Several year later,Merton Miller (t

Several year later,Merton Miller (this time without Modigliani) extended the analysis to include personal taxes. He noted that all of the income from bonds generally comes as interest, which is taxed as personal income at rates going up to 39.6 percent,while income from stock generally comes partly from dividends and partly from capital gains. Further, capital gains are taxed at a maximum rate of 20 percent, and this tax is deferred until the stock is sold and the gain realized.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลายปีต่อมา มิลเลอร์ฮอลโลเวย์ (เวลานี้ โดย Modigliani) ขยายการวิเคราะห์การรวมภาษีส่วนบุคคล เขาตั้งข้อสังเกตว่า รายได้จากพันธบัตรทั้งหมดโดยทั่วไปมาเป็นดอกเบี้ย ซึ่งถูกคิดภาษีรายได้ส่วนบุคคลอัตราไปถึง 39.6 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่รายได้จากสต็อกโดยทั่วไปที่มา จากเงินปันผลบางส่วน และบางส่วน จากกำไร เพิ่ม กำไรจ่ายภาษีในอัตราสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์ และภาษีนี้สะสมจนกว่าจะขายหุ้น และกำไรที่รับรู้ด้วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลายปีต่อมาเมอร์ตันมิลเลอร์ (เวลานี้โดยไม่ Modigliani) ขยายการวิเคราะห์เพื่อรวมภาษีส่วนบุคคล เขาตั้งข้อสังเกตว่าทั้งหมดของรายได้จากการออกพันธบัตรโดยทั่วไปมาเป็นที่น่าสนใจซึ่งมีการเก็บภาษีเป็นรายได้ส่วนบุคคลในอัตราที่จะขึ้นไปร้อยละ 39.6 ในขณะที่รายได้จากการซื้อขายหุ้นทั่วไปมาส่วนหนึ่งมาจากการจ่ายเงินปันผลและส่วนหนึ่งมาจากกำไร นอกจากนี้กำไรจะหักภาษีในอัตราสูงสุดร้อยละ 20 และภาษีนี้จะเลื่อนไปก่อนจนกว่าหุ้นที่จะขายและกำไรได้ตระหนักถึง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลายปีต่อมา เมอร์ตันมิลเลอร์ ( คราวนี้ไม่มี Modigliani ) ขยายการวิเคราะห์รวมภาษีส่วนบุคคล เขากล่าวว่าทั้งหมดของรายได้จากพันธบัตรโดยทั่วไปมาเป็น ดอกเบี้ย ซึ่งจะเก็บภาษีรายได้ส่วนบุคคลที่อัตราไปถึง 65 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่รายได้จากหุ้นโดยทั่วไปมาบางส่วนจากบางส่วนจากเงินปันผลและกำไรส่วนทุน เพิ่มเติม กำไรจะเสียภาษีในอัตราสูงสุดของ 20 เปอร์เซ็นต์ และนี้เป็นภาษีรอการตัดบัญชีจนกว่าหุ้นจะขาย และได้รับรู้