าและร้านอาหารให้เลือกเป็นจำนวนมาก ผู้ที่อยู่ในชนบทมีประโยชน์ของที่ดินซึ่งเติบโตอาหารของตนเอง ซึ่งมีสุขภาพดีมาก แม้ว่าประชากรเมืองมีจำนวนมากโอกาสที่ระบบเครือข่ายและเครือข่ายทางสังคม ชุมชนชนบทมีผู้อยู่อาศัยสามารถมีความสัมพันธ์ที่ยาวนาน และส่วนบุคคลมากขึ้นเนื่องจากพวกเขาพบคนเดียวบ่อย ในขณะที่มีกำลังไม่เป็นโรงเรียนให้เลือกมากมายและโรงเรียนชนบทบางครั้ง ไม่ ได้รับการสนับสนุนและบางคนอื่น ๆ เด็กสามารถเติบโตขึ้นรู้จักเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขา และพบประโยชน์ของห้องเรียนขนาดเล็กหนึ่งในข้อเสียจะอยู่ในพื้นที่ชนบท อย่างไรก็ตาม คือว่า แตกต่างจากพื้นที่เมือง คนไม่มีโอกาสดีที่สุดเพื่อเลือกจากช่วงของตัวเลือกการจ้างงาน ในขณะที่พวกเขาสามารถเดินทางไปเมืองใหญ่ นี้จะมีราคาแพง และไม่สะดวกสบายที่ทำงานใกล้กับที่พำนักของพวกเขา ทั่วไป ถ้าไม่มีงบจะทำเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของชีวิตชนบท ได้ว่า มีความสามารถมากขึ้นในการเชื่อมต่อกับบุคคลและภูมิทัศน์ คุณภาพชีวิตในพื้นที่เขตเมืองจะคล้ายกับในชนบทที่ทั้งเกี่ยวข้องกับระดับสูงของการขัดเกลาทางสังคม แม้ในระดับเผิน ๆ ซึ่งจะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดที่สุดอยู่ในความพร้อมของตัวเลือกและความหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความกังวลปัจจัยสำคัญ (ตัวเลือกการดูแลสุขภาพ การศึกษา การจ้าง)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลายครอบครัวและบุคคลที่พบว่าตัวเองอย่างน้อยในบางจุดคำถามข้อได้เปรียบของชนบทเมื่อเทียบกับชีวิตในเมือง คุณภาพชีวิตเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะต้องพิจารณาในการเปรียบเทียบระหว่างชนบทเมื่อเทียบกับการใช้ชีวิตในเมืองใด ๆ ในขณะที่กรณีที่สามารถทำสำหรับสถานที่ตั้งทั้งในฐานะที่เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดที่จะมีชีวิตอยู่มันคุ้มค่าที่จะต้องพิจารณาวิธีการเหล่านี้สองตัวเลือกในชนบทกับเมืองที่มีความคล้ายคลึงและแตกต่าง ปัจจัยที่สำคัญเช่นความสามารถในการตัดสินใจโดยทั่วไปความหลากหลายทางด้านสุขภาพและความกังวลการจ้างงานทั้งหมดอิทธิพลทั้งสองด้านของการเปรียบเทียบและแม้ว่าแต่ละทั้งในชนบทและมีที่อยู่อาศัยในเมืองผลประโยชน์ที่ดีพวกเขาทั้งสองมีจำนวนเท่ากันดูเหมือนของเสีย เขตเมืองและชนบทโดยทั่วไปจะมีความคล้ายคลึงกันในแง่ของการแง่ของการปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ แต่มีความแตกต่างกันอย่างกว้างขวางที่สุดเมื่อความหลากหลายและเลือกเป็นปัญหา. มีจำนวนบวกเช่นเดียวกับปัจจัยลบที่ทำให้เกิดคุณภาพโดยรวมของชีวิตในเมืองและถ้าจะมีก็คือ คำสั่งทั่วไปใด ๆ ที่จะทำเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยในเขตเมืองก็คือว่ามีการจัดการที่ดีของความหลากหลายและทางเลือก พื้นที่ในเมืองมีหลายคนเลือกมากขึ้นสามารถทำเกี่ยวกับจำนวนของแง่มุมของชีวิตประจำวันของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่นในพื้นที่เขตเมืองหนึ่งมีแนวโน้มที่จะสามารถที่จะหาหลายประเภทของอาหารและสิ่งนี้อาจนำไปสู่สุขภาพที่มากขึ้นโดยรวมตั้งแต่อาจจะมีความหลากหลายมากขึ้นในอาหาร นอกจากนี้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เขตเมืองเพลิดเพลินไปกับโอกาสที่จะได้ใช้เวลาในจำนวนของกิจกรรมทางวัฒนธรรมหรือสังคมใด ๆ ที่พวกเขามีรายการใหญ่ที่จะเลือกจาก เป็นผลให้พวกเขามีโอกาสที่จะเพาะเลี้ยงมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะพบผู้ที่มาจากชั้นอื่น ๆ วัฒนธรรมและกลุ่มชาติพันธุ์. พ่อแม่ที่มีจำนวนของตัวเลือกที่ใช้ได้สำหรับการศึกษาของเด็กของพวกเขาและมักจะสามารถเลือกจากรายชื่อยาวของ ทั้งโรงเรียนรัฐและเอกชนซึ่งนำไปสู่ศักยภาพในการศึกษาที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตว่าพื้นที่ในเมืองมีผู้อยู่อาศัยความเป็นไปได้ที่จะเลือกจากช่วงของตัวเลือกการจ้างงานที่จำนวนของ บริษัท หรือองค์กรใด ๆ นอกจากรูปแบบนี้คนเมืองมีการเข้าถึงที่ดีกว่าทางเลือกในการดูแลสุขภาพเป็นอย่างดีและหากพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคที่พวกเขามีจำนวนของผู้เชี่ยวชาญที่จะเลือกจากในพื้นที่ของตน อ้างอิงถึงการศึกษาในประเทศแคนาดา "ประชากรในชนบทแสดงสุขภาพด้อยกว่าคู่เมืองของพวกเขาทั้งในแง่ของตัวชี้วัดสุขภาพทั่วไป (เช่นการตายมาตรฐานอายุขัยที่เกิดการตายของทารก) และในแง่ของปัจจัยต่าง ๆ เช่นการเกิดอุบัติเหตุยานยนต์และ การมีน้ำหนักเกิน "(Pampalon 421) ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นน้อยลงในยานพาหนะในพื้นที่เขตเมืองเช่นเดียวกับการเน้นความสำคัญในการเดิน แม้จะมีข้อสรุปจากการศึกษานี้ แต่มีจำนวนของเสียกับการใช้ชีวิตในเมืองได้เป็นอย่างดี แม้ว่าอายุขัยในเมืองอาจจะสูงมลพิษ (เสียงและบรรยากาศ) เป็นปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตโดยรวม นอกจากนี้ความกังวลล้นนอกจากนี้ยังสามารถนำไปสู่การลดลงในมาตรฐานการครองชีพ. สถานที่ชนบทไม่ได้นำเสนอในระดับเดียวกันในการเลือกและในพื้นที่ที่แยกมากและหนึ่งอาจถูกบังคับให้ต้องเดินทางไกลไปหาได้จากระยะไกลของตัวเลือก ความหลากหลายที่พบในเมือง แต่ถึงกระนั้นแม้จะไม่มีทางเลือกนี้มีจำนวนของด้านบวกกับการใช้ชีวิตในชนบทในแง่ของคุณภาพชีวิต ยกตัวอย่างเช่นที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทช่วยให้ผู้อยู่อาศัยจะเพลิดเพลินไปกับโลกธรรมชาติได้ง่ายขึ้นแทนที่จะต้องไปที่สวนสาธารณะ นอกจากนี้ผู้คนจะได้ไม่ต้องต่อสู้กับความเครียดในชีวิตประจำวันของชีวิตในเมืองเช่นการติดอยู่ในการจราจร, การจัดการกับราคาที่สูงขึ้นของอาชญากรรมและในหลายกรณีการจ่ายภาษีที่สูงขึ้น ขาดเหล่านี้ของความเครียดจะมีผลดีในคุณภาพโดยรวมของชีวิตและเป็นหนึ่งในบันทึกนักวิจัย "ผู้คนที่อาศัยอยู่ในชนบทและพื้นที่ที่มีประชากรเบาบางมีโอกาสน้อยที่จะมีปัญหาสุขภาพจิตมากกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองและก็อาจจะมีโอกาสน้อยกว่า การกำเริบของโรคในภาวะซึมเศร้าหรือความเจ็บป่วยทางจิตเมื่อพวกเขาได้หายจากเหล่านี้ในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นมากขึ้น "(รวงผึ้ง 12). ขาดของความเครียดในชีวิตประจำวันพบในเมืองจากปัจจัยภายนอก (การจราจรเส้นยาว, ความรู้สึกขัง ฯลฯ ) มีมากจะทำอย่างไร กับเรื่องนี้ ในขณะที่มีอาจจะไม่ได้เป็นจำนวนมากของร้านค้าและร้านอาหารให้เลือกจากผู้ที่อยู่ในพื้นที่ชนบทได้รับประโยชน์จากที่ดินซึ่งจะเติบโตอาหารของตัวเองซึ่งเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพ แม้ว่าประชากรในเขตเมืองมีจำนวนมากของเครือข่ายทางสังคมและโอกาสเครือข่ายชุมชนที่อาศัยอยู่ในชนบทมีความสามารถในการมีความสัมพันธ์ที่ยาวนานและส่วนบุคคลมากขึ้นเนื่องจากพวกเขาพบคนเดียวกันบ่อยครั้งมากขึ้น ในขณะที่มีจะไม่เป็นที่โรงเรียนจำนวนมากให้เลือกและบางครั้งโรงเรียนในชนบทที่ไม่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีในขณะที่บางคนอื่น ๆ เด็กสามารถเติบโตได้รู้ว่าเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาและสัมผัสกับผลประโยชน์ของห้องเรียนที่มีขนาดเล็ก. หนึ่งในข้อเสียที่จะอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทอย่างไรก็ตาม เป็นที่แตกต่างจากพื้นที่ในเมืองที่อาศัยอยู่ไม่ได้มีโอกาสที่ดีที่สุดในการเลือกจากช่วงของตัวเลือกการจ้างงาน ในขณะที่พวกเขาสามารถเดินทางไปเมืองใหญ่นี้ได้รับมีราคาแพงและไม่ได้เป็นความสะดวกที่ทำงานใกล้กับที่อยู่อาศัยของพวกเขา โดยทั่วไปถ้ามีคำสั่งใด ๆ ที่จะทำเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของผู้ที่อาศัยอยู่ในชนบทก็คือว่ามีความสามารถในการเชื่อมต่อกับผู้คนและภูมิทัศน์ คุณภาพชีวิตในพื้นที่เขตเมืองจะคล้ายกับที่ในพื้นที่ชนบทในการที่ทั้งสองเกี่ยวข้องกับระดับสูงของการขัดเกลาทางสังคมแม้ว่าในระดับคร่าวๆ ที่พวกเขาแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดมากที่สุดอยู่ในความพร้อมของทางเลือกและความหลากหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปัจจัยสำคัญ (การดูแลสุขภาพ, การศึกษา, และตัวเลือกการจ้างงาน) มีความกังวล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลายครอบครัวและบุคคลพบตัวเอง อย่างน้อยในบางจุด ถามข้อดีของชนบทเมื่อเทียบกับชีวิตในเมือง คุณภาพของชีวิตเป็นหนึ่งในปัญหาที่ส่วนกลาง เพื่อพิจารณาในการเปรียบเทียบระหว่างชนบทกับชีวิตเมือง ขณะที่กรณีสามารถทำได้ทั้งสถานที่ที่เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดที่จะอยู่ มันคุ้มค่าที่จะพิจารณาวิธีการเหล่านี้สองตัวเลือก ชนบทกับเมืองคล้ายคลึงกันและแตกต่าง ปัจจัยที่สำคัญเช่นความสามารถในการเลือกทั่วไป , ความหลากหลาย , สุขภาพ , และความกังวลการจ้างงานทั้งหมดอิทธิพลทั้งในด้านของการเปรียบเทียบทั้งในเมืองและในชนบท และแม้ว่าแต่ละชีวิตให้ประโยชน์มาก พวกเขาทั้งสองมีตัวเลขปรากฏอยู่เท่ากัน ข้อเสียเมืองและชนบทโดยทั่วไปจะคล้ายกันในแง่ของเงื่อนไขของการปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์แต่แตกต่างกันอย่างกว้างขวางเมื่อความหลากหลายและทางเลือก คือประเด็น

มีตัวเลขเป็นบวก รวมทั้งปัจจัยลบที่ส่งผลคุณภาพโดยรวมของชีวิตในศูนย์เมืองและหากมีงบที่จะทำเรื่องทั่วไปใด ๆอยู่ในเมือง มันคือ มีการจัดการที่ดีของความหลากหลายและทางเลือกในเขตเมือง มีหลายทางเลือกมากขึ้น ผู้คนสามารถทำเกี่ยวกับจำนวนของด้านของชีวิตทุกวันของพวกเขา ตัวอย่างเช่นในเขตเมือง , หนึ่งมีแนวโน้มที่จะสามารถหาหลายประเภทของอาหารนี้สามารถนำไปสู่สุขภาพโดยรวมมากกว่า เนื่องจากอาจจะมีความหลากหลายมากขึ้นในอาหาร นอกจากนี้ผู้ที่อยู่ในเขตเมืองมีโอกาสที่จะใช้ในหมายเลขใด ๆของวัฒนธรรมหรือสังคมเช่นที่พวกเขามีรายการขนาดใหญ่เพื่อเลือกจาก เป็นผลให้พวกเขามีโอกาสที่จะเพาะเลี้ยงมากขึ้น และมีโอกาสที่จะพบจากคลาส วัฒนธรรมอื่น ๆและกลุ่มชาติพันธุ์

ผู้ปกครองมีหมายเลขของตัวเลือกที่พร้อมใช้งานสำหรับการศึกษาของเด็กของพวกเขาและมักจะสามารถเลือกจากรายการที่ยาวนานของทั้งภาครัฐและเอกชน โรงเรียน ซึ่งจะนำไปสู่ศักยภาพที่ดีกว่าการศึกษา นอกจากนี้ยังมีมูลค่า noting ที่เขตเมืองให้ผู้อยู่อาศัยความเป็นไปได้เพื่อเลือกจากช่วงของตัวเลือกการจ้างงานในหมายเลขใด ๆของ บริษัท หรือองค์กร นอกเหนือจากรูปแบบนี้ครั้งแรกได้ดีกว่าการเข้าถึงตัวเลือกในการดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี และถ้าพวกเขาประสบจากโรคที่พวกเขามีจำนวนของผู้เชี่ยวชาญที่จะเลือกจากในพื้นที่ของตน ตามหนึ่งศึกษาดำเนินการในแคนาดา ประชากรในชนบทยากจนกว่า counterparts ของพวกเขาแสดงสุขภาพชุมชน ทั้งในแง่ของตัวชี้วัดสุขภาพทั่วไป ( เช่นมาตรฐานอัตราการตาย อายุขัยเฉลี่ยเมื่อแรกเกิดอัตราการตายของทารก ) และในแง่ของปัจจัยต่างๆ เช่น อุบัติเหตุรถยนต์ และคนอ้วน " ( pampalon 421 ) นี้อาจจะมีผลน้อยพึ่งพายานพาหนะในเขตเมืองรวมทั้งมากกว่าเน้นเดิน แม้จะมีข้อสรุปจากการศึกษานี้ , อย่างไรก็ตาม , มีจำนวนของข้อเสียกับชีวิตเมืองได้เป็นอย่างดี แม้ว่าชีวิตในเมือง อาจจะสูงขึ้นมลพิษเสียงและบรรยากาศ ) เป็นปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพโดยรวมของชีวิต นอกจากนี้ ความกังวลมีคนมากไปก็ช่วยลดมาตรฐานการครองชีพ .

สถานที่ในชนบทไม่ได้มีในระดับเดียวกันของทางเลือกและในพื้นที่ที่โดดเดี่ยวมาก และอาจถูกบังคับให้เดินทางระยะไกลเพื่อค้นหาแม้แต่ระยะไกลเลือกของความหลากหลายที่พบในศูนย์เมือง ถึงแม้ว่า การขาดทางเลือก มีจำนวนของด้านบวกกับชีวิตชนบท ในแง่คุณภาพของชีวิต สำหรับอินสแตนซ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยจะเพลิดเพลินกับธรรมชาติของโลกได้ง่ายขึ้น แทนที่จะต้องไปที่สวนสาธารณะ นอกจากนี้ ประชาชนไม่ต้องต่อสู้กับความเครียดในชีวิตประจำวันของชีวิตในเมือง เช่น ติดอยู่ในการจราจรที่เกี่ยวข้องกับอัตราที่สูงขึ้นของอาชญากรรม และในหลายกรณี ภาษีจ่ายที่สูงขึ้นการหายตัวไปของบุคคลเหล่านี้สามารถมีผลต่อคุณภาพโดยรวมของชีวิต และเป็นคนหนึ่งบันทึก" คนที่อาศัยอยู่ในชนบทและพื้นที่ที่มีประชากรเบาบางมีโอกาสน้อยที่จะมีปัญหาสุขภาพจิตมากกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง และอาจจะมีโอกาสน้อยที่จะกลับไปสู่สภาพเดิมหรือความเจ็บป่วยทางจิตเมื่อพวกเขาได้หายจากเหล่านี้ในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นมากขึ้น " ( หวี 12 ) .

ไม่มีความเครียดทุกวัน ที่พบในเมืองจาก ปัจจัยภายนอก ( จราจร สายยาว รู้สึกอยู่ในกรง ,ฯลฯ ) มีมากจะทำอย่างไรกับนี้ ในขณะที่มันอาจเป็นตัวเลขขนาดใหญ่ของร้านค้าและร้านอาหารให้เลือก ผู้ที่อยู่ในชนบทได้ประโยชน์ของแผ่นดินที่เติบโตอาหารของตัวเอง ซึ่งเป็นมาก healthier ถึงแม้ว่าประชากรในเขตเมืองมีตัวเลขขนาดใหญ่ของเครือข่ายทางสังคมเครือข่ายและโอกาสชุมชนชนบท ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถได้ยาวนานและความสัมพันธ์ส่วนบุคคลมากขึ้นเนื่องจากพวกเขาเจอกันบ่อยขึ้น ในขณะที่มีไม่ได้เป็นโรงเรียนให้เลือกมากมาย และบางครั้งในชนบทโรงเรียนไม่สนับสนุน เช่นเดียวกับคนอื่น ๆสามารถเติบโตรู้เพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาและประสบการณ์ประโยชน์ของห้องเรียนเล็ก

หนึ่งในข้อเสียที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท อย่างไรก็ตาม คือ ว่า แตกต่างจากเขตเมือง ชาวบ้านไม่มีโอกาสที่ดีที่สุดเพื่อเลือกจากช่วงของตัวเลือกการจ้างงาน ในขณะที่พวกเขาสามารถเดินทางไปยังเมืองใหญ่ จะแพง และไม่สะดวกทำงานใกล้ที่พัก โดยทั่วไป หากมีงบที่จะทำเกี่ยวกับคุณภาพของชีวิตของชีวิตชนบทมันมีความสามารถมากขึ้นในการติดต่อกับผู้คน และภูมิประเทศ คุณภาพของชีวิตในพื้นที่เขตเมือง คล้ายกับว่าในชนบทที่เกี่ยวข้องกับระดับสูงของสังคม แม้ว่าในระดับที่รวดเร็วมาก ซึ่งแตกต่างมากที่สุดที่เห็นได้ชัดคือในความพร้อมของทางเลือกและความหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปัจจัยสําคัญ ( สุขภาพ , การศึกษา ,และตัวเลือกการจ้างงาน ) มีความกังวล