Young women and pregnancy Young wom

Young women and pregnancy
Young women who have risk factors for osteoporosis and fractures need to carefully consider their medication options if they are planning a pregnancy. None of the drugs for managing osteoporosis has enough safety data available to recommend using them in women who are pregnant or breastfeeding.
Bisphosphonates, even after you stop taking them, can stay in your body a long time. Animal studies show that bisphosphonates cross the mother’s placenta and enter the fetus. The risk of harm to the fetus in humans is not known. Thus, women who want to become pregnant later should weigh the expected benefits of bisphosphonates against the possible risks. If a woman who has taken a bisphosphonate becomes pregnant, she should have her blood calcium levels checked, because they could become low.
Prevention
Lifestyle changes may be the best way of preventing osteoporosis. Here are some tips:
Make sure you get enough calcium in your diet or through supplements (roughly 1,000–1,200 mg/day, but will depend on your age).
Get enough vitamin D (400–1,000 IU/day, depending on your age and your blood level of vitamin D measured by your doctor).
Stop smoking.
Avoid excess alcohol intake: no more than two or three drinks a day.
Engage in weight-bearing exercise. Aim for at least 2½ hours a week (30 minutes a day five times a week or 50 minutes a day three times a week), or as much as you can. Exercises that can improve balance, such as Tai Chi or yoga, may help prevent falls.

You also should get treatment of any underlying medical problem that can cause osteoporosis. If you are on a medication that can cause osteoporosis, ask your doctor if you can lower the dose or take another type of medicine. Never change the dose or stop taking any medicine without speaking to your doctor first.
If you have low bone density and a high risk of breaking a bone, your doctor may suggest medicine to prevent your bones from getting weaker. (See the section “How is glucocorticoid-osteoporosis treated?”) Health care providers now have a tool for estimating the risk of a patient’s having an osteoporotic fracture in the next 10 years. This fracture risk assessment tool, from the World Health Organization, is called FRAX. The score can help guide treatment decisions.
What is the broader health impact of osteoporosis?
The most serious health consequence of osteoporosis is a fracture. Spine and hip fractures especially may lead to chronic pain, long-term disability and even death. The main goal of treating osteoporosis is to prevent fractures.
Living with osteoporosis
If you have osteoporosis, it is important to help prevent not just further bone loss but also a fracture. Here are some ways to decrease your chance of falls:
Use a walking aid. If you are unsteady, use a cane or walker.
Remove hazards in the home. Remove throw rugs. Also, remove or secure loose wires or cables that may make you trip. Add nightlights in the hallways leading to the bathroom. Install grab bars in the bathroom and nonskid mats near sinks and the tub.
Get help carrying or lifting heavy items. If you are not careful, you could fall, or even suffer a spine fracture without falling.
Wear sturdy shoes. This is above all true in winter or when it rains.

Points to remember
Make sure there is enough calcium and vitamin D in your diet.
Be physically active and do weight-bearing exercises, like walking, most days each week.
Change lifestyle choices that raise your risk of osteoporosis.
Implement strategies to help decrease your risk of falling.

The rheumatologist's role in the treatment of osteoporosis
As doctors who are experts in diagnosing and treating diseases of the joints, muscles and bones, rheumatologists can help find the cause of osteoporosis. They can provide and monitor the best treatments for this condition.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หญิงสาวตั้งครรภ์และ
หญิงสาวที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนและกระดูกหักต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเลือกใช้ยาของพวกเขาหากพวกเขากำลังวางแผนการตั้งครรภ์ ไม่มีของยาเสพติดในการจัดการโรคกระดูกพรุนมีข้อมูลความปลอดภัยเพียงพอที่จะแนะนำให้ใช้พวกเขาในผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร.
bisphosphonates แม้หลังจากที่คุณหยุดการพวกเขาสามารถอยู่ในร่างกายของคุณเป็นเวลานาน การศึกษาแสดงให้เห็นว่าสัตว์ bisphosphonates ข้ามรกของแม่และทารกในครรภ์ป้อน ความเสี่ยงของการเกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ในมนุษย์ไม่เป็นที่รู้จัก ดังนั้นผู้หญิงที่ต้องการที่จะตั้งครรภ์ภายหลังควรชั่งน้ำหนักผลประโยชน์ที่คาดว่าจะของ bisphosphonates กับความเสี่ยงที่เป็นไปได้ ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้ดำเนินการ bisphosphonate กลายเป็นตั้งครรภ์เธอควรจะมีระดับแคลเซียมในเลือดของเธอตรวจสอบเพราะพวกเขาอาจจะกลายต่ำ.
ป้องกัน
การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคกระดูกพรุน นี่คือบางส่วนเคล็ดลับ:
. ให้แน่ใจว่าคุณได้รับแคลเซียมเพียงพอในอาหารหรือผ่านผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของคุณ (ประมาณ 1,000-1,200 มิลลิกรัม / วัน แต่จะขึ้นอยู่กับอายุของคุณ)
รับเพียงพอวิตามิน D (400-1,000 IU / วันขึ้นอยู่กับอายุของคุณ . และระดับเลือดของคุณของวิตามินดีวัดโดยแพทย์ของคุณ)
หยุดสูบบุหรี่.
หลีกเลี่ยงการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกิน. ไม่เกินสองหรือสามเครื่องดื่มวันที่
มีส่วนร่วมในการออกกำลังกายที่แบกน้ำหนัก มีจุดมุ่งหมายเพื่ออย่างน้อย 2 ½ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (30 นาทีวันที่ห้าครั้งต่อสัปดาห์หรือ 50 นาทีต่อวันสามครั้งต่อสัปดาห์) หรือมากที่สุดเท่าที่คุณสามารถ การออกกำลังกายที่สามารถปรับปรุงความสมดุลเช่นไทชิหรือโยคะอาจช่วยป้องกันไม่ให้ตก. นอกจากนี้คุณควรได้รับการรักษาของปัญหาทางการแพทย์พื้นฐานใด ๆ ที่อาจทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน ถ้าคุณอยู่ในยาที่สามารถทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนถามแพทย์ของคุณถ้าคุณสามารถลดยาหรือใช้ยาชนิดอื่น ไม่เคยเปลี่ยนยาหรือหยุดกินยาใด ๆ โดยไม่พูดกับแพทย์ของคุณก่อน. ถ้าคุณมีความหนาแน่นของกระดูกต่ำและมีความเสี่ยงสูงของการทำลายกระดูกแพทย์ของคุณอาจแนะนำให้ยาเพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกของคุณจากการปรับตัวลดลง (โปรดดูส่วน "วิธีการคือ glucocorticoid-รับการรักษาโรคกระดูกพรุน?") ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพตอนนี้มีเครื่องมือสำหรับการประเมินความเสี่ยงของผู้ป่วยที่มีการแตกหักของกระดูกใน 10 ปีข้างหน้า แตกหักเครื่องมือประเมินความเสี่ยงนี้จากองค์การอนามัยโลกเรียกว่า Frax คะแนนสามารถช่วยให้การตัดสินใจการรักษาคู่มือ. อะไรคือสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพที่กว้างขึ้นของโรคกระดูกพรุน? ผลต่อสุขภาพที่ร้ายแรงที่สุดของโรคกระดูกพรุนคือการแตกหัก กระดูกสันหลังและกระดูกสะโพกหักโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจนำไปสู่อาการปวดเรื้อรังความพิการในระยะยาวและแม้กระทั่งความตาย เป้าหมายหลักของการรักษาโรคกระดูกพรุนคือการป้องกันไม่ให้กระดูกหัก. มีชีวิตอยู่กับโรคกระดูกพรุนหากคุณมีโรคกระดูกพรุนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ได้เป็นเพียงการสูญเสียกระดูกต่อไป แต่ยังแตกหัก นี่คือวิธีการบางอย่างเพื่อลดโอกาสของการตกคือใช้เครื่องช่วยเดิน หากคุณมีความไม่มั่นคงใช้อ้อยหรือวอล์คเกอร์. นำอันตรายในบ้าน ลบพรมโยน นอกจากนี้การรักษาความปลอดภัยลบหรือสายหลวมหรือสายเคเบิลที่อาจทำให้คุณเดินทาง เพิ่ม nightlights ในทางเดินที่นำไปสู่ห้องน้ำ ติดตั้งคว้าบาร์ในห้องน้ำและเสื่อ nonskid ใกล้อ่างล้างมือและอ่างอาบน้ำ. ได้รับการช่วยให้การดำเนินการหรือการยกของหนัก ถ้าคุณไม่ระวังคุณอาจตกหรือแม้กระทั่งประสบแตกหักกระดูกสันหลังโดยไม่ล้ม. สวมรองเท้าที่มีความทนทาน นี่คือทั้งหมดข้างต้นเป็นจริงในฤดูหนาวหรือเมื่อฝนตก. จุดเพื่อให้จำให้แน่ใจว่ามีแคลเซียมเพียงพอและวิตามินดีในอาหารของคุณ. จะใช้งานทางร่างกายและทำแบบฝึกหัดแบกน้ำหนักเช่นการเดิน, วันที่มากที่สุดในแต่ละสัปดาห์. เปลี่ยนเลือกวิถีชีวิตที่ เพิ่มความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนของคุณ. ใช้กลยุทธ์ที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการลดลง. บทบาท rheumatologist ในการรักษาโรคกระดูกพรุนในฐานะที่เป็นแพทย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการวินิจฉัยและการรักษาโรคของข้อต่อกล้ามเนื้อและกระดูก rheumatologists สามารถช่วยหาสาเหตุของโรคกระดูกพรุน . พวกเขาสามารถให้และตรวจสอบการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับสภาพนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หญิงสาวและการตั้งครรภ์
หญิงสาวผู้มีปัจจัยเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนและกระดูกหักต้องพิจารณาอย่างรอบคอบตัวเลือกยาของพวกเขา ถ้าพวกเขามีการวางแผนการตั้งครรภ์ ไม่มียาสำหรับการจัดการความปลอดภัยข้อมูลโรคกระดูกพรุนมีเพียงพอพร้อมที่จะแนะนำให้ใช้ในผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
bisphosphonates แม้หลังจากที่คุณหยุดใช้มันสามารถอยู่ในร่างกายนาน การศึกษาสัตว์แสดงให้เห็นว่า bisphosphonates ข้ามรกของแม่ และใส่ตัวอ่อน ความเสี่ยงของการเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์มนุษย์ไม่รู้ ดังนั้น ผู้หญิงที่อยากตั้งครรภ์ภายหลังควรชั่งน้ำหนักประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจาก bisphosphonates กับความเสี่ยงที่เป็นไปได้ ถ้าผู้หญิงที่ได้เอา bisphosphonate จะตั้งครรภ์ ,เธอน่าจะระดับแคลเซียมในเลือดการตรวจสอบเพราะพวกเขาอาจกลายเป็นต่ำ การป้องกัน

การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคกระดูกพรุน ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการที่ :
ให้แน่ใจว่าคุณได้รับแคลเซียมเพียงพอในอาหารของคุณหรือผ่านข้อมูลเพิ่มเติม ( ประมาณ 1 , 000 - 1 , 200 มิลลิกรัมต่อวัน แต่จะขึ้นอยู่กับอายุของคุณ )
ได้รับเพียงพอวิตามิน D ( 400 - 1000 IU / วันขึ้นอยู่กับอายุของคุณและเลือดของคุณระดับของวิตามิน D วัดโดยแพทย์ของคุณ )
หยุดสูบบุหรี่
หลีกเลี่ยงการบริโภคแอลกอฮอล์ส่วนเกิน : ไม่เกินสองหรือสามวันเครื่อง .
weight-bearing มีส่วนร่วมในการออกกำลังกาย เป้าหมายอย่างน้อย 2 ½ชม. ต่อสัปดาห์ ( วันละห้าครั้งต่อสัปดาห์ หรือ 50 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที ) หรือมากเท่าที่คุณสามารถ การออกกำลังกายที่สามารถปรับปรุงความสมดุล เช่น ไทชิ หรือเล่นโยคะอาจช่วยป้องกันไม่ให้ตก

คุณยังควรจะได้รับการรักษาของปัญหาทางการแพทย์ต้นแบบที่สามารถทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน ถ้าคุณอยู่ในยาที่สามารถทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน , ถามแพทย์ของคุณถ้าคุณสามารถลดปริมาณ หรือใช้ชนิดของยาอื่น ไม่เปลี่ยนแปลงปริมาณหรือหยุดใช้ยาใด ๆโดยไม่ต้องพูดกับแพทย์ของคุณก่อน
ถ้าคุณมีความหนาแน่นของกระดูกต่ำ และความเสี่ยงสูงของการทำลายกระดูก แพทย์อาจให้ยาเพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกของคุณจะอ่อนแอลง ( ดูหัวข้อ " วิธีการคือ กลูโคคอร์ติคอยด์โรคกระดูกพรุนการรักษา ? " ) ผู้ให้บริการสุขภาพ ขณะนี้มีเครื่องมือเพื่อประเมินความเสี่ยงของผู้ป่วยที่มีกระดูกหักโรคกระดูกพรุนในอีก 10 ปี นี้เครื่องมือประเมินความเสี่ยงการแตกหัก ,จากองค์กรอนามัยโลก เรียกว่า frax . คะแนนที่สามารถช่วยในการตัดสินใจการรักษาคู่มือ
นี่กว้างสุขภาพผลกระทบของโรคกระดูกพรุน ?
ร้ายแรงที่สุดสุขภาพผลของโรคกระดูกพรุน คือ กระดูกหัก . กระดูกสันหลังและกระดูกสะโพกหัก โดยเฉพาะอาจทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรัง ความพิการระยะยาวและแม้กระทั่งความตาย เป้าหมายหลักของการรักษาคือเพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน มีรอยแตก
อาศัยอยู่กับโรคกระดูกพรุน
ถ้าคุณมีโรคกระดูกพรุน เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่เพียง แต่ยังเพิ่มการสูญเสียกระดูกแตกหัก ที่นี่วิธีการบางอย่างเพื่อลดโอกาสของตก :
ใช้เครื่องช่วยเดิน ถ้าคุณไม่มั่นคง ใช้ไม้เท้าหรือวอล์คเกอร์
เอาอันตรายในบ้าน เอาโยนพรม ยังลบหรือการหลวมสายไฟหรือสายเคเบิลที่อาจทำให้คุณเดินทางเพิ่ม nightlights ในทางเดินที่นำไปสู่ห้องน้ํา คว้าบาร์ห้องน้ำติดตั้งและเสื่ออุปกรณ์แมลงสาบ - ใกล้อ่างและอ่าง
มาช่วยแบก หรือยกสินค้าหนัก ถ้าคุณไม่ระวัง คุณอาจตก หรือแม้แต่ประสบกระดูกสันหลังหักได้โดยไม่ล้ม
สวมรองเท้าที่แข็งแรง นี่เป็นทั้งหมดที่เป็นจริงในฤดูหนาว หรือเมื่อฝนตก


ต้องจำจุดให้แน่ใจว่า มีเพียงพอ แคลเซียมและวิตามินดีในอาหารของคุณ
เคลื่อนไหวร่างกาย และทำแบบฝึกหัดเรืองน้ําหนัก เช่น เดิน วัน มากที่สุดในแต่ละสัปดาห์
เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตทางเลือกที่เพิ่มความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
ใช้กลยุทธ์ที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการล้ม

บทบาทในการรักษาโรคกระดูกพรุน
รูมาโตโลจิสต์