Creating an alternative green or ca

Creating an alternative green or carbon neutral fuel to replace gasoline has been the holy grail for scientists for many years. However, while there has been some progress with inventions like electric batteries and biofuel, most options are either too expensive or not commercially viable to compete effectively with the fossil fuel. Now automobile manufacturer Audi is stepping up to the challenge with a fuel made from carbon dioxide and water.

Called e-diesel, the fuel developed in collaboration with Dresden-based Sunfire, was created in a lab using a simple but innovative technique. The scientists began by boiling water to temperatures exceeding 800°C (1,472°) using a renewable source of energy like solar, wind or hydropower. The resulting steam was decomposed into its two constituents, hydrogen and oxygen with the help of electrolysis. The researchers then transformed the carbon dioxide to carbon monoxide. The hydrogen and carbon monoxide were piped into a reactor and subjected to extreme pressure and temperatures, to produce what scientists call long-chain hydrocarbons. This liquid that Audi refers to as "blue crude" was then refined in a similar way to standard crude oil to produce e-diesel.
While most of the CO2 used in the production of e-diesel comes from a biogas facility, it also absorbs some from the surroundings, helping remove the harmful greenhouse gas from the atmosphere. According to the manufacturers, e-diesel has a net-zero carbon footprint. This means that it consumes the same amount of carbon as it creates. In contrast, every gallon of regular diesel adds 22.38 pounds of CO2 when burned.

While this alone should be enough to convince the world to use e-diesel, the manufacturers claim yet another attribute. According to Sunfire executive Christian von Olhausen, car engines run more quietly on e-diesel while emitting fewer pollutants. Another advantage? It can be mixed in with regular fuel for those wary of switching entirely.

But radical as it sounds there is one significant problem that still needs to be resolved. Similar to other companies like Britain's Air Fuel Synthesis, who made a similar breakthrough in 2012, the technology is hard to scale. Sunfire's Dresden facility is currently producing just 42 gallons of e-diesel a day - hardly enough to fuel the world.
But Sunfire claims it's different this time. They believe they can scale and plan to prove it by partnering with Audi to build a bigger plant soon. If they succeed, Sunfire estimates e-diesel to retail at 1 to 1.5 Euros ($1.14 - $1.7 USD) per liter, making it competitive with regular diesel. However, critics are not so sure. They think one of the biggest hurdles to e-diesel being a viable alternative is the large amount of energy needed to create it. Experts don't think renewable resources like solar and wind will be able to fulfill the demand simply because that technology is still not as sophisticated.

E- diesel is certainly not the first attempt at making carbon neutral fuel, and it will by no means be the last. However, the development is certainly a step in the right direction for clean energy. As Johanna Wanka, Germany's minister of education and research states, "If we can make widespread use of CO2 as a raw material, we will make a crucial contribution to climate protection and the efficient use of resources, and put the fundamentals of the 'green economy' in place.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สร้างการสำรองสีเขียวหรือคาร์บอนกลางเชื้อเพลิงแทนน้ำมันได้รับจอกศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักวิทยาศาสตร์มาหลายปี อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ได้มีความคืบหน้าบางกับประดิษฐ์แบตเตอรี่ไฟฟ้าและเชื้อเพลิงชีวภาพ ตัวเลือกส่วนใหญ่ได้แพงเกินไป หรือไม่ทำงานในเชิงพาณิชย์ให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพกับเชื้อเพลิงฟอสซิล ตอนนี้ผู้ผลิตรถยนต์ออดี้เป็นก้าวขึ้นสู่ความท้าทายเป็นเชื้อเพลิงจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำเรียกว่าอีดีเซล น้ำมันเชื้อเพลิงที่พัฒนาร่วมกับใช้ Dresden Sunfire สร้างในห้องปฏิบัติการโดยใช้เทคนิคนวัตกรรมใหม่ แต่เรียบง่าย นักวิทยาศาสตร์ที่เริ่มต้น ด้วยน้ำเดือดอุณหภูมิเกิน 800 องศา C (1,472 องศา) โดยใช้เป็นแหล่งพลังงานเช่นพลังงานแสงอาทิตย์ ลมหรือพลังงานน้ำทดแทน ไอน้ำถูกย่อยสลายไปเป็น constituents ของสอง ไฮโดรเจนและออกซิเจน โดยใช้ electrolysis นักวิจัยแล้วเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์กับคาร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรเจนและคาร์บอนมอนอกไซด์ถูกส่งผ่านเข้าไปในเครื่องปฏิกรณ์ที่ และภายใต้ความกดดันมากและอุณหภูมิ การที่นักวิทยาศาสตร์เรียกสารไฮโดรคาร์บอนห่วงโซ่ยาว นี้ของเหลวถึงแม้ว่าออดี้เป็น "บลูดิบ" ที่กลั่นในลักษณะคล้ายกับน้ำมันดิบมาตรฐานผลิตดีเซลอีแล้วขณะที่ส่วนใหญ่ของ CO2 ที่ใช้ในการผลิตของอีดีเซลมาเป็นก๊าซชีวภาพสิ่งอำนวยความสะดวก มันยังดูดซับบางจาก ช่วยเอาก๊าซเรือนกระจกที่เป็นอันตรายออกจากบรรยากาศ ตามผู้ผลิต อีดีเซลมีรอยเท้าคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งหมายความ ว่า สิ้นเปลืองจำนวนคาร์บอนเดียวขณะที่สร้าง ในทางตรงกันข้าม ทุกแกลลอนของดีเซลปกติเพิ่มปอนด์ 22.38 ของ CO2 เมื่อเขียนขณะนี้เพียงอย่างเดียวควรจะเพียงพอที่จะโน้มน้าวให้โลกใช้อีดีเซล ผู้ผลิตอ้างว่า แอททริบิวต์อีก ตาม Sunfire บริหารคริสเตียนฟอน Olhausen เครื่องยนต์รถเรียกใช้ค่อยอีดีเซลขณะเปล่งสารมลพิษน้อยลง ประโยชน์อื่นหรือไม่ มันสามารถผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงปกติสำหรับเหล่านั้นระมัดระวังสลับทั้งหมดรุนแรงแต่มันฟังดูมีเป็นปัญหาสำคัญหนึ่งที่จำ เป็นต้องได้รับการแก้ไข เหมือนกับบริษัทอื่นเช่นสหราชอาณาจักรอากาศน้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์ ที่ทำการบุกทะลวงคล้ายใน 2012 เทคโนโลยีได้ยากขนาด ของ Sunfire Dresden สิ่งอำนวยความสะดวกเป็นกำลังผลิตเพียง 42 แกลลอนของอีดีเซลวัน - แทบไม่เพียงพอที่จะเชื้อเพลิงโลกแต่ Sunfire อ้างจึงแตกต่างกันเวลานี้ พวกเขาเชื่อว่า พวกเขาสามารถปรับขนาด และวางแผนเพื่อพิสูจน์กับออดี้สร้างโรงใหญ่เร็ว ๆ นี้ ถ้าพวกเขาประสบความสำเร็จ Sunfire ประเมินอีดีเซลไปขายปลีกที่ 1 ถึง 1.5 ยูโร ($1.14 - $1.7 USD) ต่อลิตร ทำแข่งขันกับดีเซลปกติ อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ไม่แน่ใจว่าดังนั้น พวกเขาคิดว่า อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดเพื่ออีดีเซลเป็นทางเลือกทำงานได้เป็นจำนวนมากของพลังงานที่จำเป็นในการสร้างอย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญไม่คิดทดแทนทรัพยากรเช่นพลังงานแสงอาทิตย์ และลมจะสามารถตอบสนองความต้องการก็ได้เนื่องจากเทคโนโลยีที่ยังไม่เป็น ที่ทันสมัยE ดีเซลไม่แน่นอนครั้งแรกที่ทำให้น้ำมันเป็นกลางคาร์บอน และมันจะไม่เป็นสุดท้าย อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเป็นขั้นตอนในทิศทางที่ถูกสำหรับพลังงานสะอาด Johanna Wanka เยอรมนีของรัฐมนตรีศึกษาและวิจัยรัฐ "ถ้าเราสามารถทำให้แพร่หลายการใช้ CO2 เป็นวัตถุดิบ เราจะทำให้ส่วนสำคัญเพื่อปกป้องสภาพภูมิอากาศและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และวางพื้นฐานของ 'เศรษฐกิจสีเขียว' ที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การสร้างสีเขียวทางเลือกหรือเชื้อเพลิงคาร์บอนเป็นกลางเพื่อแทนที่น้ำมันที่ได้รับจอกศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักวิทยาศาสตร์มานานหลายปี อย่างไรก็ตามในขณะที่มีความคืบหน้าบางอย่างกับสิ่งประดิษฐ์เช่นแบตเตอรี่ไฟฟ้าและเชื้อเพลิงชีวภาพตัวเลือกมากที่สุดคือทั้งแพงเกินไปหรือไม่ได้ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพในการแข่งขันกับเชื้อเพลิงฟอสซิล ตอนนี้ผู้ผลิตรถยนต์ออดี้จะก้าวถึงความท้าทายกับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ. ที่เรียกว่า E-ดีเซลเชื้อเพลิงพัฒนาความร่วมมือกับเดรสเดนตาม Sunfire ถูกสร้างขึ้นในห้องปฏิบัติการโดยใช้เทคนิคที่เรียบง่าย แต่ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ นักวิทยาศาสตร์เริ่มต้นด้วยการต้มน้ำที่มีอุณหภูมิเกิน 800 องศาเซลเซียส (° 1472) โดยใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนเช่นพลังงานแสงอาทิตย์ลมหรือไฟฟ้าพลังน้ำ อบไอน้ำส่งผลให้ได้รับการย่อยสลายออกเป็นสององค์ประกอบของไฮโดรเจนและออกซิเจนด้วยความช่วยเหลือของกระแสไฟฟ้า นักวิจัยจากนั้นเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ ไฮโดรเจนและก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ถูกประปาเข้าเครื่องปฏิกรณ์และภายใต้ความดันสูงและอุณหภูมิในการผลิตสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เรียกสารไฮโดรคาร์บอนสายโซ่ยาว ของเหลวที่ออดี้นี้หมายถึงว่า "น้ำมันดิบสีฟ้า" ถูกขัดเกลาจากนั้นในลักษณะที่คล้ายกับน้ำมันดิบมาตรฐานในการผลิตอีดีเซล. ขณะที่ส่วนใหญ่ของ CO2 ที่ใช้ในการผลิตของ e ดีเซลมาจากสิ่งอำนวยความสะดวกการผลิตก๊าซชีวภาพก็ยังดูดซับ บางส่วนจากสภาพแวดล้อมที่ช่วยเอาก๊าซเรือนกระจกที่เป็นอันตรายจากบรรยากาศ ตามที่ผู้ผลิต e-ดีเซลมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งหมายความว่ามันกินจำนวนเงินเดียวกันของคาร์บอนที่จะสร้าง ในทางตรงกันข้ามแกลลอนดีเซลปกติทุกเพิ่ม£ 22.38 ของ CO2 เมื่อเผา. ในขณะนี้เพียงอย่างเดียวควรจะเพียงพอที่จะโน้มน้าวให้โลกที่ใช้ E-ดีเซลผู้ผลิตอ้างยังแอตทริบิวต์อื่น ตามที่ผู้บริหาร Sunfire คริสเตียนฟอน Olhausen เครื่องยนต์รถทำงานได้อย่างเงียบ ๆ ใน e ดีเซลในขณะที่เปล่งมลพิษน้อยลง ประโยชน์อีกประการหนึ่ง? มันสามารถนำมาผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงปกติสำหรับผู้ที่ระมัดระวังในการเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง. แต่ที่รุนแรงอย่างที่มันฟังมีหนึ่งปัญหาสำคัญที่ยังคงต้องได้รับการแก้ไข คล้ายกับ บริษัท อื่น ๆ เช่นสหราชอาณาจักรอากาศเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่ทำให้การพัฒนาที่คล้ายกันในปี 2012 เทคโนโลยีที่เป็นเรื่องยากที่จะวัด Sunfire สิ่งอำนวยความสะดวกในเดรสเดินกำลังการผลิตเพียง 42 แกลลอนของ e ดีเซลวัน -. แทบจะไม่พอที่จะเป็นเชื้อเพลิงในโลกแต่ Sunfire อ้างว่ามันแตกต่างกันในครั้งนี้ พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาสามารถปรับขนาดและวางแผนที่จะพิสูจน์มันโดยการเป็นพันธมิตรกับออดี้จะสร้างโรงงานขนาดใหญ่ในเร็ว ๆ นี้ หากพวกเขาประสบความสำเร็จ Sunfire ประมาณการ E-ดีเซลค้าปลีกที่ 1-1.5 ยูโร ($ 1.14 - $ 1.7 เหรียญสหรัฐ) ต่อลิตรทำให้การแข่งขันกับน้ำมันดีเซลปกติ อย่างไรก็ตามนักวิจารณ์จะไม่ให้แน่ใจว่า พวกเขาคิดว่าหนึ่งในอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดใน E-ดีเซลเป็นทางเลือกที่ทำงานเป็นจำนวนมากของพลังงานที่จำเป็นในการสร้างมันขึ้นมา ผู้เชี่ยวชาญไม่คิดว่าทรัพยากรหมุนเวียนเช่นพลังงานแสงอาทิตย์และลมจะสามารถที่จะตอบสนองความต้องการเพียงเพราะเทคโนโลยีที่ยังไม่ซับซ้อนเช่น. E-ดีเซลไม่แน่นอนความพยายามครั้งแรกที่จะทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงคาร์บอนและมันจะไม่ได้หมายความว่าจะเป็น สุดท้าย อย่างไรก็ตามการพัฒนาแน่นอนขั้นตอนในทิศทางที่เหมาะสมสำหรับพลังงานสะอาด ในฐานะที่เป็น Johanna Wanka เยอรมนีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการศึกษาและรัฐการวิจัย "ถ้าเราสามารถทำให้การใช้งานอย่างแพร่หลายของ CO2 เป็นวัตถุดิบเราจะให้การสนับสนุนที่สำคัญต่อการปกป้องสภาพภูมิอากาศและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและวางพื้นฐานของสีเขียว เศรษฐกิจในสถานที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สร้างสีเขียวทางเลือกหรือเชื้อเพลิงคาร์บอนเป็นกลางเพื่อทดแทนน้ำมันเบนซิน มีจอกศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักวิทยาศาสตร์มาเป็นเวลาหลายปี อย่างไรก็ตาม ในขณะที่มีความคืบหน้ากับสิ่งประดิษฐ์เช่นแบตเตอรี่ไฟฟ้า และเชื้อเพลิงชีวภาพ ตัวเลือกมากที่สุดมีทั้งแพงเกินไปหรือในเชิงพาณิชย์ที่จะแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพกับเชื้อเพลิงฟอสซิลตอนนี้ Audi ผู้ผลิตรถยนต์จะก้าวขึ้นไปท้าทายกับเชื้อเพลิงที่ทำจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ

เรียก e-diesel เชื้อเพลิงที่พัฒนาร่วมกับเดรสเดนซันไฟร์ตามที่ถูกสร้างขึ้นในห้องทดลอง ใช้ง่าย แต่เทคนิคใหม่ นักวิทยาศาสตร์เริ่มต้มน้ำให้อุณหภูมิเกิน 800 ° C ( 1 , 472 เมตร ) ใช้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนเช่นพลังงานแสงอาทิตย์ลมหรือพลังน้ำ ส่งผลให้ไอเน่าเป็นสององค์ประกอบ ไฮโดรเจนและออกซิเจน ด้วยความช่วยเหลือของกระแสไฟฟ้า นักวิจัยจึงเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนนอกไซด์ด้วย ไฮโดรเจน คาร์บอนมอนนอกไซด์ และมีท่อลงในเครื่องปฏิกรณ์ และภายใต้ความดันสูงและอุณหภูมิ เพื่อผลิตสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่าเคลือบโซ่ไฮโดรคาร์บอน .ของเหลวที่ออดี้หมายถึงเป็นสีฟ้า " ดิบ " ก็บริสุทธิ์ในวิธีการที่คล้ายกันกับน้ำมันดิบมาตรฐานผลิต e-diesel .
ในขณะที่ส่วนใหญ่ของ CO2 ที่ใช้ในการผลิต e-diesel มาจากโรงงานก๊าซชีวภาพ นอกจากนี้ยังดูดซับบางส่วนจากสิ่งแวดล้อม ช่วยกำจัดก๊าซเรือนกระจกที่เป็นอันตรายจากบรรยากาศ ตามที่ผู้ผลิต , e-diesel มีรอยเท้าคาร์บอนเป็นศูนย์สุทธิซึ่งหมายความว่ามันใช้จำนวนเงินเดียวกันของคาร์บอนเป็นสร้าง ในทางตรงกันข้ามทุกแกลลอนน้ำมันดีเซลปกติเพิ่ม 22 , 380 , 000 , 000 ปอนด์ของ CO2 เมื่อเผา

ในขณะที่นี้คนเดียวควรจะเพียงพอที่จะโน้มน้าวให้โลกใช้ e-diesel , ผู้ผลิตอ้างว่ายังคุณลักษณะอื่น ตามที่ ผู้บริหารจาก olhausen คริสเตียนซันไฟร์ ,เครื่องยนต์รถวิ่งเงียบๆ e-diesel ในขณะที่เริ่มน้อยลง มลพิษ ประโยชน์อื่น มันสามารถผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงปกติสำหรับผู้ที่คุมสวิททั้งหมด

แต่รุนแรงเป็นเสียงมีหนึ่งที่มีปัญหาที่ยังต้องแก้ไข คล้ายคลึงกับ บริษัท อื่น ๆเช่นสหราชอาณาจักรอากาศเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่สร้างความก้าวหน้าที่คล้ายกันใน 2012 , เทคโนโลยีฮาร์ดดิสก์ขนาดซันไฟร์ของ Dresden โรงงานผลิตอยู่ในขณะนี้เพียง 42 แกลลอน e-diesel วัน แทบจะไม่เพียงพอที่จะเชื้อเพลิงโลก .
แต่ซันไฟร์อ้างว่ามันไม่เหมือนเดิม พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาสามารถปรับขนาดและวางแผนที่จะพิสูจน์มันด้วยการเป็นพันธมิตรกับ Audi สร้างโรงงานใหญ่เร็วๆ นี้ ถ้าพวกเขาทำสำเร็จ ซันไฟร์ประมาณ e-diesel เพื่อขายปลีกใน 1 1.5 ยูโร ( $ 1 - $ 1.7 บาท ) ต่อลิตรให้แข่งขันกับดีเซลปกติ อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์จะไม่ค่อยมั่นใจ พวกเขาคิดว่าปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่จะ e-diesel เป็นทางเลือกที่ทำงานได้เป็นจำนวนมากของพลังงานที่จำเป็นในการสร้างมัน ท่านไม่คิดว่าแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม จะสามารถตอบสนองความต้องการเพียงเพราะเทคโนโลยีที่ยังไม่ซับซ้อน .

E - ดีเซล ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำให้เชื้อเพลิงคาร์บอนเป็นกลาง และมันจะไม่มีทางเป็นครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเป็นขั้นตอนในทิศทางที่ถูกต้องสำหรับพลังงานสะอาด ขณะที่โจ wanka , เยอรมันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและการวิจัยระบุว่า " ถ้าเราสามารถทำให้การใช้อย่างแพร่หลายของ CO2 เป็นวัตถุดิบเราจะให้ความสนับสนุนการรักษาและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และวางพื้นฐานของ ' เศรษฐกิจสีเขียว ' ในสถานที่