Taiwan has a developed capitalist e

Taiwan has a developed capitalist economy that ranks as the 19th-largest in the world by purchasing power parity (PPP), ranks as 18th in the world by gross domestic product (GDP) at purchasing power parity per capita (person), and 24th in nominal GDP of investment and foreign trade by the Republic of China (ROC) government, commonly referred to as Taiwan. The economy of Taiwan ranks the highest in Asia for 2015 Global Entrepreneurship Index (GEI) for specific strengths.[10] Most large government-owned banks and industrial firms have been privatized. With the technocracy-centered economic planning [11] under martial law until 1987, real growth in GDP has averaged about 8% during the past three decades. Exports have grown even faster and since World War II, have provided the primary impetus for industrialization. Inflation and unemployment are low; the trade surplus is substantial; and foreign reserves are the world's fourth largest. Agriculture contributes 3% to GDP, down from 35% in 1952, and the service sector makes up 73% of the economy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไต้หวันมีเศรษฐกิจทุนพัฒนาที่ยศเป็น 19 ใหญ่ที่สุดในโลกโดยเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ (PPP), เป็นอันดับ 18 ในโลก โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่เท่าเทียมกันของอำนาจซื้อต่อหัว (บุคคล), และ 24 ใน GDP ระบุการลงทุนและการค้าต่างประเทศ โดยรัฐบาลสาธารณรัฐจีน (ROC) โดยทั่วไปเรียกว่าไต้หวัน เศรษฐกิจไต้หวันอันดับสูงสุดในเอเชียสำหรับ 2015 สากลผู้ประกอบการดัชนี (GEI) สำหรับจุดแข็งเฉพาะ [10] ธนาคารใหญ่ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของและบริษัทอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ได้ถูก privatized ด้วยการ technocracy ศูนย์กลางเศรษฐกิจวางแผน [11] ภายใต้กฎอัยการศึกจนกระทั่ง 1987 เติบโต real GDP มี averaged ประมาณ 8% ในช่วงสามทศวรรษ ส่งออกมีการเติบโตได้เร็ว และตั้งแต่สงครามโลก ให้แรงผลักดันหลักการทวีความรุนแรงมาก อัตราเงินเฟ้อและการว่างงานจะต่ำ ดุลการค้าจะพบ และทุนสำรองต่างประเทศมี 4 ใหญ่ที่สุดในโลก เกษตรรวม 3% GDP ลงจาก 35% ใน 1952 และภาคบริการทำให้ 73% ของเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไต้หวันมีการพัฒนาเศรษฐกิจทุนนิยมที่จัดอันดับเป็นที่ 19 ใหญ่ที่สุดในโลกโดยการซื้อเท่าเทียมกันของอำนาจ (PPP) จัดอันดับเป็นที่ 18 ในโลกโดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่ซื้อเท่าเทียมกันของอำนาจต่อหัว (คน) และ 24 ใน จีดีพีของการลงทุนและการค้าต่างประเทศโดยสาธารณรัฐจีน (ROC) รัฐบาลปกติจะเรียกว่าไต้หวัน เศรษฐกิจของไต้หวันอันดับที่สูงที่สุดในเอเชีย 2015 ดัชนีผู้ประกอบการทั่วโลก (GEI) สำหรับจุดแข็งที่เฉพาะเจาะจง. [10] ขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ธนาคารที่รัฐบาลเป็นเจ้าของและ บริษัท อุตสาหกรรมได้รับการแปรรูป ด้วยการวางแผนเศรษฐกิจทีเป็นศูนย์กลาง [11] ภายใต้กฎอัยการศึกจนถึงปี 1987 การเติบโตของจีดีพีที่แท้จริงในการได้เฉลี่ยประมาณ 8% ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา การส่งออกมีการเติบโตได้เร็วขึ้นและตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองได้ให้แรงผลักดันหลักสำหรับอุตสาหกรรม อัตราเงินเฟ้อและการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ; เกินดุลการค้าเป็นอย่างมาก; และเงินสำรองต่างประเทศของโลกที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ เกษตรก่อ 3% ต่อจีดีพีลดลงจาก 35% ในปี 1952 และภาคบริการทำให้ขึ้น 73% ของเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไต้หวันมีการพัฒนาเศรษฐกิจทุนนิยมที่อันดับที่ 19 ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการซื้อพลังงานความเท่าเทียมกัน ( PPP ) , อันดับที่ 18 ใน โลก โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ( GDP ) ในอยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้ายต่อหัว ( บุคคล ) และ 24 ในนามภาคการลงทุนและการค้าต่างประเทศโดยสาธารณรัฐจีน ( ROC ) รัฐบาล , โดยทั่วไปเรียกว่าไต้หวันเศรษฐกิจของไต้หวัน อันดับสูงสุดในเอเชียสำหรับ 2015 ดัชนีผู้ประกอบการทั่วโลก ( มาก ) สำหรับเฉพาะจุดแข็ง [ 10 ] ที่ใหญ่ที่สุด - เจ้าของธนาคารและอุตสาหกรรม บริษัท ได้รับการ แปรรูป กับคตินิยมนักวิชาการเป็นศูนย์กลางการวางแผนเศรษฐกิจ [ 11 ] ภายใต้กฎอัยการศึก จนกระทั่งปี 1987 , การเจริญเติบโตที่แท้จริงใน GDP ได้เฉลี่ยประมาณ 8% ในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมาการส่งออกมีการเติบโตเร็ว และตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง มีแรงผลักดันหลักสำหรับภาคอุตสาหกรรม อัตราเงินเฟ้อและการว่างงานจะต่ำ เกินดุลเป็นรูปธรรม และกองทุนการเงินระหว่างประเทศของโลกที่สี่ที่ใหญ่ที่สุด การเกษตรจัดสรร 3 % ของ GDP ลดลงจาก 35% ในปี 1952 และภาคบริการให้ขึ้น 73% ของเศรษฐกิจ