Researchers have recently analysed

Researchers have recently analysed the composition of mango ‘waste’ as a potential ingredient. The ripe and unripe peels of the mango are a good source of polyphenols. Ajila, Naidu, Bhat, and Prasada Rao (2007) studied the polyphenol content of ripe and unripe mango varieties. Their results showed the total phenolic content to be 109.7 mg/100 g DM in un-ripened (‘Raspuri’ cultivar) mango peels. Ripened mango peels contained 436 µg/g DM of carotenoid (‘Raspuri’ cultivar) and 565 mg/100 g DM anthocyanins (‘Badami’ cultivar). Pott, Breithaupt, and carle (2003) also analysed the carotenoid content of mango (‘kent’ cultivar). The authors reported β-carotene to be the prominent carotenoid available. Flavonoids, a group of polyphenols, have been windely explored by Schieber, Berardini, and Carle (2003), and their findings show that mango peel (‘Tommy Atkins’, in particular) is a rich source of flavonol glycosides. Berardini et al (2005) analysed the anthocyanin contents of red coloured mango cultivars. They also found the cultivar ‘Tommy Atkins’ to contain the levels of anthocyanins (3719 µg/kg DM). Mango peel, in particular ripned peels, is also good source of antioxidants such as vitamin C and Vitamin E (Ajila, Bhat, & Prasada Rao, 2007). Phytochemicals such as those discussed above have been proven to prevent DNA oxidative damage, prevent inhibition of cell communication and scavenge for free radicals. Free radicals have been seen to drain immune system antioxidants, catalyse abnormal proteins which are known to start degenerative disease and ageing and change gene expression (Masibo & He, 2008).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักวิจัยเพิ่งได้ analysed ส่วนประกอบของมะม่วง 'เสีย' เป็นส่วนผสมที่มีศักยภาพ Peels ดิบ ๆ และสุกของมะม่วงจะเป็นแหล่งที่ดีของโพลีฟีน Ajila, Naidu บัต และ ราวปราสดา (2007) ศึกษาเนื้อหา polyphenol พันธุ์มะม่วงสุก และดิบ ๆ ผลลัพธ์แสดงเนื้อหาฟีนอรวมเป็น 109.7 มิลลิกรัม/100 g DM ในไม่ ripened peels มะม่วง (cultivar 'Raspuri') มะม่วงสุก peels อยู่ 436 ไมโครกรัมเป็น เครื่อง/g DM carotenoid (cultivar 'Raspuri') และ anthocyanins 565 มิลลิกรัม/100 g DM (cultivar 'Badami') น้ำยาขจัดคราบ Breithaupt และ carle (2003) ยัง analysed เนื้อหา carotenoid มะม่วง (cultivar "เคนท์") ผู้เขียนรายงานβ-แคโรทีนเป็น carotenoid โดดเด่นที่พร้อมใช้งาน Flavonoids กลุ่มของโพลีฟีน มี windely อุดม ด้วย Schieber เซีย Carle (2003), และค้นพบแสดงว่าเปลือกมะม่วง ('ทอมมี่ Atkins' โดยเฉพาะ) เป็นแหล่งอุดมของ flavonol glycosides เซีย et al (2005) analysed รายมีโฟเลทสูงพันธุ์มะม่วงสีแดง นอกจากนี้พวกเขายังพบ cultivar 'ทอมมี่ Atkins' มีระดับของ anthocyanins (3719 ไมโครกรัมเป็น เครื่อง/kg DM) เปลือกมะม่วง ในเฉพาะ ripned มักหลุดลอก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่ดีของสารต้านอนุมูลอิสระเช่นวิตามินซีและวิตามินอี (Ajila บัต & ราวปราสดา 2007) Phytochemicals เช่นที่กล่าวถึงข้างต้นได้รับการพิสูจน์เพื่อป้องกันไม่ให้ดีเอ็นเอเสีย oxidative ป้องกันยับยั้งการสื่อสารของเซลล์ และ scavenge ฟรีอนุมูล อนุมูลอิสระมีได้เห็นการระบายน้ำระบบภูมิคุ้มกันสารต้านอนุมูลอิสระ catalyse โปรตีนผิดปกติที่ทราบว่าโรคเสื่อมและสูงอายุและการเปลี่ยนแปลงยีน (Masibo และเขา 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิจัยได้วิเคราะห์เมื่อเร็ว ๆ นี้องค์ประกอบของ 'เสีย' มะม่วงเป็นส่วนผสมที่มีศักยภาพ เปลือกสุกและสุกของมะม่วงเป็นแหล่งที่ดีของโพลีฟี Ajila, ไนดู Bhat และราว Prasada (2007) ได้ศึกษาเนื้อหาโพลีฟีนของพันธุ์มะม่วงสุกและดิบ ผลของพวกเขาแสดงให้เห็นเนื้อหาฟีนอลรวมเป็น 109.7 มก. / 1​​00 กรัม DM ในการยกเลิกการสุก (Raspuri 'พันธุ์) เปลือกมะม่วง เปลือกมะม่วงสุกมี 436 ไมโครกรัม / กรัม DM ของ carotenoid (พันธุ์ 'Raspuri) และ 565 มก. / 1​​00 กรัม DM anthocyanins (พันธุ์' โซ ') Pott, Breithaupt และ Carle (2003) นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์เนื้อหา carotenoid มะม่วง (kent 'พันธุ์) ผู้เขียนรายงานβแคโรทีนที่จะเป็น carotenoid ที่โดดเด่นที่มีอยู่ flavonoids กลุ่มโพลีฟีนที่ได้รับการสำรวจโดย windely Schieber, Berardini และ Carle (2003) และผลการวิจัยของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าเปลือกมะม่วง (ทอมมี่แอตกินส์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง) เป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์ของไกลโคไซด์ flavonol Berardini, et al (2005) การวิเคราะห์เนื้อหา anthocyanin พันธุ์มะม่วงสีแดง นอกจากนี้ยังพบพันธุ์ 'ทอมมี่แอตกินส์ที่จะมีระดับของ anthocyanins (3719 ไมโครกรัม / กก DM) มะม่วงเปลือกในเปลือก ripned โดยเฉพาะอย่างยิ่งนอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่ดีของสารต้านอนุมูลอิสระเช่นวิตามินซีและวิตามินอี (Ajila, Bhat และ Prasada ราว 2007) phytochemicals เช่นที่กล่าวข้างต้นได้รับการพิสูจน์ดีเอ็นเอเพื่อป้องกันความเสียหายออกซิเดชันป้องกันยับยั้งการสื่อสารของเซลล์และไล่อนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระได้รับการเห็นจะระบายสารต้านอนุมูลอิสระระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายกระตุ้นโปรตีนที่ผิดปกติซึ่งเป็นที่รู้จักที่จะเริ่มต้นการเกิดโรคความเสื่อมและริ้วรอยและการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของยีน (Masibo เขาและ 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อเร็วๆ นี้ นักวิจัยได้วิเคราะห์องค์ประกอบของขยะ ' มะม่วง ' เป็นส่วนผสมที่มีศักยภาพ เปลือกของมะม่วงสุกและดิบ เป็นแหล่งที่ดีของโพลีฟีน . ajila naidu ภัต , , , และปราสาทราว ( 2007 ) ศึกษาปริมาณเนื้อหาของสุกและดิบพันธุ์มะม่วง ผลของพวกเขาแสดงเนื้อหารวมฟีนอลเป็น 1097 มิลลิกรัม / 100 กรัมใน DM สหประชาชาติสุก ( 'raspuri ' พันธุ์ ) เปลือกมะม่วง สุกเปลือกมะม่วงที่มีอยู่แล้วµ g / g DM ของแคโรทีนอยด์ ( 'raspuri ' พันธุ์ ) และ 565 มก. / 100 กรัม และแอนโทไซยานิน ( 'badami ' พันธุ์ ) พอทไบรเทาปต์ , และ คาร์ล ( 2003 ) ยังได้วิเคราะห์ปริมาณแคโรทีนอยด์ของมะม่วง ( 'kent ' พันธุ์ ) ผู้เขียนรายงานบีตา - แคโรทีนที่จะโดดเด่นในใช้ได้ ฟลาโวนอยด์ ,กลุ่มโพลีฟีนอล โดยมี windely ชิเบอร์ berardini , และ คาร์ล ( 2003 ) , และการค้นพบของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าเปลือกมะม่วง ( 'tommy Atkins ' โดยเฉพาะ ) เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยฟลาโวนไกลโคไซด์ berardini et al ( 2005 ) วิเคราะห์ แอนโธไซยานินของสีแดงสีมะม่วงพันธุ์ นอกจากนี้ยังพบพันธุ์ ' Tommy Atkins ' ที่มีระดับของแอนโทไซยานิน ( 3719 µ g / kg DM )เปลือกมะม่วง เปลือก ripned เฉพาะ ยังเป็นแหล่งที่ดีของสารต้านอนุมูลอิสระเช่นวิตามิน C และวิตามิน E ( ajila ภัต& , ปราสาท , ราว , 2007 ) ไฟโตเคมีเช่นที่กล่าวข้างต้นได้รับการพิสูจน์เพื่อป้องกันความเสียหายของดีเอ็นเอออกซิเดชันป้องกันยับยั้งการสื่อสารของเซลล์และกรองสำหรับอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระที่ได้รับการมองเห็นเพื่อระบาย ระบบ ภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระกระตุ้นโปรตีนผิดปกติซึ่งเป็นที่รู้จักที่จะเริ่มเสื่อมและโรคชราและการแสดงออกของยีนเปลี่ยนแปลง ( masibo &เขา , 2008 )