DiscussionBased on the results of t

Discussion

Based on the results of the present study, the intervention based on HBM improved the participants' knowledge of cervical cancer significantly, changed their attitudes and motivated them to do Pap test. The results of the previous similar studies confirmed our findings. Sharifi-Rad et al 10 evaluated the educational effect on the performance of the prevention of smoking in first-year highschool students of Boukan City. They indicated that all constructs of the model inproved significanty after intervention. Papa et al 11 studied the effect of education on the knowledge, concern and desire of 50 women who were eligible to do Pap smear. They reported that 77% of the participants were encouraged to do Pap test after intervention.

We found that mean score of knowledge varied across age groups and educational level. This shows that the effect of intervention based on HBM has different effects on different age groups and education level. Tabeshian et al 12 conducted a Knowledge, Attitude and Practice (KAP) study to assess the effect of training on teachers of Isfahan County, but reported no statistically significant relationship between knowledge and both age and educational level.

We indicated that the mean score of all components of HBM increased significantly post-intervention compared to pre-intervention. Our findings are consistent with results of previous investigations. Yakhforoushha et al 9 assessed the effect of training on the voluntary health workers' knowledge and attitude regarding Pap test using HBM. Hazavehei et al 13 performed a training program for girl students in Garmsar City and used HBM to investigate the preventive behavior of the participants regarding osteoporosis. Sharifi-Rad et al 14 assessed the effect of health education using HBM on preventive action against cigarette smoking among high school students on preventive health practices of smoking in high school students has examined the results. All these studies revealed that both knowledge and attitude of the participants improved significantly after training program.

The main finding of the present study was changing in the participants' health behavior so that majority of them (81.4%) proceeded to do Pap test while they had never done Pap test previously. Park 15 planned a curriculum based on HBM and trained the women and found that tendency of do Pap test and practice was higher in intervention group compared to control group. In addition, an investiagtion conducted by Hazavehei et al 13 revealed that safety training based on the HBM can improve behavior of workers practice in using personal protective equipment. These findings indicate that training based on HBM can motivate and improve the preventive health behaviors. On the other hand, Tabeshian et al 12 used KAP design to improve the health behaviors of teachers in Isfahan County to do Pap test but found no significant differences in the participants' behaviors post-intervention compared to pre-intervention.

This study had several limitations including: (a) difficult access to the target group who were eligible to do Pap test but they did not refer to the health center for screening; (b) unwillingness of the participants due to high cost of Pap test; and (c) difficulty in filling out the questionnaire because of low literacy of the participants. Despite its limitations, the results of the current study revealed that education based on HBM could improve the knowledge of general population and change the people's behaviors regarding Pap test even in low educated individuals who had never participated previously in screening programs of the cervical cancer.

Conclusion

We concluded that health education based on HBM can enhance women's knowledge of cervical cancer, change their health beliefs and improve their behaviors regarding screening programs like Pap test even if they had never participated in preventive programs.

Acknowledgments

This article is a part of MSc thesis supported by Tehran University of Medical Sciences. We would like to thank Deputy of Education as well as Deputy of Research and Technology of Tehran University of Medical Sciences for financial support of this study. We also wish to thank Deputy of Health Services of Hamadan University of Medical Sciences for their valuable collaboration with this study.

Conflict of interest statement

The authors declare that they have no conflict of interests.

Funding

This study was funded by the Deputy of Research and Technology of Tehran University of Medical Sciences.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สนทนาขึ้นอยู่กับผลของการศึกษาปัจจุบัน แทรกแซงตาม HBM พัฒนาผู้เข้าร่วมความรู้มะเร็งปากมดลูกอย่างมีนัยสำคัญ เปลี่ยนทัศนคติของพวกเขา และแรงจูงใจให้ทำการทดสอบ ผลการศึกษาคล้ายคลึงกันก่อนหน้านี้ยืนยันผลการวิจัยของเรา Sharifi-Rad et al 10 ประเมินผลการศึกษาประสิทธิภาพของการป้องกันการสูบบุหรี่ในนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งของเมือง Boukan พวกเขาระบุว่า ทั้งหมดสร้างของ significanty inproved รุ่นหลังการแทรกแซง ปาป้า et al 11 ศึกษาผลของการศึกษาความรู้ ความกังวล และความปรารถนาของผู้หญิง 50 คนมีสิทธิ์ที่จะไม่ตรวจภายใน พวกเขารายงานว่า 77% ของผู้เข้าร่วมได้สนับสนุนให้ทำการทดสอบแทรกแซงเราพบว่า คะแนนเฉลี่ยของความรู้ที่แตกต่างกันทั้งอายุและระดับการศึกษา นี้แสดงว่า ผลของการแทรกแซงตาม HBM มีลักษณะพิเศษแตกต่างกันในกลุ่มอายุและระดับการศึกษา Tabeshian et al 12 การศึกษาความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติ (กาบ) เพื่อประเมินผลของการฝึกอบรมกับครูของเขตอิสฟาฮาน แต่รายงานไม่อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ทั้งอายุ และระดับการศึกษาเราระบุว่า คะแนนเฉลี่ยของส่วนประกอบทั้งหมดของ HBM เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแทรกแซงหลังการแทรกแซงก่อน ผลการวิจัยของเราสอดคล้องกับผลการตรวจสอบก่อนหน้านี้ได้ Yakhforoushha et al 9 ประเมินผลของการฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานสุขภาพความสมัครใจความรู้และทัศนคติเกี่ยวกับการทดสอบใช้ HBM Hazavehei et al 13 การฝึกสำหรับนักเรียนสาวในเมือง Garmsar และใช้ HBM เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของผู้เรียนเกี่ยวกับโรคกระดูกพรุนป้องกัน Sharifi-Rad et al 14 ประเมินผลสุขภาพ โดย HBM บนการดำเนินการป้องกันต่อต้านการสูบบุหรี่ในนักเรียนมัธยมในวิธีสุขภาพป้องกันการสูบบุหรี่ในนักเรียนได้ตรวจสอบผลการ ศึกษาเหล่านี้เปิดเผยที่ความรู้และทัศนคติของผู้เข้าร่วมขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากโปรแกรมการฝึกอบรมค้นหาหลักการศึกษาปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมสุขภาพของผู้เข้าร่วมเพื่อครอบครัวที่ส่วนใหญ่ของพวกเขา (81.4%) เพื่อทำการทดสอบในขณะที่พวกเขาไม่เคยได้ทำการทดสอบก่อนหน้านี้ สวน 15 แผนหลักสูตรที่ยึดตาม HBM และผู้หญิงการฝึกอบรม และพบว่า แนวโน้มทำทดสอบ และฝึกหัดได้สูงในการแทรกแซงของกลุ่มเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม นอกจากนี้ investiagtion การดำเนินการโดย Hazavehei et al 13 เปิดเผยว่า การฝึกอบรมความปลอดภัยตาม HBM สามารถปรับปรุงลักษณะการทำงานของผู้ปฏิบัติงานปฏิบัติในการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ค้นพบเหล่านี้บ่งชี้ว่า การฝึกอบรมตาม HBM สามารถจูงใจ และปรับปรุงพฤติกรรมการป้องกันสุขภาพ บนมืออื่น ๆ Tabeshian et al 12 ใช้กาบออกแบบเพื่อปรับปรุงพฤติกรรมสุขภาพของครูในเขตอิสฟาฮาน เพื่อทำการทดสอบพบไม่แตกต่างกันของผู้เข้าร่วมพฤติกรรมหลังการแทรกแซงเมื่อเทียบกับการแทรกแซงก่อนการศึกษานี้มีข้อจำกัดหลายประการรวมถึง: (a) ถึงเป้าหมายยากกลุ่มที่มีสิทธิ์ที่จะทำการทดสอบ แต่พวกเขาไม่ได้อ้างถึงศูนย์สุขภาพสำหรับคัด (ข) unwillingness ของผู้เรียนเนื่องจากต้นทุนที่สูงของการทดสอบ และ (c) ความยากในการกรอกแบบสอบถามเนื่องจากสามารถต่ำสุดของผู้เข้าร่วม แม้ มีข้อจำกัดของมัน ผลของการศึกษาปัจจุบันเปิดเผยว่า ตาม HBM ศึกษาสามารถปรับปรุงความรู้ของประชากรทั่วไป และเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนที่เกี่ยวกับการทดสอบในบุคคลศึกษาต่ำที่มีไม่เคยเข้าร่วมก่อนหน้านี้ในโปรแกรมของมะเร็งปากมดลูกการตรวจคัดกรองบทสรุปเราสรุปว่า สุขภาพศึกษาตาม HBM สามารถเพิ่มความรู้มะเร็งปากมดลูกของสตรี เปลี่ยนความเชื่อของพวกเขาสุขภาพ และปรับปรุงการทำงานเกี่ยวกับโปรแกรมคัดกรองเช่นทดสอบแม้ว่าพวกเขาไม่เคยได้เข้าร่วมในโปรแกรมป้องกันตอบบทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์หลักได้รับการสนับสนุน โดยเตหรานมหาวิทยาลัยของวิทยาศาสตร์การแพทย์ เราอยากขอขอบคุณรองศึกษาตลอดจนรองวิจัย และเทคโนโลยีของเตหะรานมหาวิทยาลัยของวิทยาศาสตร์การแพทย์สำหรับการสนับสนุนทางการเงินของการศึกษานี้ นอกจากนี้เรายังต้องขอขอบคุณท่านรองของสุขภาพบริการของ Hamadan มหาวิทยาลัยของวิทยาศาสตร์การแพทย์สำหรับความร่วมมือของพวกเขามีคุณค่ากับการศึกษานี้แย้งคำสั่งผู้เขียนประกาศว่า พวกเขามีความขัดแย้งไม่น่าสนใจจัดหาเงินทุนการศึกษานี้ได้รับการสนับสนุน โดยผู้วิจัยและเทคโนโลยีของเตหะรานมหาวิทยาลัยของวิทยาศาสตร์การแพทย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การอภิปราย

ตามผลการศึกษาปัจจุบันได้รับการปรับปรุงตามห์กิจกรรมความรู้เกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกอย่างมีนัยสำคัญ เปลี่ยนแปลงทัศนคติและแรงจูงใจให้ทำทดสอบ PAP ผลการศึกษาก่อนหน้านี้ที่คล้ายกันยืนยันผลการวิจัยของเราsharifi ราด et al 10 ประเมินผลการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการป้องกันการสูบบุหรี่ในนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ชั้นปีที่ 1 ของ boukan เมือง พวกเขาพบว่าโครงสร้างของแบบจำลอง inproved การบริโภคข้าวกล้องแตกต่างกันหลังการทดลอง Papa et al 11 ศึกษาผลกระทบของการศึกษาความรู้ ปัญหา และความต้องการของผู้หญิงผู้ซึ่งมี 50 ทำการตรวจมะเร็งปากมดลูกพวกเขารายงานว่าร้อยละ 77 ของผู้เรียน ส่งเสริมให้ทำการตรวจทดสอบหลังการทดลอง

เราพบว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนความรู้ที่หลากหลายทั้งอายุ และระดับการศึกษา นี้แสดงให้เห็นว่าผลกระทบของการแทรกแซงจากห์ได้ผลแตกต่างกันในแต่ละกลุ่มอายุ และระดับการศึกษา tabeshian et al 12 เพื่อสร้างความรู้เจตคติ และการปฏิบัติ ( คับ ) การศึกษาเพื่อศึกษาผลของการฝึกครูฟาของมณฑล แต่รายงานว่าไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ และ ทั้ง อายุ และระดับการศึกษา

เราพบว่าค่าเฉลี่ยของส่วนประกอบทั้งหมดของห์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับก่อนเรียนกลุ่มการค้นพบของเราสอดคล้องกับผลลัพธ์ของการสอบสวนก่อนหน้านี้ yakhforoushha et al 9 ประเมินผลการฝึกของความรู้ของคนงานสุขภาพโดยสมัครใจ และทัศนคติเกี่ยวกับการใช้แบบทดสอบ PAP ห์ . hazavehei et al 13 ดำเนินการฝึกอบรมสำหรับนักศึกษาสาวในเมือง และใช้ garmsar ห์เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับโรคกระดูกพรุนsharifi ราด et al 14 ประเมินผลสุขศึกษาโดยใช้ห์ในการป้องกันต่อต้านการสูบบุหรี่ของนักเรียนมัธยมในการปฏิบัติการป้องกันสุขภาพของการสูบบุหรี่ในนักเรียนมัธยมปลายได้ตรวจสอบผล การศึกษานี้พบว่า ความรู้และทัศนคติของผู้เข้าร่วมการปรับปรุงอย่างมาก หลังจากการฝึกอบรม .

ค้นพบหลักของการศึกษาคือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพของผู้เข้าร่วมเพื่อให้ส่วนใหญ่ของพวกเขา ( เป็น % ) ทำการทดสอบ PAP ในขณะที่พวกเขาไม่เคยทดสอบ PAP ก่อนหน้านี้ ปาร์ค 15 วางแผนหลักสูตรขึ้นอยู่กับห์และฝึกผู้หญิง และพบว่า แนวโน้มของการทำทดสอบ PAP และการปฏิบัติสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม นอกจากนี้การ investiagtion โดย hazavehei et al 13 เปิดเผยว่า การฝึกอบรมด้านความปลอดภัยตามห์สามารถปรับปรุงพฤติกรรมของคนงานฝึกการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล จากผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการฝึกตามห์สามารถกระตุ้นและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพในการป้องกัน บนมืออื่น ๆtabeshian et al 12 ใช้ออกแบบคับเพื่อพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพของครูในเขตฟาาชาววิกิพีเดีย แต่พบว่าไม่มีความแตกต่างในพฤติกรรมของผู้เรียน เมื่อเทียบกับก่อนการทดลอง การศึกษานี้มีข้อ จำกัด หลาย ๆ

รวมถึง :( A ) ที่ยากเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นสิทธิที่จะทำทดสอบ PAP แต่พวกเขาไม่ได้หมายถึงศูนย์สุขภาพเพื่อคัดกรอง ; ( B ) ความไม่เต็มใจของผู้เข้าร่วม เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงของชาววิกิพีเดีย และ ( c ) ความยากง่ายในการกรอกแบบสอบถาม เพราะความรู้น้อยของผู้เข้าร่วม แม้จะมีข้อ จำกัด ของมันผลการศึกษาพบว่า การศึกษาในปัจจุบันตามห์สามารถพัฒนาความรู้ของประชากรทั่วไป และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของประชาชนเกี่ยวกับชาววิกิพีเดียแม้แต่น้อยการศึกษาบุคคลที่ไม่เคยเข้าร่วมก่อนหน้านี้ในโปรแกรมฉายของมะเร็งปากมดลูก .



สรุปเราสรุปได้ว่า การศึกษาด้านสุขภาพตามห์สามารถเพิ่มความรู้ของผู้หญิง มะเร็งปากมดลูก การเปลี่ยนแปลงความเชื่อด้านสุขภาพของตนเองและปรับปรุงพฤติกรรมของพวกเขาเกี่ยวกับโปรแกรมฉายเหมือนชาววิกิพีเดียแม้ว่าพวกเขาเคยเข้าร่วมในโปรแกรมการป้องกัน

ขอบคุณ

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเตหะราน การแพทย์ วิทยาศาสตร์เราอยากจะขอบคุณรองของการศึกษา ตลอดจนผู้ช่วยวิจัยและเทคโนโลยีของเตหะรานมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์สำหรับการสนับสนุนทางการเงินของการศึกษานี้ นอกจากนี้เรายังขอขอบคุณรองบริการสุขภาพของเตหะรานมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ของพวกเขาที่มีคุณค่าร่วมกับการศึกษา .



สนใจความขัดแย้งของงบผู้เขียนประกาศว่าพวกเขามีความขัดแย้งของผลประโยชน์ .



เงินทุนการศึกษานี้ได้รับการสนับสนุนโดยเจ้าหน้าที่ของสถาบันวิจัยเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยเตหะราน .