AbstractObjective To investigate wh

Abstract
Objective To investigate whether work related stress, measured and defined as job strain, is associated with the overall risk of cancer and the risk of colorectal, lung, breast, or prostate cancers.

Design Meta-analysis of pooled prospective individual participant data from 12 European cohort studies including 116 056 men and women aged 17-70 who were free from cancer at study baseline and were followed-up for a median of 12 years. Work stress was measured and defined as job strain, which was self reported at baseline. Incident cancers (all n=5765, colorectal cancer n=522, lung cancer n=374, breast cancer n=1010, prostate cancer n=865) were ascertained from cancer, hospital admission, and death registers. Data were analysed in each study with Cox regression and the study specific estimates pooled in meta-analyses. Models were adjusted for age, sex, socioeconomic position, body mass index (BMI), smoking, and alcohol intake

Results A harmonised measure of work stress, high job strain, was not associated with overall risk of cancer (hazard ratio 0.97, 95% confidence interval 0.90 to 1.04) in the multivariable adjusted analyses. Similarly, no association was observed between job strain and the risk of colorectal (1.16, 0.90 to 1.48), lung (1.17, 0.88 to 1.54), breast (0.97, 0.82 to 1.14), or prostate (0.86, 0.68 to 1.09) cancers. There was no clear evidence for an association between the categories of job strain and the risk of cancer.

Conclusions These findings suggest that work related stress, measured and defined as job strain, at baseline is unlikely to be an important risk factor for colorectal, lung, breast, or prostate cancers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบว่าการทำงานความเครียดที่เกี่ยวข้องกับการวัดและกำหนดให้เป็นสายพันธุ์ที่งานมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโดยรวมของโรคมะเร็งและความเสี่ยงของลำไส้ใหญ่, ปอดเต้านมหรือมะเร็งต่อมลูกหมาก. ออกแบบการวิเคราะห์อภิมาของข้อมูลผู้เข้าร่วมแต่ละคนที่คาดหวังรวบรวมจาก 12 ศึกษาการศึกษายุโรปรวมทั้ง 116 056 ชายและหญิงอายุ 17-70 ที่เป็นอิสระจากโรคมะเร็งที่ baseline การศึกษาและมีตามขึ้นสำหรับค่าเฉลี่ย 12 ปี ความเครียดจากการทำงานได้รับการวัดและกำหนดให้เป็นสายพันธุ์ที่งานซึ่งได้รับการรายงานตนเองที่ baseline อัตราการเกิดมะเร็ง (ทั้งหมด n = 5765, มะเร็งลำไส้ใหญ่ n = 522, โรคมะเร็งปอด n = 374, มะเร็งเต้านม n = 1010, มะเร็งต่อมลูกหมาก n = 865) ได้รับการตรวจสอบจากโรคมะเร็งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลและเสียชีวิตลงทะเบียน วิเคราะห์ข้อมูลในแต่ละการศึกษาที่มีการถดถอย Cox และการศึกษาประมาณการเฉพาะ pooled ในการวิเคราะห์อภิมา รุ่นที่ได้รับการปรับอายุเพศฐานะทางสังคมและเศรษฐกิจดัชนีมวลกาย (BMI), การสูบบุหรี่และการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผลการวัดความกลมกลืนของความเครียดจากการทำงานความเครียดในการทำงานสูงก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโดยรวมของโรคมะเร็ง (ค่า hazard ratio 0.97, 95% ช่วงความเชื่อมั่น 0.90-1.04) ในการวิเคราะห์การปรับหลายตัวแปร ในทำนองเดียวกันการเชื่อมโยงไม่ถูกพบระหว่างล้าจากการทำงานและความเสี่ยงของลำไส้ใหญ่ (1.16, 0.90-1.48), ปอด (1.17, 0.88-1.54), เต้านม (0.97, 0.82-1.14) หรือต่อมลูกหมาก (0.86, 0.68-1.09) การเกิดโรคมะเร็ง . ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเภทของล้าจากการทำงานและความเสี่ยงของโรคมะเร็ง. สรุปผลการค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความเครียดวัดและกำหนดให้เป็นสายพันธุ์งานที่ baseline ไม่น่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับลำไส้ใหญ่ปอด เต้านมหรือมะเร็งต่อมลูกหมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
วัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับงานความเครียด การวัดและกำหนดงานความเครียด มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงโดยรวมของมะเร็งและความเสี่ยงของลำไส้ใหญ่ ปอด เต้านม ต่อมลูกหมากหรือมะเร็ง .

การออกแบบการวิเคราะห์ข้อมูล meta รวมผู้เข้าร่วมแต่ละที่คาดหวังจากการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ 12 ยุโรปรวมทั้ง 116   056 ชายและหญิงอายุ 17-70 ที่ได้ฟรีจากมะเร็งที่เริ่มต้นศึกษาและติดตามเพื่อเฉลี่ย 12 ปี ความเครียดงานวัดและกำหนดงานความเครียด ซึ่งรายงานของตนเองที่ระดับ มะเร็งทั้งหมดในเหตุการณ์ ( n = n = 522 , มะเร็งลำไส้ใหญ่ ,โรคมะเร็งปอดโรคมะเร็งเต้านมจำนวน 374 , n = 1010 , มะเร็งต่อมลูกหมาก n = 1 ) การตรวจสอบจากโรคมะเร็ง เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และทะเบียนการตาย วิเคราะห์ข้อมูลในแต่ละการศึกษากับค็อกซ์ถดถอยและศึกษาเฉพาะรวมในประมาณการ โดยวิธีการวิเคราะห์เมต้า . โมเดลการปรับอายุ เพศ ฐานะทางเศรษฐกิจ ดัชนีมวลร่างกาย ( BMI ) , การสูบบุหรี่ และการบริโภคแอลกอฮอล์

ผลลัพธ์ Harmonised วัดความเครียดในงานสูง ความเครียด ไม่มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงโดยรวมของโรคมะเร็ง ( อันตรายเท่ากับ 0.97 , 95% ช่วงความเชื่อมั่น 0.90 1.04 ) ใน multivariable ปรับองค์ประกอบ เช่นเดียวกับ สมาคมไม่พบระหว่างความเครียดงาน และความเสี่ยงของลำไส้ใหญ่ ( 1.16 , 0.90 1.48 ) , ปอด ( เท่ากับ 0.88 ถึง 1.54 ) เต้านม ( 0.97 , 0.82 1.14 ) หรือต่อมลูกหมาก ( 0.86 0.68 109 ) มะเร็ง ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเภทของงานความเครียดและความเสี่ยงของมะเร็ง .

สรุปผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าทำงานที่เกี่ยวข้องกับความเครียด การวัดและกำหนดงานความเครียด ที่ 0 ก็ไม่น่าที่จะเป็นปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญสำหรับลำไส้ใหญ่ ปอด เต้านม ต่อมลูกหมากหรือมะเร็ง