The objective of this study was to

The objective of this study was to investigate how polymers used as auxiliary emulsifiers improve the stability of
oil-in-water emulsions. One stable emulsion and three unstable emulsions were formulated with 30% mineral oil and
an emulsifier blend of Tween ® 40 and Span ® 20. The stable emulsion (SE) contained 2% emulsifier blend optimized
for maximum stability. One unstable emulsion, UEI, was formulated to contain 0.5% of the same emulsifier blend as
the SE formulation. Two unstable emulsions were formulated to contain an unbalanced emulsifier blend, one with
excessive hydrophilic emulsifier (UE2) and one with excessive lipophilic emulsifier (UE3). A series of emulsions was
prepared containing increasing amounts of methylcellulose for each base emulsion. Creaming and change in particle
size were measured to evaluate stability. The addition of the polymer to the stable emulsion caused instability leading
to creaming and eventual oil separation. This effect of the polymer was more pronounced in UE1 emulsions.
However, the addition of the polymer improved the stability of the UE2 and UE3 series of emulsions. The polymer
also caused a reduction in the particle size of UE3 emulsions and a proportionally larger increase in the viscosity of
UE2 emulsions. These results suggest that (i) methylcellulose could act as a hydrophilic emulsifier only in the absence
of Tween ® 40, (ii) methylcellulose and Tween ® 40 associate to form a complex and (iii) the concentration of Tween '~
40 is the determining factor for the stability of emulsions. A model of the methylcellulose-Tween ® 40 association and
its effect at the mineral oil-water interface is proposed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการ ตรวจสอบวิธีการปรับปรุงเสถียรภาพของโพลิเมอร์ที่ใช้เป็นเสริม emulsifiersอิมัลชันน้ำในน้ำมัน หนึ่งในอิมัลชันมีเสถียรภาพและอิมัลชันเสถียรสามถูกผสม ด้วยน้ำมัน 30% และเป็นตัวอิมัลซิ 40®แต่และช่วง® 20 อิมัลชันมีเสถียรภาพ (SE) มีอยู่ 2% ผสมสารที่เหมาะสมสำหรับเสถียรภาพสูงสุด อิมัลชั่นไม่เสถียรหนึ่ง UEI สูตรประกอบด้วย 0.5% ของการผสมผสานสารเดียวกันเป็นสูตร SE อิมัลชันเสถียรสองมีสูตรมีการผสมผสานสารไม่สมดุล มีสารน้ำมากเกินไป (UE2) และที่ มีมากเกินไปสาร lipophilic (UE3) คือชุดของอิมัลชันเตรียมที่มีเพิ่มจำนวนของ methylcellulose สำหรับแต่ละฐานอิมัลชัน เช็กและเปลี่ยนอนุภาคขนาดถูกวัดประเมินความมั่นคง การเพิ่มของโพลิเมอร์กับอิมัลชันมีเสถียรภาพเกิดนำความไม่แน่นอนการแยกน้ำมันครีม และสุด นี้ผลของพอลิเมอร์ถูกมากขึ้นเด่นชัดในอิมัลชัน UE1อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของพอลิปรับปรุงเสถียรภาพของ UE2 และ UE3 ของอิมัลชัน ลิเมอร์ยัง มีสาเหตุมาจากการลดขนาดอนุภาคของสารแขวนลอย UE3 และใหญ่ตามสัดส่วนเพิ่มขึ้นความหนืดของUE2 อิมัลชัน ผลลัพธ์เหล่านี้แนะนำว่า (i) methylcellulose อาจทำหน้าที่เป็นสารที่น้ำเท่านั้นในกรณีที่ไม่แต่ 40® methylcellulose (ii) และ 40®แต่เชื่อมโยงในรูปแบบคอมเพล็กซ์และ (iii) ความเข้มข้นของโลก ' ~40 เป็นตัวกำหนดสำหรับเสถียรภาพของอิมัลชัน แบบจำลองของ methylcellulose-โลก® 40 สมาคม และมีเสนอผลที่อินเทอร์เฟซสำหรับน้ำแร่น้ำมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้เพื่อตรวจสอบวิธีการที่นำมาใช้เป็นโพลีเมอ emulsifiers ช่วยปรับปรุงเสถียรภาพของ
อิมัลชันชนิดน้ำมันในน้ำ หนึ่งอิมัลชันที่มีเสถียรภาพและสามอิมัลชันเสถียรเป็นสูตรที่มีน้ำมันแร่ 30% และ
การผสมผสานของอิมัลซิ Tween ® 40 และช่วง® 20. อิมัลชันที่มีเสถียรภาพ (SE) มีอยู่ 2% อิมัลซิผสมผสานที่ดีที่สุด
สำหรับความมั่นคงสูงสุด หนึ่งอิมัลชันไม่แน่นอน UEI, เป็นสูตรที่จะมี 0.5% ของการผสมผสานอิมัลเช่นเดียวกับ
การกำหนด SE สองอิมัลชันเสถียรเป็นสูตรที่จะมีการผสมผสานอิมัลชันไม่สมดุลเป็นหนึ่งเดียวกับ
อิมัลซิ hydrophilic มากเกินไป (UE2) และเป็นหนึ่งเดียวกับอิมัลซิ lipophilic มากเกินไป (UE3) ชุดของอิมัลชันถูก
จัดทำขึ้นมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นของเมทิลสำหรับแต่ละฐานอิมัลชัน ครีมและการเปลี่ยนแปลงในอนุภาค
ขนาดวัดในการประเมินความมั่นคง นอกจากนี้ของพอลิเมออิมัลชันที่จะมีเสถียรภาพที่เกิดจากความไม่แน่นอนที่นำ
ไปครีมและการแยกน้ำมันที่สุด ผลของโพลีเมอนี้เป็นเด่นชัดมากขึ้นในอิมัลชัน UE1.
อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากพอลิเมอปรับปรุงเสถียรภาพของ UE2 และ UE3 ชุดของอิมัลชัน พอลิเมอ
ยังก่อให้เกิดการลดลงของขนาดอนุภาคอิมัลชัน UE3 และเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนขนาดใหญ่ในความหนืดของการ
อิมัลชัน UE2 ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า (i) เมทิลสามารถทำหน้าที่เป็นอิมัล hydrophilic เฉพาะในกรณีที่ไม่มี
ของ Tween ® 40, (ii) เมทิลและ Tween ® 40 ร่วมในรูปแบบที่ซับซ้อนและ (iii) ความเข้มข้นของทวีนะ ~
40 เป็นกำหนด ปัจจัยความมั่นคงของอิมัลชัน รูปแบบของเมทิล-Tween ® 40 สมาคมและ
ผลกระทบที่อินเตอร์เฟซน้ำมันน้ำแร่ที่นำเสนอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือ เพื่อศึกษาว่าวัสดุที่ใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยปรับปรุงเสถียรภาพของน้ำมันในน้ำอิมัลชัน . อันดับหนึ่งและสามอิมัลชันอิมัลชันสูตรเสถียรเป็น 30% และน้ำมันแร่การผสมผสานของอิมัลซิไฟเออร์วีน® 40 และช่วง® 20 อิมัลชันที่มีเสถียรภาพ ( SE ) ที่มีอยู่ 2 % เอสพีผสมเหมาะเพื่อความเสถียรสูงสุด หนึ่ง มั่นคง อิมัลชัน uei เป็นสูตรที่ประกอบด้วย 0.5% ของเดียวกันเป็นอิมัลซิไฟเออร์ ผสมผสานความเร็วการกำหนด สองคือมีเสถียรในสูตรไม่ผสมกับอิมัลซิไฟเออร์ ,น้ำมากเกินไปอิมัลซิไฟเออร์ ( ue2 ) และหนึ่งกับเกินลิโพฟิลิกอิมัลซิไฟเออร์ ( ue3 ) ชุดของอิมัลชั่น คือเตรียมบรรจุปริมาณที่เพิ่มขึ้นของเมธิลเซลลูโลสสำหรับแต่ละฐานอิมัลชัน ครีมและการเปลี่ยนแปลงในอนุภาคขนาดอยู่วัดเพื่อประเมินความมั่นคง นอกจากนี้ของพอลิเมอร์อิมัลชันที่เกิดจากความมีเสถียรภาพชั้นนํากับครีมและแยกน้ำมันในที่สุด ผลของพอลิเมอร์เด่นชัดมากขึ้นใน ue1 อิมัลชัน .อย่างไรก็ตาม การเพิ่มของพอลิเมอร์ปรับปรุงเสถียรภาพของ ue2 ue3 และชุดของอิมัลชัน . โพลิเมอร์ยังทำให้การลดขนาดอนุภาคของ ue3 อิมัลชัน และเพิ่มตามส่วนใหญ่ในความหนืดue2 อิมัลชัน . ผลลัพธ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า ( ผม ) ตัวจะทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์ในขาดน้ำเท่านั้นน® 40 ( 2 ) เมธิลเซลลูโลสและทวี® 40 เชื่อมโยงกับรูปแบบซับซ้อนและ ( 3 ) ความเข้มข้นของ Tween " ~40 เป็นปัจจัยชี้ขาดสำหรับความเสถียรของอิมัลชัน . รูปแบบของตัวทวี® 40 สมาคมและผลของแร่ธาตุ oil-water อินเตอร์เฟซที่เสนอ