This study aims to analyze the seas

This study aims to analyze the seasonal variations of PM10-bound polycyclic aromatic hydrocarbons (PAHs) for an estimation of the human health risk and identification of their possible sources. Ninety four PM10 samples were collected during the dry and wet seasons of 2010 and the dry season of 2011 in Chiang Mai, Thailand, and analyzed for 16 PAHs by gas chromatography–mass spectrometry. The average PM10 concentrations were 104.91 ± 32.70, 13.28 ± 11.34 and 36.24 ± 19.16 μg/m3 in dry season of 2010, wet season of 2010 and dry season of 2011, respectively, while the average 16-PAHs concentrations were 25.87 ± 10.13, 3.12 ± 2.18 and 4.58 ± 2.18 ng/m3, respectively. Correlations of PM10 and total PAHs concentrations were relatively high during all seasons (r > 0.796). In addition, PM10 concentrations were highly correlated with carcinogenic PAHs (r = 0.927) during the dry season of 2010, indicating that carcinogenic compounds were dominant in the particulate PAHs and could be generated from open burning, usually conducted in the dry season. The average PM10 concentration in the dry season of 2011 was much lower than that in 2010 and lower than the annual average of the past 12 years (48.17 μg/m3) because of the unusually high amount of rain precipitation and low open burning activity in this year. According to the accumulated number of hot spots occurring in northern part of Thailand, approximately 19,000 spots were found in the dry season of 2010, while only 6,600 spots were found in the dry season of 2011. It can be seen that larger scale open burning activities were performed in the dry season of 2010 than in the dry season of 2011. The value of toxicity equivalent concentration from PAHs in the dry season of 2010 was higher than that of the wet season of 2010 and the dry season of 2011. This is obviously related to concentrations of PM10 and PAHs. Diagnostic ratio and principal component analysis were used to find out the sources of PM10-bound PAHs. It was found that vehicle emission and biomass burning were the main sources of PM10 and PAHs in this area. The high ratio value of benzo(a)anthracene/chrysene (BaA/CHR) in the dry season of 2010 indicated possible photochemical processes and long distance emissions. Findings on source identification of PM10 and PAHs were found to be relevant to the direction and speed of air mass movement run by backward trajectory.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลของ PM10 ผูก polycyclic หอมไฮโดรคาร์บอน (PAHs) สำหรับการประเมินความเสี่ยงสุขภาพมนุษย์และรหัสของแหล่งที่มาได้ ตัวอย่าง 4 90 PM10 ถูกรวบรวมในช่วงแล้ง และ ฤดูฝนของปี 2010 ฤดูแล้งปี 2554 ในจังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย และวิเคราะห์สำหรับ 16 PAHs โดย spectrometry chromatography ก๊าซ – มวล ความเข้มข้นเฉลี่ย PM10 มี 104.91 ± 32.70, 13.28 ± 11.34 และ 36.24 ± 19.16 μg/m3 ในแล้ง 2553 ฤดูฝนของปี 2010 และแล้ง 2011 ตามลำดับ ในขณะที่ความเข้มข้นของ PAHs 16 เฉลี่ย 25.87 ± 10.13, 3.12 ± 2.18 และ 4.58 ± 2.18 ng/m3 ตามลำดับ ความสัมพันธ์ของ PM10 และความเข้มข้นของ PAHs รวมได้ค่อนข้างสูงในช่วงซีซั่นทั้งหมด (r > 0.796) นอกจากนี้ ความเข้มข้น PM10 มีสูง correlated กับ carcinogenic PAHs (r = 0.927) ในฤดูแล้งของปี 2010 ระบุ carcinogenic สารประกอบหลักใน PAHs ฝุ่นได้ และสามารถสร้างได้จากการเผาไหม้เปิด มักจะดำเนินการในฤดูแล้ง ความเข้มข้น PM10 เฉลี่ยในฤดูแล้งปี 2554 ต่ำกว่าในปี 2553 มาก และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยรายปีของปี 12 ผ่านมา (48.17 μg/m3) เพราะจำนวนฝนฝนและกิจกรรมเขียนเปิดต่ำสูงผิดปกติในปีนี้ ตามจำนวนสะสมของจุดร้อนที่เกิดขึ้นในภาคเหนือของไทย ประมาณ 19000 จุดพบในฤดูแล้งปี 2553 ในขณะที่จุดเฉพาะ 6,600 พบในฤดูแล้งปี 2554 จะเห็นได้ว่า มาตราส่วนใหญ่กิจกรรมเขียนเปิดดำเนินในฤดูแล้งปี 2553 กว่าในฤดูแล้งปี 2554 ค่าของความเป็นพิษเท่ากับความเข้มข้นจาก PAHs ในฤดูแล้งปี 2553 สูงกว่าช่วงฤดูฝนของปี 2010 และ 2011 ฤดูแล้งได้ เห็นได้ชัดนี้จะเกี่ยวข้องกับความเข้มข้นของ PAHs และ PM10 อัตราการวินิจฉัยและวิเคราะห์ส่วนประกอบหลักที่ใช้เพื่อค้นหาแหล่งมาของ PAHs ผูก PM10 พบว่า มลพิษรถยนต์และการเผาไหม้ชีวมวลมีแหล่งที่มาหลักของ PM10 และ PAHs ในพื้นที่นี้ ค่าอัตราส่วนที่สูงของ benzo (a) แอนทรา ซีน/chrysene (CHR บา) ในฤดูแล้งของปี 2010 บ่งชี้กระบวนการ photochemical ได้และปล่อยไกล พบผลการวิจัยระบุแหล่งที่มาของ PM10 และ PAHs จะเกี่ยวข้องกับทิศทางและความเร็วของการเคลื่อนไหวของมวลอากาศโดยวิถีย้อนหลัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลของ PM10 ที่ถูกผูกไว้ polycyclic หอมไฮโดรคาร์บอน (PAHs) สำหรับการประมาณของความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์และบัตรประจำตัวของแหล่งที่มาของพวกเขา เก้าสิบสี่ตัวอย่าง PM10 ที่ถูกเก็บรวบรวมในช่วงฤดู​​แล้งและฤดูฝนของปี 2010 และฤดูแล้งของปี 2011 ในจังหวัดเชียงใหม่ประเทศไทยและวิเคราะห์ 16 พีเอเอชโดย spectrometry โคมวลก๊าซ ความเข้มข้นของ PM10 เฉลี่ย 104.91 ± 32.70, 13.28 ± 11.34 และ 36.24 ± 19.16 ไมโครกรัม / m3 ในฤดูแล้งของปี 2010 ฤดูฝนของปี 2010 และฤดูแล้งของปี 2011 ตามลำดับขณะที่ค่าเฉลี่ยความเข้มข้น 16 พีเอเอชเป็น 25.87 ± 10.13, 3.12 ± 2.18 และ 4.5​​8 ± 2.18 ng / m3 ตามลำดับ ความสัมพันธ์ของ PM10 และความเข้มข้นของสาร PAHs รวมค่อนข้างสูงในทุกฤดูกาล (R> 0.796) นอกจากนี้ความเข้มข้นของ PM10 มีความสัมพันธ์อย่างมากกับพีเอเอชสารก่อมะเร็ง (r = 0.927) ในช่วงฤดู​​แล้งของปี 2010 แสดงให้เห็นว่าสารก่อมะเร็งเป็นที่โดดเด่นใน PAHs เป็นอนุภาคและอาจจะเกิดจากการเผาไหม้ที่เปิดดำเนินการมักจะอยู่ในช่วงฤดู​​แล้ง ความเข้มข้นของ PM10 เฉลี่ยในฤดูแล้งของปี 2011 ต่ำกว่าที่ในปี 2010 และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปีที่ผ่านมา 12 ปีที่ผ่านมา (48.17 ไมโครกรัม / m3) เพราะจำนวนเงินที่สูงผิดปกติของฝนฝนและกิจกรรมการเผาไหม้ที่เปิดอยู่ในระดับต่ำนี้ ปี ตามจำนวนสะสมของจุดร้อนที่เกิดขึ้นในภาคเหนือของประเทศไทยประมาณ 19,000 จุดที่พบในช่วงฤดู​​แล้งของปี 2010 ขณะที่มีเพียง 6,600 จุดที่พบในช่วงฤดู​​แล้งของปี 2011 จะเห็นได้ว่าขนาดใหญ่กิจกรรมการเผาไหม้เปิด ได้ดำเนินการในฤดูแล้งของปี 2010 กว่าในฤดูแล้งของปี 2011 มูลค่าของความเข้มข้นเทียบเท่าความเป็นพิษจากสาร PAHs ในฤดูแล้งของปี 2010 สูงกว่าฤดูฝนของปี 2010 และฤดูแล้งของปี 2011 นี้จะเห็นได้ชัด ที่เกี่ยวข้องกับความเข้มข้นของ PM10 และพีเอเอช อัตราส่วนการวินิจฉัยและการวิเคราะห์องค์ประกอบหลักถูกนำมาใช้เพื่อหาแหล่งที่มาของสาร PAHs PM10 ที่ถูกผูกไว้ พบว่าการปล่อยยานพาหนะและการเผาไหม้ชีวมวลเป็นแหล่งที่มาหลักของ PM10 และ PAHs ในพื้นที่นี้ ค่าอัตราส่วนสูงของ benzo (ก) แอนทรา / chrysene (Baa / CHR) ในฤดูแล้งของปี 2010 ชี้ให้เห็นกระบวนการเคมีที่เป็นไปได้และการปล่อยมลพิษทางไกล ผลการวิจัยเกี่ยวกับแหล่งที่มาของบัตรประจำตัวของ PM10 และ PAHs พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับทิศทางและความเร็วของการเคลื่อนไหวของมวลอากาศที่ดำเนินการโดยวิถีย้อนหลัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลของ PM10 ผูกพันโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน ( พีเอเอช ) สำหรับการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพของมนุษย์และการระบุแหล่งที่เป็นไปได้ของพวกเขา เก้าสิบสี่สำรวจเก็บตัวอย่างระหว่างฤดูแล้งและฤดูฝนของปี 2010 และฤดูแล้งของปี 2011 ในจังหวัดเชียงใหม่ , ประเทศไทย , และวิเคราะห์โดยแก๊สโครมาโตกราฟี– 16 และแมสสเปกโทรเมตรีความเข้มข้น PM10 เฉลี่ย 104.91 ± 32.70 13.28 ± 11.34 , และ± 36.24 ปีμกรัม / ลบ . ม. ในฤดูแล้งของปี 2010 ในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้งของปี 2554 ตามลำดับ ในขณะที่ปริมาณ PAHs เฉลี่ย 16 25.87 ± 10.13 3.12 ±± 2.18 2.18 และ 4.58 กรัม / ลบ . ม. ตามลำดับ ความสัมพันธ์ของ PM10 และรวมสารความเข้มข้นค่อนข้างสูงในช่วงฤดูทั้งหมด ( r > 0.796 ) นอกจากนี้ปริมาณฝุ่น PM10 ในระดับสูงกับสารก่อมะเร็งพีเอเอช ( r = 0.927 ) ในช่วงฤดูแล้งปี 2553 ที่ระบุว่าสารก่อมะเร็งสารที่เด่นในอนุภาคสาร และอาจถูกสร้างขึ้นจากการเผาไหม้เปิดมักจะดำเนินการในฤดูแล้งความเข้มข้น PM10 เฉลี่ยในฤดูแล้งปี 2554 ต่ำกว่าที่ในปี 2010 และต่ำกว่าระดับเฉลี่ยในรอบ 12 ปี ( 48.17 μ g / m3 ) เนื่องจากปริมาณฝนสูงผิดปกติของการตกตะกอนและกิจกรรมการเผาไหม้เปิดต่ำในปีนี้ ประมาณ 19 ตามการสะสมจำนวนฮอตสปอตที่เกิดขึ้นทางภาคเหนือของไทย000 จุด พบว่า ในฤดูแล้งของปี 2010 ในขณะที่เพียง 6600 จุดที่พบในฤดูแล้งของปี 2011 จะเห็นได้ว่าขนาดใหญ่เปิดการเผาไหม้จัดกิจกรรมในฤดูแล้งของปี 2553 สูงกว่าฤดูแล้งของปี 2011 ค่าความเป็นพิษของเทียบเท่าความเข้มข้นจากสารในฤดูแล้งของปี 2553 สูงกว่าของฤดูฝนและฤดูแล้งของปี 2011นี่มันเกี่ยวข้องกับความเข้มข้นของ PM10 และ พลาสเตอร์ยา การวินิจฉัยตามหลักและการวิเคราะห์ส่วนประกอบที่ใช้เพื่อค้นหาแหล่งที่มาของ PM10 ผูกพันพลาสเตอร์ยา พบว่า การปล่อยยานพาหนะและการเผาไหม้ชีวมวลเป็นแหล่งหลักของ PM10 และ ไฮโดรคาร์บอนในพื้นที่นี้สูงอัตราส่วนมูลค่าของเบนโซ ( เอ ) แอนทราซีน / chrysene ( ลูก / chr ) ในฤดูแล้งของปี 2010 และการระบุกระบวนการเคมีไปได้ไกล ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของรหัสของ PM10 และและพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับทิศทางและความเร็วของการเคลื่อนที่ของมวลอากาศทำงานโดยโคจรถอยหลัง