Coaches and spectators often imply

Coaches and spectators often imply that elite players
are in some way ‘‘gifted’’ with unique abilities that
ensure that they will achieve excellence within the
sport in question. In support of this presumption,
scientists argue that we are not all born equal and
that certain individuals may be endowed with
characteristics that predispose them towards achieving
excellence more than others (Bouchard, Malina,
& Pe´russe, 1997; Rowe, 1998). However, to achieve
excellence in any domain, individuals have to spend
a considerable amount of time trying to improve
performance through practice-related activities
(Ericsson, Krampe, & Tesch-Ro¨mer, 1993; Howe,
Davidson, & Slaboda, 1998). A consistent observation
is that elite performers in the sports, arts and
sciences accumulate in excess of 10,000 hours of
practice before reaching an international level of
performance (i.e. the so called 10-year rule; Simon &
Chase, 1973). It is likely that the development of
expertise is dependent on a complex recipe where
innate hereditary factors are blended with the correct
environmental factors, such as the influence of
parents and coaches, as well as an individual’s
commitment and motivation to practise (for a recent
discussion, see Starkes & Ericsson, 2003).

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โค้ชและผู้ชมมักจะบ่งบอกว่าผู้เล่นยอดเยี่ยมอยู่ในบางวิธี '' พรสวรรค์ '' มีความสามารถพิเศษที่ให้แน่ใจว่าพวกเขาจะบรรลุความเป็นเลิศในการเล่นกีฬาในคำถาม ในการสนับสนุนข้อสันนิษฐานนี้นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าเราจะไม่ได้เกิดทุกคนเท่าเทียมกันและบางคนที่อาจจะกอปรด้วยลักษณะที่จูงใจให้พวกเขาบรรลุความเป็นเลิศกว่าคนอื่นๆ (Bouchard มาลีน่า, และ Pe'russe, 1997; Rowe, 1998) อย่างไรก็ตามเพื่อให้บรรลุความเป็นเลิศในโดเมนใด ๆ บุคคลที่มีการใช้จ่ายจำนวนมากของเวลาพยายามที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติผ่านกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง(อีริคสัน Krampe & Tesch-โรเมอร์ 1993; ไม่ว่าเดวิดสันและSlaboda, 1998) . สังเกตที่สอดคล้องกันคือการที่นักแสดงที่ยอดเยี่ยมในการเล่นกีฬาศิลปะและวิทยาศาสตร์สะสมในส่วนที่เกินจาก10,000 ชั่วโมงของการปฏิบัติก่อนที่จะถึงในระดับนานาชาติของผลการดำเนินงาน(เช่นที่เรียกว่ากฎ 10 ปีไซมอน & เชส, 1973) มันเป็นไปได้ว่าการพัฒนาของความเชี่ยวชาญจะขึ้นอยู่กับสูตรที่ซับซ้อนที่ปัจจัยทางพันธุกรรมโดยธรรมชาติผสมผสานกับถูกต้องปัจจัยสิ่งแวดล้อมเช่นอิทธิพลของพ่อแม่และโค้ชรวมทั้งแต่ละคนมุ่งมั่นและแรงจูงใจในการปฏิบัติ(สำหรับที่ผ่านมาการอภิปรายให้ดู Starkes และอีริคสัน, 2003)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โค้ชและผู้ชมมักจะบ่งบอกว่าผู้เล่นชั้นยอด
ในบางวิธี ' 'gifted ' ' กับความสามารถเฉพาะตัวที่
ให้แน่ใจว่า พวกเขาจะบรรลุความเป็นเลิศใน
กีฬาในคำถาม สนับสนุนข้อสันนิษฐานนี้
นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า เราไม่ได้เกิดมาเท่าเทียมกัน
ที่บางบุคคลอาจจะ endowed กับ
ลักษณะที่จูงใจเหล่านั้นไปสู่ขบวนการ
เป็นเลิศกว่าผู้อื่น ( บูชาร์ด Malina
, , & PE ใหม่ russe , 1997 ; Rowe , 1998 ) อย่างไรก็ตาม เพื่อให้บรรลุความเป็นเลิศในการใด ๆโดเมน

, บุคคลที่มีการใช้จ่ายจำนวนมากเวลาพยายามที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพผ่านการปฏิบัติกิจกรรม

( Ericsson krampe & ro , tesch ตั้งเมอร์ , 1993 ; Howe
เดวิดสัน & slaboda , 1998 ) เป็นข้อสังเกตที่สอดคล้องกันเป็นนักแสดงที่ยอด

ใน กีฬา ศิลปะ และวิทยาศาสตร์สะสมเกินของ
ฝึก 10000 ชั่วโมงก่อนที่จะถึงระดับสากลของ
ประสิทธิภาพ ( เช่น 10 ปีจึงเรียกกฎ ; ไซม่อน&
Chase , 1973 ) มันเป็นโอกาสที่การพัฒนา
ความเชี่ยวชาญขึ้นอยู่กับสูตรที่ซับซ้อนซึ่งจะผสมกับปัจจัยทางพันธุกรรมโดยธรรมชาติ

ถูกต้อง ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม เช่น อิทธิพลของ
พ่อแม่ และโค้ชเช่นเดียวกับของ
บุคคลความมุ่งมั่นและแรงจูงใจที่จะฝึก ( ล่าสุด
อภิปราย เห็น starkes & Ericsson , 2003 )