These competitors are abit hard to

These competitors are abit hard to spot as compared to direct competitors. They can be classified as “wanting to have a share of the pie” .
Confused?
Well, an example to show you.

“Let’s say Ahmad opens a shop selling malay rice while the opposite street Ali is selling the same as what Ahmad is selling. Then comes a Chinese, Ah Boon. He set up a store in line with Ahmad and starts selling Chinese fried rice. Though Ah Boon is selling Chinese fried rice, he is consider an “indirect competitor” to Ahmad and Ali as he wants a “share of the pie” in FnB industry.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คู่แข่งเหล่านี้มีโรงแรมยากเมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรง พวกเขาสามารถจัดประเภทเป็น "อยากได้ร่วมวงการ"สับสนดี ตัวอย่างการแสดง"สมมติว่า Ahmad เปิดร้านขายข้าวมาเลย์ในขณะที่อาลีถนนตรงข้ามมีขายเหมือนกันเป็นอะไรที่ Ahmad จะขาย จากนั้น มาจีน อา บุญ เขาตั้งร้านค้าโดย Ahmad และเริ่มขายข้าวผัดจีน ว่า Ah บุญคือขายข้าวผัดจีน เขาจะพิจารณา "อ้อมคู่แข่ง" Ahmad และอาลีเป็นเขาต้องเป็น "ร่วมวงการ" ในอุตสาหกรรมฟเอ็น"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คู่แข่งเหล่านี้จะ abit ยากที่จะจุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรง พวกเขาสามารถจัดเป็น "ความต้องการที่จะมีส่วนแบ่งของพาย"
สับสน?
ดีตัวอย่างเช่นการแสดงให้เห็น"สมมติว่าอาหมัดเปิดร้านขายข้าวมาเลย์ขณะที่ถนนฝั่งตรงข้ามกับอาลีจะขายเช่นเดียวกับสิ่งที่อาหมัดจะขาย . แล้วก็มาถึงจีน, อาบุญ เขาตั้งร้านในแนวเดียวกันกับอาหมัดและเริ่มขายข้าวผัดจีน แม้ว่าอาบุญคือการขายข้าวผัดจีนเขาพิจารณา "คู่แข่งทางอ้อม" เพื่ออาหมัดอาลีที่เขาต้องการ "ส่วนแบ่งของพาย" ในอุตสาหกรรม FNB. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คู่แข่งเหล่านี้เป็น abit ยากที่จะจุด เมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรง พวกเขาสามารถจัดเป็น " ต้องการที่จะมีส่วนของพาย " .
สับสน ?
เอ่อ ตัวอย่างที่จะแสดงให้คุณ

" เอาเป็นว่า อาหมัด เปิดร้านขายมาเลย์ ข้าว ขณะที่ถนนตรงข้ามอาลีขายเหมือนอะไรมาด มีขาย แล้วมาเป็นภาษาจีน อาบุญเขาตั้งร้านค้าในบรรทัดกับมาด และเริ่มขายข้าวผัดจีน แม้ว่าอาบุญขายข้าวผัดจีน เขาก็ถือว่าเป็น " คู่แข่ง " ทางอ้อม อาหมัด อาลี และตามที่เขาต้องการ " ร่วมกันของพาย " ในอุตสาหกรรม fnb ”