Born on June 13, 1831, in Edinburgh

Born on June 13, 1831, in Edinburgh, Scotland, James C. Maxwell studied at the University of Cambridge before holding a variety of professorship posts. Already known for his innovations in optics and gas velocity research, his groundbreaking theories around electromagnetism, articulated in the famed Maxwell's Equations, greatly influenced modern physics as we know it. Maxwell died in England on November 5, 1879.
Academic Background
James Clerk Maxwell was born on June 13, 1831, at 14 India Street in Edinburgh, Scotland. Having a keen intellect from childhood, he had one of his geometry papers presented at the Royal Society of Edinburgh during his adolescence. By 16 he'd enrolled at the University of Edinburgh, pursuing a fervent interest in optics and color research. He studied there for three years and eventually attended Cambridge University's Trinity College, graduating in 1854. After teaching at Trinity for a time, Maxwell moved on to Marischal College as part of the physics faculty. He wed Katherine Mary Dewar in 1858.
Saturn's Rings
While at Marischal, Maxwell pondered a major astronomical question, looking at the case of Saturn and coming up with the idea that the planet's rings are comprised of particles, a theory later confirmed via 20th-century space probes. For this, Maxwell received the Adam Prize.
Upon Marischal becoming part of the University of Aberdeen, Maxwell took on a professor position at King's College in London. He taught there until 1865, when he resigned from his post to do research from his home in Glenlair. Having continued to do work with Cambridge University as well, Maxwell was instrumental in helping to establish the institution's Cavendish Laboratory, and he took on roles there as lab director and professor of experimental physics at the start of the 1870s.
Pioneer in Electromagnetism
Maxwell had continued his research on color and made groundbreaking discoveries around gas velocity. It was during Maxwell's time at King's College that he began to share revolutionary ideas around electromagnetism and light.
Fellow physicist Michael Faraday had already championed the notion that electricity and magnetics were connected; Maxwell, via experimentation with vortexes, expanded on Faraday's work and came up with the theory of electromagnetic movement being conceptualized in the form of waves, with said energy travelling at light speed.
Maxwell's Equations
Supporting his theorems, Maxwell's Equations—speaking to the scholar's aptitude in using math to articulate scientific occurrences—were found in the paper "Dynamical theory of the electromagnetic field," presented to the Royal Society of London in 1864 and published the following year. In 1873 he published the book A Treatise on Electricity and Magnetism, which further expounded on his research.
"The special theory of relativity owes its origins to Maxwell's equations of the electromagnetic field." -- Albert Einstein
Maxwell's other scientific contributions included producing the first color photograph, taken in 1861, and creating structural engineering calculations for bridge maintenance. He earned an array of awards over the course of his career, including the Rumford Medal, Keith Prize and Hopkins Prize, in addition to receiving membership in groups like the Royal Academy of Sciences of Amsterdam. Other publications included Theory of Heat (1871) and Matter and Motion (1877).
Death and Legacy
James C. Maxwell died in Cambridge, England, on November 5, 1879, from abdominal cancer. His discoveries paved the way for much of the modern world's technological innovations and continued to influence physics well into the next century, with thinkers like Albert Einstein praising him for his indispensable contributions. Maxwell's original house, now a museum, is the site of the James Clerk Maxwell Foundation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

13 มิถุนายน 1831 ในเอดินเบอระ สกอตแลนด์ เกิดแมกซ์เวลล์ James C. ศึกษาที่มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ก่อนกดกระทู้ professorship ที่หลากหลาย แล้วขึ้นชื่อในเรื่องของนวัตกรรมวิจัยความเร็วแสงและก๊าซ ทฤษฎีของเขาคว้ารอบแรงแม่เหล็กไฟฟ้า พูดชัดแจ้งในที่มีชื่อเสียงของแมกซ์เวลล์ มากอิทธิพลฟิสิกส์สมัยใหม่เรารู้ แมกซ์เวลล์ในอังกฤษเสียชีวิตในวันที่ 5 พฤศจิกายน 1879ประวัติการศึกษา James เคลิร์กแมกซ์เวลล์เกิดบน 13 มิถุนายน 1831 ที่ถนนอินเดีย 14 ในเอดินเบอระ สก็อตแลนด์ เขามีสติปัญญาความกระตือรือร้นจากวัยเด็ก มีกระดาษรูปทรงเรขาคณิตของเขานำเสนอในสังคมรอยัลเอดินบะระในช่วงวัยรุ่นของเขาอย่างใดอย่างหนึ่ง โดย 16 เขาได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเอดินบะระ ใฝ่หาสนใจร้องในแสงและสี เขามีศึกษาสำหรับสามปี และในที่สุดเข้าร่วมวิทยาลัยทรินิตี้มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ จบใน 1854 หลังจากสอนที่ทรินิตี้เป็นเวลา แมกซ์เวลย้ายบน Marischal ศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของคณะฟิสิกส์ เขาพุธ Dewar แมรี่แคทเธอรีนในค.ศ. 1858วงแหวนของดาวเสาร์ในขณะที่ Marischal แมกซ์เวล pondered คำถามดาราศาสตร์หลัก มองในกรณีของดาวเสาร์ และมาถึง ด้วยความคิดว่า วงแหวนของดาวเคราะห์จะประกอบด้วยอนุภาค ทฤษฎีการยืนยันในภายหลังผ่านศตวรรษที่ 20 พื้นที่คลิปปากตะเข้ แมกซ์เวลล์ได้รับรางวัลอาดัมนี้เมื่อ Marischal เป็น ส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยแอเบอร์ดีน แมกซ์เวลเอาเป็นตำแหน่งศาสตราจารย์ที่คิงส์คอเลจในกรุงลอนดอน เขามีสอนจนกระทั่งปี 1865 เมื่อเขาลาออกจากตำแหน่งจากลงค้นคว้าจากบ้านของเขาใน Glenlair มีต่อการทำงานกับมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์เช่น แมกซ์เวลล์เป็นเครื่องมือในการสร้างห้องปฏิบัติการคาเวนดิชของสถาบัน และเขาเอาในบทบาทมีกรรมการห้องแล็บและศาสตราจารย์ฟิสิกส์ทดลองที่เริ่ม 1870sผู้บุกเบิกในแรงแม่เหล็กไฟฟ้าแมกซ์เวลล์มีต่องานวิจัยของเขาในสี และทำการค้นคว้าพบรอบความเร็วของก๊าซ มันเป็นช่วงเวลาของแมกซ์เวลล์ที่คิงส์คอเลจที่เริ่มแบ่งปันความคิดปฏิวัติแรงแม่เหล็กไฟฟ้าและแสงเพื่อน physicist ฟาราเดย์ Michael ได้แล้ว championed ความไฟฟ้า และเชื่อม ต่อ magnetics แมกซ์เวลล์ ผ่านทดลองมี vortexes ขยายในการทำงานของฟาราเดย์ และมากับทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้าเคลื่อนไหวเป็น conceptualized ในรูปแบบของคลื่น กับพลังงานกล่าวว่าการเดินทางที่ความเร็วสูงสมการของแมกซ์เวลล์สนับสนุนทฤษฎีของเขา ของแมกซ์เวลล์โดยพูดถึงความสามารถของนักวิชาการในการใช้คณิตศาสตร์เพื่อบอกเหตุการณ์ทางวิทยาศาสตร์ — พบกระดาษ "Dynamical ทฤษฎีสนามแม่เหล็กฟิลด์ แสดงในสังคมรอยัลลอนดอน และประกาศปีต่อ ใน 1873 เขาเผยแพร่หนังสือ A ธรรมศาสตร์ไฟฟ้าและแม่เหล็ก ที่ expounded ในงานวิจัยของเขาต่อไป"ทฤษฎีสัมพัทธภาพของทฤษฎีพิเศษค้างชำระกำเนิดการของแมกซ์เวลล์ของสนามแม่เหล็กฟิลด์" - อัลเบิร์ตไอน์สไตน์ของแมกซ์เวลล์อื่น ๆ ทางวิทยาศาสตร์ผลงานรวมผลิตแรกสีภาพ ใน 1861 และการสร้างการคำนวณวิศวกรรมโครงสร้างสำหรับการบำรุงรักษาสะพาน เขาได้รับของรางวัลในช่วงอาชีพของเขา รวม เหรียญ Rumford คีธรางวัล และ รางวัลฮ็อปกินส์ นอกจากการรับเป็นสมาชิกในกลุ่มเช่นสถาบันรอยัลศาสตร์อัมสเตอร์ดัม หนังสือรวมเรื่อง และทฤษฎีของความร้อน (1871) และเคลื่อนไหว (1877)ตายและมรดกแมกซ์เวลล์ James C. ตายในเคมบริดจ์ อังกฤษ บน 5 พฤศจิกายน 1879 ป้องกันมะเร็งช่องท้อง การค้นพบของเขาปูทางสำหรับมากของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของโลกสมัยใหม่ และยังคงมีอิทธิพลต่อฟิสิกส์เป็นศตวรรษถัดไป กับ thinkers เช่นอัลเบิร์ตไอน์สไตน์ยกย่องเขาสำหรับผลงานสำคัญของเขา บ้านเดิมของแมกซ์เวล ขณะนี้พิพิธภัณฑ์ เป็นเว็บไซต์ของมูลนิธิ James เสมียนแมกซ์เวลล์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกิดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 1831 ในเอดินเบิร์กสกอตแลนด์, เจมส์ซีแมกซ์เวลเรียนที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ก่อนที่จะถือความหลากหลายของการโพสต์ของศาสตราจารย์ รู้จักกันอยู่แล้วสำหรับนวัตกรรมของเขาในเลนส์และก๊าซวิจัยความเร็วทฤษฎีแหวกแนวของเขารอบแม่เหล็กไฟฟ้าก้องอยู่ในสมการที่มีชื่อเสียงของแมกซ์เวลอิทธิพลอย่างมากฟิสิกส์สมัยใหม่ที่เรารู้ว่า แมกซ์เวลเสียชีวิตในประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 1879
ประวัติการศึกษา
เจมส์เคลิแมกซ์เวลเกิดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 1831 ที่ 14 อินเดียถนนในเอดินบะระ มีสติปัญญาความกระตือรือร้นจากวัยเด็กของเขามีหนึ่งในเอกสารเรขาคณิตของเขานำเสนอในที่ราชสมาคมแห่งเอดินเบอระในช่วงวัยรุ่นของเขา 16 เขาต้องการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเอดินเบิร์กใฝ่ความสนใจอย่างแรงกล้าในเลนส์สีและการวิจัย เขาเรียนที่นั่นเป็นเวลาสามปีและเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในที่สุดของ Trinity College, จบการศึกษาในปี 1854 หลังจากที่การเรียนการสอนที่ Trinity เวลา, แมกซ์เวลย้ายไปวิทยาลัย Marischal เป็นส่วนหนึ่งของคณะฟิสิกส์ เขาแต่งงานกับแคทเธอรี Dewar แมรี่ 1858
วงแหวนของดาวเสาร์
ในขณะที่ Marischal, แมกซ์เวลครุ่นคิดคำถามทางดาราศาสตร์ที่สำคัญมองที่กรณีของดาวเสาร์และขึ้นมาพร้อมกับความคิดที่ว่าแหวนของโลกจะประกอบด้วยอนุภาคทฤษฎีต่อมาได้รับการยืนยันผ่านศตวรรษที่ 20 ยานสำรวจอวกาศ สำหรับเรื่องนี้แมกซ์เวลได้รับรางวัลอดัม.
เมื่อ Marischal กลายเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยอเบอร์ดีน, แมกซ์เวลเอาในตำแหน่งศาสตราจารย์ที่คิงส์คอลเลจในกรุงลอนดอน เขาสอนอยู่ที่นั่นจนกระทั่งปี 1865 เมื่อเขาลาออกจากตำแหน่งของเขาในการทำวิจัยจากบ้านของเขาใน Glenlair มีอย่างต่อเนื่องในการทำงานกับมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เป็นอย่างดีแมกซ์เวลเป็นเครื่องมือในการช่วยในการสร้างสถาบันการศึกษาของคาเวนดิชในห้องปฏิบัติการและเขาเอาในบทบาทที่นั่นในฐานะผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการและศาสตราจารย์ฟิสิกส์ทดลองที่เริ่มต้นของยุค 1870.
ไพโอเนียร์ในแม่เหล็กไฟฟ้า
แมกซ์เวลได้อย่างต่อเนื่อง การวิจัยของเขาอยู่กับสีและได้ค้นพบแหวกแนวรอบความเร็วของก๊าซ มันเป็นช่วงเวลาของแมกซ์เวลที่คิงส์คอลเลจที่เขาเริ่มที่จะแบ่งปันความคิดการปฏิวัติรอบแม่เหล็กไฟฟ้าและแสง.
เพื่อนฟิสิกส์ไมเคิลฟาราเดย์ได้ปกป้องอยู่แล้วความคิดที่ว่าไฟฟ้าและแม่เหล็กถูกเชื่อมต่อ; แมกซ์เวลผ่านการทดลองกับ vortexes ขยายตัวในการทำงานของฟาราเดย์และมาพร้อมกับทฤษฎีของการเคลื่อนไหวไฟฟ้าถูกแนวความคิดในรูปแบบของคลื่นที่มีการกล่าวว่าพลังงานเดินทางด้วยความเร็วแสง.
สมการแมกซ์เวล
สนับสนุนทฤษฎีของเขาแมกซ์เวลสมการพูดเพื่อความถนัดของนักวิชาการ ในการใช้คณิตศาสตร์ให้ชัดเจนทางวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นถูกพบในกระดาษ "ทฤษฎีพลังของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า" ที่นำเสนอไปยังราชสมาคมแห่งลอนดอนใน 1864 และตีพิมพ์ในปีต่อไป ใน 1,873 เขาตีพิมพ์หนังสือตำราไฟฟ้าและแม่เหล็กซึ่งอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิจัยของเขา.
"ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษของหนี้ต้นกำเนิดของสมการของแมกซ์เวลของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า." - Albert Einstein
แมกซ์เวลผลงานทางวิทยาศาสตร์อื่น ๆ รวมถึงการผลิตรูปถ่ายสีแรกที่ดำเนินการในปี 1861 และการสร้างการคำนวณทางวิศวกรรมโครงสร้างสำหรับการบำรุงรักษาสะพาน เขาได้รับรางวัลมากมายในช่วงอาชีพของเขารวมทั้ง Rumford เหรียญรางวัลและคี ธ ฮอปกินส์ได้รับรางวัลนอกเหนือไปจากที่ได้รับการเป็นสมาชิกในกลุ่มที่ชอบ Royal Academy of Sciences ของอัมสเตอร์ดัม สิ่งพิมพ์อื่น ๆ รวมถึงทฤษฎีของความร้อน (1871) และเรื่องและ Motion (1877).
ความตายและมรดก
เจมส์ซีแมกซ์เวลเสียชีวิตในเคมบริดจ์ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 1879 จากโรคมะเร็งในช่องท้อง การค้นพบของเขาปูทางสำหรับมากของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยของโลกและยังคงมีอิทธิพลต่อฟิสิกส์ในศตวรรษต่อไปโดยมีนักคิดเช่น Albert Einstein ยกย่องเขาสำหรับผลงานของเขาที่ขาดไม่ได้ บ้านเดิมของแมกซ์เวลตอนนี้พิพิธภัณฑ์ยังเป็นที่ตั้งของเสมียนเจมส์แมกซ์เวลมูลนิธิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกิดวันที่ 13 มิถุนายน 1831 ในเอดินบะระ , เจมส์ซี. แม็กซ์เวลล์ เรียนที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ก่อนจะถือความหลากหลายของศาสตราจารย์โพสต์ แล้วที่รู้จักกันสำหรับนวัตกรรมในแสงและก๊าซวิจัยของเขาค้นพบทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้าความเร็วรอบ articulated ในชื่อเสียงสมการของแมกซ์เวลล์อย่างมากต่อฟิสิกส์สมัยใหม่ที่เรารู้จักมันแมกซ์เวลล์เสียชีวิตในอังกฤษเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 1879 .
วิชาการ
เจมส์ เคลิร์ก แมกซ์เวลล์ เกิดวันที่ 13 มิถุนายน 1831 ที่ 14 อินเดีย Street ในเอดินบะระ , สก็อตแลนด์ การมีปัญญาแหลมตั้งแต่วัยเด็ก เขาให้คนของเขาเรขาคณิตเอกสารนำเสนอที่ Royal Society เอดินบะระในช่วงวัยรุ่นของเขา 16 เขาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเอดินบะระติดตามความสนใจที่แรงกล้าในทัศนศาสตร์และวิจัยสี เขาเรียนที่นั่น 3 ปีและในที่สุดก็เข้าร่วมวิทยาลัยทรินิตี้มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ , จบการศึกษาในปี 1854 หลังจากที่เรียนที่ Trinity สำหรับเวลาเวลย้ายไป Marischal วิทยาลัยเป็นส่วนหนึ่งของวิชาฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัย เขาแต่งงานแคทเธอรีนแมรี่ ดีวาร์ใน 1858 .

ที่ Marischal วงแหวนดาวเสาร์ ,แมกซ์เวลล์ได้หลักดาราศาสตร์คำถาม มองกรณีของดาวเสาร์และมากับความคิดที่วงแหวนดาวเสาร์ประกอบด้วยอนุภาคทฤษฎีได้รับการยืนยันในภายหลังผ่านศตวรรษที่ 20 พื้นที่เครื่องมือตรวจสอบ นี้ , Maxwell ได้รับรางวัลอดัม .
เมื่อ Marischal เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยอเบอร์ดีน แม็กซ์เวลล์ ได้เป็นศาสตราจารย์ตำแหน่งคิงส์ คอลเลจในลอนดอนเขาสอนอยู่จนถึง 1865 เมื่อเขาลาออกจากตำแหน่งเพื่อทำวิจัยจากที่บ้านของเขาใน glenlair . มียังคงทำงานกับมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เช่นกัน แม็กซ์เวลล์ เป็นเครื่องมือในการช่วยสร้างสถาบันคาเวนดิชห้องทดลอง และเขาเอาในบทบาทนั้นเป็นแล็บผู้อำนวยการและศาสตราจารย์ฟิสิกส์เชิงทดลองที่เริ่มต้นของยุค 1870 .

ผู้บุกเบิกในแม่เหล็กไฟฟ้าเวลก็ยังคงวิจัยของเขาที่สีและทำ groundbreaking ค้นพบรอบ ความเร็ว น้ำมัน มันเป็นช่วงเวลาของแมกซ์เวลล์ที่วิทยาลัยที่เขาเริ่มที่จะแบ่งปันความคิดปฏิวัติรอบ แม่เหล็กไฟฟ้า แสง และไมเคิล ฟาราเดย์นักฟิสิกส์
เพื่อนก็สนับสนุนความคิดว่าไฟฟ้าและแม่เหล็กถูกเชื่อมต่อ ; แม็กซ์เวลล์ ผ่านการทดลองกับกระแสลมหมุนได้ ,ขยายของฟาราเดย์และมากับทฤษฎีการเคลื่อนที่ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นแนวคิดในรูปแบบของคลื่น พลังงาน เดินทางด้วยความเร็วแสง สมการของแมกซ์เวลล์

สนับสนุนทฤษฎีของเขา สมการของแมกซ์เวลล์พูดกับความถนัดของนักเรียนในการใช้คณิตศาสตร์ในการประกบเหตุการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่พบในกระดาษ " ทฤษฎีพลวัตของ เขตข้อมูลแม่เหล็กไฟฟ้า" เสนอให้ราชสมาคมแห่งลอนดอนในปี 1864 และตีพิมพ์ในปีต่อไป ใน 1870 เขาได้ตีพิมพ์หนังสือบทความเกี่ยวกับไฟฟ้าและแม่เหล็ก ซึ่งได้ชี้แจงเพิ่มเติมในงานวิจัยของเขา .
" ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษเป็นหนี้กำเนิดของสมการของแมกซ์เวลล์ของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า . . . " Albert Einstein
ของแมกซ์เวลล์อื่นๆวิทยาศาสตร์ผลงานรวมการผลิตภาพถ่ายสีแรก ถ่ายใน 1861 , และการคํานวณวิศวกรรมโครงสร้างสำหรับการบำรุงรักษาสะพาน เขาได้รับรางวัลมากมายกว่าหลักสูตรของอาชีพของเขา รวมทั้ง รัมฟอร์ด เหรียญรางวัลและฮอปกินส์ , คีธ รางวัล นอกจากการรับสมาชิกในกลุ่มชอบของราชบัณฑิตยสถานวิทยาศาสตร์แห่งอัมสเตอร์ดัมสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ได้แก่ ทฤษฎีของความร้อน ( 2414 ) และสสารและการเคลื่อนไหว ( 1877 ) .
ความตายและมรดก
เจมส์ซี. แมกซ์เวลล์เสียชีวิตในเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 1879 จากมะเร็งในช่องท้อง การค้นพบของเขาปูทางสำหรับมากของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย และยังคงมีอิทธิพลต่อโลกของฟิสิกส์ในศตวรรษหน้ากับงาน เช่น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยกย่องเขาสำหรับผลงานสำคัญของเขา แม็กซ์เวลล์ เดิมบ้าน ตอนนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ เป็นเว็บไซต์ของมูลนิธิเจมส์ เคลิร์ก แมกซ์เวลล์ .