Māori culture[edit] Māori woman wea

Māori culture[edit]

Māori woman wearing a hei-tiki around her neck, pounamu earring and shark tooth earring, and two huia feathers in her hair. She wears a cloak with black fringe border, and has a moko design on her chin.
Main article: Māori culture

The Māori are the indigenous Polynesian people of New Zealand (Aotearoa) who first arrived In New Zealand about 1280. They arrived from Eastern Polynesia,most likely the Society Islands. In 2014 demographers believe about 100-200 Polynesians migrants arrived at a similar time. Māori settled the islands and developed a distinct culture over several hundred years.

Maori oral history tells of a long voyage from Hawaiki (the mythical homeland in tropical Polynesia) in large ocean-going canoes (waka). Māori mythology is a distinctive corpus of gods and heroes, sharing some Polynesian motifs. Some notable figures are Rangi and Papa, Māui, and Kupe.

Central to many cultural events is the marae, where families and tribes gather for special occasions, such as pōwhiri or tangi. Māori often call themselves "tāngata whenua" (people of the land), placing particular importance on a lifestyle connected to land and sea. Communal living, sharing, and living off the land are strong traditional values.

The distinct values, history, and worldview of Maori are expressed through traditional arts and skills such as haka, tā moko, waiata, carving, weaving, and poi. The concept of tapu (meaning taboo or sacred) is also a strong force in Māori culture, applied to objects, people, or even mountains.

Europeans migrated to New Zealand in increasing numbers from 1855. Maori traditional penchant for war,especially between 1805 and 1842 during the Musket Wars and diseases introduced destabilized traditional Māori society. The Treaty of Waitangi 1840 formed the basis of the establishment of British rule over New Zealand. New Zealand became partly self-governing in 1852 with the establishment of its own Parliament. The most serious conflict between Maori and European settlers was between 1863 and 1864 which resulted in land being confiscated from the defeated tribes. However Māori sold most of their land after 1870 and continued to do so until the 1980s. From 1820 Maori entered a long period of cultural and numerical decline. However their population began to increase again from the late 19th century, and a cultural revival began in the 1960s, sometimes known as the

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัฒนธรรมเมารี [แก้] ผู้หญิงเมารี hei-กี้ บริเวณคอของเธอ ต่างหูมูอ และต่างหูฟันฉลาม ขนทั้ง huia สองการสวมใส่ผมของเธอ เธอสวมเสื้อคลุมที่ มีเส้นขอบสีดำเพิ่มเติม และมีแบบ moko คางของเธอบทความหลัก: วัฒนธรรมเมารีเมารีมีคนสำหรับโปลีนีเซียพื้นเมืองของนิวซีแลนด์ (วิลล่า) ที่มาถึงครั้งแรก ในนิวซีแลนด์ประมาณ 1280 พวกเขามาจากลินีเซียตะวันออก มักเกาะสังคม ในปี 2014 demographers เชื่อเกี่ยวกับ 100-200 Polynesians อพยพมาถึงเวลาคล้ายกัน เมารีตัดสินเกาะ และพัฒนาวัฒนธรรมแตกต่างกันไปหลายร้อยปีชาวเมารีปากบอกของการเดินทางยาวจากกี (มาตุภูมิในตำนานในเขตร้อน) ในพายเรือแคนูเดินทะเลขนาดใหญ่ (waka) ตำนานเมารีเป็นคอร์ปัสโดดเด่นของพระเจ้าและวีรบุรุษ แชร์บางแบบโปลีนีเซีย บางตัวเลขที่โดดเด่นคือ Rangi และพ่อ Māui และจำนวนศูนย์กลางกิจกรรมทางวัฒนธรรมมากมายเป็น marae ที่ที่ครอบครัวและชนเผ่าที่รวบรวมสำหรับโอกาสพิเศษ เช่น pōwhiri หรือ tangi เมารีมักเรียกตัวเอง "tāngata whenua" (คนของแผ่นดิน), วางเฉพาะสำคัญในไลฟ์สไตล์ที่เชื่อมต่อกับที่ดินและทะเล ชุมชนชีวิต แบ่งปัน และนอนกินที่ดิน มีค่านิยมดั้งเดิมที่แข็งแกร่งค่าที่แตกต่าง ประวัติ และโลกทัศน์ของชาวเมารีแสดงออกผ่านศิลปะดั้งเดิมและทักษะเช่นฮาก้า tā moko, waiata แกะสลัก ทอผ้า และจุดที่น่าสนใจ แนวคิดของตะปู (หมายถึงห้าม หรือศักดิ์สิทธิ์) ก็แรงแข็งแกร่งในวัฒนธรรมเมารี นำไปใช้กับวัตถุ คน หรือแม้แต่ภูเขาชาวยุโรปย้ายไปนิวซีแลนด์ในการเพิ่มหมายเลข 1855 ความชื่นชอบในแบบสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างแรงและ 1842 สงครามปืนคาบศิลาและโรคที่นำชาวเมารี destabilized สังคมเมารีดั้งเดิม สนธิสัญญา Waitangi 1840 เกิดขึ้นพื้นฐานของการจัดตั้งการปกครองของอังกฤษมากกว่าประเทศไทย ประเทศไทยเป็นบางส่วนตนเองควบคุมในปี 1852 มีการจัดตั้งสภาของตนเอง ความขัดแย้งที่ร้ายแรงที่สุดระหว่างตั้งถิ่นฐานชาวเมารีและยุโรปถูกระหว่าง 1863 1864 ซึ่งที่ดินที่ถูกยึดจากเผ่าพ่ายแพ้ อย่างไรก็ตามเมารีขายของที่ดินหลังจาก 1870 และยังคงทำเช่นนั้นจนกระทั่งปี 1980 จาก 1820 เมารีป้อนเป็นนานปฏิเสธวัฒนธรรม และตัวเลข อย่างไรก็ตาม ประชากรของพวกเขาเริ่มที่จะเพิ่มขึ้นอีกจากปลายศตวรรษ และฟื้นฟูวัฒนธรรมเริ่มในปี 1960 บางครั้งเรียกว่าการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมารีวัฒนธรรม [แก้ไข] ผู้หญิงเมารีสวม Hei-Tiki รอบ ๆ ตัวเธอคอ, ต่างหู Pounamu และฟันฉลามต่างหูและขนนกสอง Huia ในผมของเธอ เธอสวมเสื้อคลุมที่มีเส้นขอบขอบสีดำและมีการออกแบบที่ Moko ที่คางของเธอ. บทความหลัก: วัฒนธรรมเมารีเมารีเป็นคนโพลินีเชียพื้นเมืองของนิวซีแลนด์ (รัว) คนแรกที่เข้ามาในประเทศนิวซีแลนด์ 1280 เกี่ยวกับพวกเขามาจากทางทิศตะวันออกโปลินีเซี ส่วนใหญ่มีแนวโน้มสังคมเกาะ ในปี 2014 เชื่อว่าประชากรศาสตร์เกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติที่ 100-200 Polynesians มาถึงในเวลาที่ใกล้เคียงกัน เมารีตัดสินเกาะและพัฒนาวัฒนธรรมที่แตกต่างกว่าหลายร้อยปี. เมารีประวัติศาสตร์บอกเล่าบอกของการเดินทางที่ยาวนานจาก Hawaiki (บ้านเกิดตำนานโปลินีเซีในเขตร้อน) ในเรือแคนูสมุทรขนาดใหญ่ (Waka) ตำนานชาวเมารีเป็นคลังที่โดดเด่นของเหล่าทวยเทพและวีรบุรุษร่วมลวดลายบางโปลีนีเซีย บางตัวเลขที่โดดเด่นเป็น Rangi และ Papa, เมาและ Kupe. กลางเพื่อกิจกรรมทางวัฒนธรรมหลาย marae ที่ครอบครัวและชนเผ่ารวบรวมสำหรับโอกาสพิเศษเช่นpōwhiriหรือ Tangi เมารีมักจะเรียกตัวเองว่า "Tāngata whenua" (ประชาชนแห่งแผ่นดิน) ให้ความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิตที่เชื่อมต่อกับบกและทางทะเล ที่อยู่อาศัยของชุมชนร่วมกันและการใช้ชีวิตออกจากที่ดินที่มีค่านิยมดั้งเดิมที่แข็งแกร่ง. ค่าที่แตกต่างกัน, ประวัติศาสตร์และโลกทัศน์ของชาวเมารีจะแสดงออกผ่านศิลปะแบบดั้งเดิมและทักษะเช่นฮาคาตาโก, Waiata แกะสลักทอผ้าและจุดที่น่าสนใจ แนวคิดของ Tapu (หมายถึงข้อห้ามหรือศักดิ์สิทธิ์) นอกจากนี้ยังเป็นแรงในวัฒนธรรมเมารีนำไปใช้กับวัตถุคนหรือแม้กระทั่งภูเขา. ชาวยุโรปอพยพไปยังประเทศนิวซีแลนด์ในตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจาก 1,855 เมารีชอบแบบดั้งเดิมสำหรับการทำสงครามโดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่าง 1805 และ 1842 ในช่วงสงครามปืนคาบศิลาและโรคแนะนำคาดไม่ถึงสังคมเมารีดั้งเดิม สนธิสัญญา Waitangi 1840 เป็นพื้นฐานสำคัญของการจัดตั้งการปกครองของอังกฤษนิวซีแลนด์ที่ นิวซีแลนด์กลายเป็นส่วนหนึ่งปกครองตนเองในปี 1852 ด้วยการจัดตั้งรัฐสภาของตัวเอง ความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างชาวเมารีและตั้งถิ่นฐานในยุโรปอยู่ระหว่าง 1863 และ 1864 ซึ่งมีผลในที่ดินที่ถูกยึดมาจากชนเผ่าพ่ายแพ้ อย่างไรก็ตามเมารีขายที่ดินส่วนใหญ่ของพวกเขาหลังจาก 1870 และยังคงทำจนปี 1980 จาก 1,820 เมารีเข้ามาเป็นระยะเวลานานของการลดลงทางวัฒนธรรมและตัวเลข แต่ประชากรของพวกเขาเริ่มที่จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และการฟื้นฟูวัฒนธรรมเริ่มต้นขึ้นในปี 1960 บางครั้งเรียกว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ม. สยาม โอริวัฒนธรรม [ แก้ไข ]ม. สยาม โอริผู้หญิงใส่ Tiki สวัสดีรอบคอของเธอต่างหูต่างหูโปว์นามูและฟันฉลาม และสองปีก huia ในผมของเธอ เธอสวมเสื้อคลุมที่มีเส้นขอบขอบดำ และมีการออกแบบที่โมโกะ คางของเธอบทความหลัก : ม. สยามโอริ วัฒนธรรมM อุบาสกโอริเป็นคนพื้นเมือง Polynesian ของนิวซีแลนด์ ( รัว ) คนแรกที่เดินทางมาถึงในนิวซีแลนด์ประมาณ 1280 . พวกเขามาถึงจากตะวันออกโปลีนีเซีย , ส่วนใหญ่สังคมเกาะ ในปี 2014 demographers เชื่อประมาณ 100-200 ชาวโพลินีเชียนผู้อพยพมาถึงในเวลาใกล้เคียงกัน ม. สยาม โอริตัดสินเกาะและพัฒนาวัฒนธรรมที่แตกต่างกว่าหลายร้อยปีประวัติบุคคลเมารีเล่าการเดินทางอันยาวนานจาก hawaiki ( บ้านเกิดตำนานโพลินีเซียเขตร้อน ) ในมหาสมุทรขนาดใหญ่ไปพายเรือแคนู ( Waka ) ม. สยาม โอริตำนานเป็นคลังข้อมูลที่โดดเด่นของวีรบุรุษพระและร่วมกันบางลวดลาย Polynesian . บางคนเด่นตัวเลข na และพ่อ , UI , อุบาสก และ คูเป .กลางของกิจกรรมทางวัฒนธรรมมากมายเป็นมะเร ที่ครอบครัวและชนเผ่ารวมตัวกันสำหรับโอกาสพิเศษ เช่น พีโฮ whiri หรือนอกจากนี้ . ม. สยาม โอริมักจะเรียกตัวเองว่า " อุบาสก ngata T whenua " ( ประชาชนในแผ่นดิน ) , การวางความสำคัญในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะเชื่อมต่อแผ่นดินและทะเล แบ่งปันชีวิตชุมชนและชีวิตออกจากที่ดินเป็นค่านิยมดั้งเดิมที่แข็งแกร่งที่แตกต่างกันค่า ประวัติศาสตร์ และโลกทัศน์ของชาวเมารีจะแสดงออกผ่านศิลปะแบบดั้งเดิมและทักษะ เช่น คณะอุบาสก waiata โมโกะ T , , , แกะสลัก การทอผ้า และจุดที่น่าสนใจ . แนวคิดของน้ำตาม ( หมายถึงข้อห้ามหรือศักดิ์สิทธิ์ ) เป็นแรงที่แข็งแกร่งใน M อุบาสกโอริ วัฒนธรรม ที่ใช้กับวัตถุ บุคคล หรือแม้กระทั่ง ภูเขาชาวยุโรปที่อพยพไปนิวซีแลนด์ในตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจาก 1855 . เมารีดั้งเดิมชอบสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่าง 0 1842 และในระหว่างสงครามปืนคาบศิลาและโรคแนะนำสูญสลายดั้งเดิม M อุบาสกโอริ สังคม สนธิสัญญา Waitangi 1840 รูปแบบพื้นฐานของการจัดตั้งการปกครองของอังกฤษเหนือนิวซีแลนด์ นิวซีแลนด์เป็นส่วนหนึ่งที่ปกครองตนเองใน 1852 ด้วยการจัดตั้งรัฐสภาของตนเอง ความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดระหว่างเมารีและยุโรปและตั้งถิ่นฐานอยู่ระหว่าง 1863 1864 ซึ่งส่งผลให้ที่ดินโดนยึดจากพวกชนเผ่า อย่างไรก็ตาม ม. สยาม โอริขายมากที่สุดของที่ดินของพวกเขาหลังจากที่ 1870 และยังคงทำเช่นนั้นจนกว่า 1980 จาก 1820 เมารีเข้าช่วงยาวของวัฒนธรรมและปฏิเสธตัวเลข อย่างไรก็ตาม ประชากรของพวกเขาเริ่มที่จะเพิ่มขึ้นอีกจากสายศตวรรษที่ 19 และการฟื้นฟูวัฒนธรรมเริ่มขึ้นในปี 1960 , บางครั้งเรียกว่า