In 1947, John Nash (Crowe) arrives

In 1947, John Nash (Crowe) arrives at Princeton University. He is co-recipient, with Martin Hansen (Lucas), of the prestigious Carnegie Scholarship for mathematics. At a reception, he meets a group of other promising math and science graduate students, Richard Sol (Goldberg), Ainsley (Jason Gray-Stanford), and Bender (Rapp). He also meets his roommate Charles Herman (Bettany), a literature student.

Nash is under extreme pressure to publish, but he wants to publish his own original idea. His inspiration comes when he and his fellow graduate students discuss how to approach a group of women at a bar. Hansen quotes Adam Smith and advocates "every man for himself", but Nash argues that a cooperative approach would lead to better chances of success. Nash develops a new concept of governing dynamics and publishes an article on this. On the strength of this, he is offered an appointment at MIT where Sol and Bender join him.

Some years later, Nash is invited to the Pentagon to crack encrypted enemy telecommunication. Nash can decipher the code mentally, to the astonishment of other decrypters. He considers his regular duties at MIT uninteresting and beneath his talents, so he is pleased to be given a new assignment by his mysterious supervisor, William Parcher (Harris) of the United States Department of Defense. He is to look for patterns in magazines and newspapers in order to thwart a Soviet plot. Nash becomes increasingly obsessive about searching for these hidden patterns and believes he is followed when he delivers his results to a secret mailbox.

Meanwhile a student, Alicia Larde (Connelly), asks him to dinner, and the two fall in love. On a return visit to Princeton, Nash runs into Charles and his niece, Marcee (Cardone). With Charles' encouragement, he proposes to Alicia and they marry.

Nash begins to fear for his life after witnessing a shootout between Parcher and Soviet agents, but Parcher blackmails him into staying on his assignment. While delivering a guest lecture at Harvard University, Nash tries to flee from people he thinks are foreign agents, led by Dr. Rosen (Plummer). After punching Rosen in an attempt to flee, Nash is forcibly sedated and sent to a psychiatric facility he believes is run by the Soviets.

Dr. Rosen tells Alicia that Nash has paranoid schizophrenia and that Charles, Marcee, and Parcher exist only in his imagination. Alicia investigates and finally confronts Nash with the unopened documents he had delivered to the secret mailbox. Nash is given a course of insulin shock therapy and eventually released. Frustrated with the side-effects of the antipsychotic medication he is taking, which make him lethargic and unresponsive, he secretly stops taking it. This causes a relapse and he meets Parcher again.

After an incident where Nash endangers his infant son and accidentally knocks Alicia and the baby to the ground (thinking he's stopping Parcher from killing her), she flees the house with their child. Nash steps in front of her car to prevent her from leaving, after he realizes that he's known Marcee for a long time, yet she never grew older. He finally accepts that Parcher and other figures are hallucinations. Against Dr. Rosen's advice, Nash decides not to restart his medication, believing that he can deal with his symptom himself. Alicia decides to stay and support him in this.

Nash approaches his old friend and rival, Martin Hansen, now head of the Princeton mathematics department. He grants Nash permission to work out of the library and to audit classes. Years pass and as Nash grows older, he learns to ignore his hallucinations and earns the privilege of teaching again.

In 1994, Nash is honored by his fellow professors for his achievement in mathematics. He wins the Nobel Memorial Prize in Economics for his revolutionary work on game theory. The movie ends as Nash and Alicia leave the auditorium in Stockholm; Nash sees Charles, Marcee, and Parcher standing to one side and watching him.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน Nash จอห์น (โครว์) มาถึงที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน เขาเป็นผู้ร่วมรับ กับมาร์ตินแฮนเซ่น (Lucas), การศึกษาคาร์เนกีอันทรงเกียรติสำหรับคณิตศาสตร์ ที่แผนกต้อนรับ เขาตามกลุ่มอื่น ๆ ว่าคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ศึกษา ริชาร์ด Sol (Goldberg), Ainsley (Jason เทาสแตนฟอร์ด), และ Bender (Rapp) นอกจากนี้เขายังพบเขาเพื่อนร่วมห้องชาร์ล Herman (Bettany), เอกสารประกอบการเรียนแนชอยู่ภายใต้ความกดดันมากในการประกาศ แต่อยากเผยแพร่ความคิดเดิมของเขาเอง แรงบันดาลใจมาเมื่อเขาและนักศึกษาเพื่อนเขาหารือวิธีการพบกลุ่มของผู้หญิงอยู่ แฮนเซ่นอ้างอิงอาดัมสมิธ และสนับสนุน "ทุกคนสำหรับตัวเอง" แต่แนชจนว่า วิธีการสหกรณ์จะนำไปสู่โอกาสที่ดีของความสำเร็จ แนชพัฒนาแนวคิดใหม่ของการควบคุม dynamics และเผยแพร่บทความนี้ ความแรงของนี้ เขามีนัดหมายกันที่ MIT ที่โซลและ Bender ร่วมเขาปีต่อมา Nash ได้รับเชิญให้เพนตากอการโทรคมนาคมศัตรูเข้ารหัสถอดรหัส แนชสามารถถอดรหัสรหัสใจ การ astonishment ของ decrypters อื่น ๆ เขาพิจารณาหน้าที่ปกติของเขา ที่ MIT น้อย ๆ และภาย ใต้ความ สามารถของเขา ดังนั้นเขาจึงยินดีที่ได้รับการกำหนดใหม่ โดยผู้ลึกลับของเขา William Parcher (แฮร์ริส) ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา เขาจะมองหารูปแบบในนิตยสารและหนังสือพิมพ์เพื่อป้องกันการพล็อตโซเวียต แนชเป็น obsessive มากขึ้นเกี่ยวกับการค้นหารูปแบบเหล่านี้ซ่อนอยู่ และเชื่อว่า เขาจะปฏิบัติตามเมื่อเขาส่งผลลัพธ์ของเขาไปยังกล่องจดหมายลับในขณะเดียวกัน นักเรียน อลิเซีย Larde (คอนเนลลี), ถามเขาไปทานอาหารค่ำ และทั้งสองตกหลุมรัก ในคืนเยือนปรินซ์ตัน แนชรันเป็นชาร์ลส์และหลานสาวของเขา Marcee (Cardone) ให้กำลังใจของชาร์ลส์ เขาเสนอให้อลิเซีย และจะแต่งงานแนชเริ่มกลัวสำหรับชีวิตของเขาหลังจากพยานยิงระหว่าง Parcher และตัวแทนสหภาพโซเวียต แต่ Parcher blackmails เขาเป็นกำหนดของเขาอยู่ ขณะส่งพักการบรรยาย ณมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด Nash พยายามหนีจากคนที่เขาคิดว่า เป็นตัวแทนต่างประเทศ นำ โดยดร.โร (พลัมเมอร์) หลังจากเจาะโรในความพยายามที่จะหลบหนี แนชคือบังคับให้ sedated แล้วส่งไปเป็นจิตแพทย์เขาเชื่อว่า มีการเรียกใช้ โดยสหภาพดร.โรบอกอลิเซียว่า Nash มีโรคจิตเภทระแวง และว่า ชาร์ลส์ Marcee และ Parcher มีอยู่เฉพาะในจินตนาการของเขา อลิเซียตรวจสอบ และสุดท้าย กับความแนชกับเอกสารยังเขาได้ส่งจดหมายลับ แนชได้กำหนดหลักสูตรการรักษาด้วยอินซูลินช็อก และออกในที่สุด ผิดหวังกับผลข้างเคียงยา antipsychotic เขากำลัง ซึ่งทำให้เขาง่วง และไม่ตอบสนอง เขาแอบหยุดถ่ายก็ ทำให้การกลับไปเสพ และเขาได้พบ Parcher อีกครั้งหลังจากเหตุการณ์ที่แนชมลพิษบุตรทารก และตั้งใจ knocks อลิเซียและเด็กพื้นที่ (คิดว่า เขาจะหยุด Parcher ฆ่าเธอ), เธอหลบบ้านกับลูก แนชตอนหน้ารถของเธอให้เธอทิ้ง หลังจากที่เขาตระหนักว่า เขาได้รู้จัก Marcee เป็นเวลานาน แต่เธอไม่เคยเติบโตเก่า สุดท้ายเขายอมรับว่า Parcher และตัวเลขอื่น ๆ จะเห็นภาพหลอน กับคำแนะนำของดร.โร แนชตัดสินใจไม่เข้ายาของเขา เริ่มเชื่อว่า เขาสามารถจัดการกับอาการของตัวเอง อลิเซียตัดสินใจที่จะอยู่ และสนับสนุนเขาในนี้แนชแจ้งเพื่อนเก่าของเขาและคู่แข่ง มาร์ตินแฮนเซ่น หัวตอนนี้วิชาคณิตศาสตร์ปรินซ์ตัน เขาให้สิทธิ์แนชทำงานออกจากไลบรารี และ การตรวจสอบการเรียน ปีที่ผ่าน และเป็นแนชอายุมาก เขารู้เฉยของเขาเห็นภาพหลอน และทำแต้มได้สิทธิพิเศษในการสอนอีกครั้งในปี 1994 แนชเป็นเกียรติ โดยอาจารย์ของเขาเพื่อนสำหรับความสำเร็จของเขาในวิชาคณิตศาสตร์ เขาชนะอัลเฟรดโนเบลเศรษฐศาสตร์สำหรับงานของเขาปฏิวัติในทฤษฎีเกม ภาพยนตร์จบลงเป็นแนชและอลิเซียออกจากห้องประชุมในสตอกโฮล์ม แนชเห็นชาร์ลส์ Marcee และ Parcher ยืนอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง และดูเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1947 จอห์นแนช (โครว์) มาถึงที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน เขาเป็นผู้ร่วมบริจาคกับมาร์ตินแฮนเซน (ลูคัส), ทุนการศึกษาของคาร์เนกีอันทรงเกียรติสำหรับคณิตศาสตร์ ที่รับเขาได้พบกับกลุ่มของคณิตศาสตร์ที่มีแนวโน้มอื่น ๆ และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาวิทยาศาสตร์, ริชาร์ดโซล (โกลด์เบิร์ก), เอนส์ลีย์ (เจสันสแตนฟอสีเทา) และเบนเดอร์ (Rapp) นอกจากนี้เขายังได้พบกับเพื่อนร่วมห้องของเขาชาร์ลส์เฮอร์แมน (เบตตานีย์) นักศึกษาวรรณกรรม. แนชที่อยู่ภายใต้ความกดดันมากในการเผยแพร่ แต่เขาต้องการที่จะเผยแพร่ความคิดเดิมของตัวเอง แรงบันดาลใจของเขามาเมื่อเขาและนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของเขาเพื่อนร่วมหารือถึงวิธีการที่จะเข้าใกล้กลุ่มของผู้หญิงที่บาร์ คำพูดของอดัมสมิ ธ แฮนเซนและสนับสนุน "ทุกคนสำหรับตัวเอง" แต่แนชระบุว่าวิธีการสหกรณ์จะนำไปสู่โอกาสที่ดีของความสำเร็จ แนชได้พัฒนาแนวคิดใหม่ของการเปลี่ยนแปลงการปกครองและตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่กำลังมาแรงในครั้งนี้เขาได้รับการแต่งตั้งจะมีบริการที่เอ็มไอทีที่โซลและประมาทร่วมงานกับเขา. หลายปีต่อมาแนชได้รับเชิญให้เพนตากอนที่จะแตกโทรคมนาคมศัตรูเข้ารหัส แนชสามารถถอดรหัสรหัสจิตใจความประหลาดใจของ decrypters อื่น ๆ เขาคิดว่าการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติของเขาที่ MIT จืดและภายใต้ความสามารถของเขาเพื่อให้เขามีความยินดีที่จะได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาใหม่ลึกลับของเขาวิลเลียม Parcher (แฮร์ริส) ของสหรัฐอเมริกากระทรวงกลาโหม เขาคือการมองหารูปแบบในนิตยสารและหนังสือพิมพ์เพื่อที่จะขัดขวางการพล็อตของสหภาพโซเวียต แนชจะกลายเป็นครอบงำมากขึ้นเกี่ยวกับการค้นหารูปแบบที่ซ่อนอยู่เหล่านี้และเชื่อว่าเขาจะตามมาเมื่อเขามอบผลของเขาไปยังกล่องจดหมายลับ. ในขณะเดียวกันนักเรียน, อลิเซีย Larde (คอนเนลลี) ขอให้เขาไปทานอาหารเย็นและทั้งสองตกอยู่ในความรัก ในการเข้าชมกลับไปพรินซ์ตันแนชวิ่งเข้าชาร์ลส์และหลานสาวของเขา Marcee (Cardone) ด้วยการสนับสนุนชาร์ลส์เขาแนะให้อลิเซียและพวกเขาแต่งงาน. แนชเริ่มที่จะกลัวสำหรับชีวิตของเขาหลังจากที่พยานยิงระหว่าง Parcher และตัวแทนของสหภาพโซเวียต แต่ Parcher blackmails เขาเข้าไปอยู่ในการมอบหมายของเขา ในขณะที่การส่งมอบการบรรยายของผู้เข้าพักที่ Harvard University แนชพยายามที่จะหนีไปจากคนที่เขาคิดว่าเป็นตัวแทนต่างประเทศที่นำโดยดร. โรเซ็น (พลัมเม) หลังจากไล่ Rosen ในความพยายามที่จะหนีแนชถูกบังคับให้ผ่อนคลายและส่งไปยังสถานที่ทางจิตเวชที่เขาเชื่อว่าจะดำเนินการโดยโซเวียต. ดร. อลิเซียโรเซนบอกว่าแนชมีโรคจิตเภทแบบหวาดระแวงและที่ชาร์ลส์ Marcee และ Parcher อยู่เฉพาะในจินตนาการของเขา อลิเซียสำรวจและในที่สุดก็ confronts แนชกับเอกสารที่ปิดสนิทที่เขาส่งไปยังกล่องจดหมายลับ แนชจะได้รับการเรียนการสอนของการรักษาด้วยอินซูลินช็อตและปล่อยออกมาในที่สุด ผิดหวังกับผลข้างเคียงของยารักษาโรคจิตเขาคือการที่ทำให้เขาเซื่องซึมและไม่ตอบสนองเขาแอบหยุดใช้มัน นี้ทำให้เกิดการกำเริบของโรคและเขาได้พบกับ Parcher อีกครั้ง. หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่แนชอันตรายลูกชายทารกของเขาและตั้งใจเคาะอลิเซียและลูกน้อยกับพื้น (คิดว่าเขาหยุด Parcher จากการฆ่าของเธอ) เธอหนีไปบ้านที่มีเด็กของพวกเขา แนชทำตามขั้นตอนในด้านหน้าของรถของเธอเพื่อป้องกันไม่ให้เธอออกจากหลังจากที่เขารู้ดีว่าเขาเป็นที่รู้จักกัน Marcee เป็นเวลานาน แต่เธอไม่เคยโตขึ้น ในที่สุดเขาก็ยอมรับว่า Parcher และตัวเลขอื่น ๆ ที่มีภาพหลอน กับคำแนะนำของดร. โรเซ็นแนชตัดสินใจที่จะไม่เริ่มการทำงานของยาของเขาเชื่อว่าเขาสามารถจัดการกับอาการของเขาตัวเอง อลิเซียตัดสินใจที่จะอยู่และให้การสนับสนุนเขาในเรื่องนี้. แนชแนวทางเพื่อนเก่าของเขาและคู่แข่งมาร์ตินแฮนเซนตอนนี้หัวของพรินซ์ตันภาควิชาคณิตศาสตร์ เขาอนุญาตให้แนชที่จะทำงานออกของห้องสมุดและการตรวจสอบในชั้นเรียน ปีที่ผ่านและเป็นแนชโตที่เขาเรียนรู้ที่จะไม่สนใจภาพหลอนของเขาและได้รับสิทธิพิเศษในการเรียนการสอนอีกครั้ง. ในปี 1994 แนชได้รับเกียรติจากอาจารย์เพื่อนของเขาสำหรับความสำเร็จของเขาในคณิตศาสตร์ เขาชนะรางวัลโนเบลให้ระลึกถึงรางวัลในสาขาเศรษฐศาสตร์สำหรับการทำงานของเขาในการปฏิวัติทฤษฎีเกม หนังจบแนชและอลิเซียออกจากห้องประชุมในสตอกโฮล์ม; แนชเห็นชาร์ลส์ Marcee และ Parcher ยืนอยู่ด้านหนึ่งและเฝ้าดูเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 1947 จอห์น แนช ( โครว์ ) มาถึงที่มหาวิทยาลัยพรินซตัน เขาเป็นผู้รับ Co , มาร์ติน แฮนเซ่น ( ลูคัส ) อันทรงเกียรติ คาร์เนกีทุนการศึกษาคณิตศาสตร์ ที่แผนกต้อนรับ เขาได้พบกับกลุ่มของเลขสัญญาอื่น ๆวิทยาศาสตร์และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ริชาร์ด โซล ( 6.3 ) , เอนสลีย์ ( เจสัน เกรย์ สแตนฟอร์ด ) และ เบนเดอร์ ( แร็ป ) นอกจากนี้เขายังได้พบกับเพื่อนร่วมห้องของเขาชาร์ลสเฮอร์แมน ( bettany )นักเรียนวรรณคดี

แนชอยู่ภายใต้แรงกดสูงเพื่อเผยแพร่ แต่เขาต้องการเผยแพร่ความคิดเดิมของตัวเอง แรงบันดาลใจของเขามาเมื่อเขาและเพื่อนนักศึกษาปรึกษาวิธีการเข้าหากลุ่มของผู้หญิงที่บาร์ แฮนเซนใบเสนอราคา อดัม สมิธและสนับสนุนทุกๆคนสำหรับตัวเอง แต่แนช แย้งว่า วิธีการสหกรณ์จะนำไปสู่โอกาสที่ดีของความสำเร็จแนชได้พัฒนาแนวคิดใหม่เกี่ยวกับพลวัตและเผยแพร่บทความนี้ ด้วยพลังแห่งนี้ เขามีนัดที่ MIT ที่ Sol และดัดร่วมกับเขา

บางปีต่อมา แนชจะได้รับเชิญที่จะเพนตากอนร้าวศัตรูโทรคมนาคมเข้ารหัส แนชสามารถถอดรหัสรหัสใจ กับความอัศจรรย์ของ decrypters อื่น ๆเขาพิจารณาหน้าที่ปกติของเขาที่ MIT จืดและภายใต้ความสามารถของเขา ดังนั้นเขาจะยินดีที่ได้รับมอบหมายใหม่ โดยหัวหน้าลึกลับของเขา วิลเลียม พาร์เชอร์ ( แฮร์ริส ) ของกระทรวงกลาโหมแห่งสหรัฐอเมริกา เขาคือการมองหารูปแบบในนิตยสาร และหนังสือพิมพ์ เพื่อขัดขวางแผนการของโซเวียตแนชจะขึ้นครอบงำเกี่ยวกับการค้นหารูปแบบเหล่านี้ซ่อนอยู่ และเชื่อว่าเขาจะตามมาเมื่อเขาส่งมอบผลของเขาไปยังกล่องจดหมายลับ

สำหรับนักเรียน , อลิเซีย larde ( คอนเนลลี่ ) ถามเขาเย็น ทั้งสองตกอยู่ในความรัก เมื่อกลับไปเยือน Princeton , Nash วิ่งเข้าไปในชาร์ลและหลานสาวของเขา marcee ( cardone ) ด้วยกำลังใจ ชาร์ลส์ "เขาเสนอให้อลิเซียและแต่งงานกัน

แนชเริ่มกลัวสำหรับชีวิตของเขา หลังจากเห็นการยิงระหว่างพาร์เชอร์ และสหภาพโซเวียตตัวแทน แต่ พาร์เชอร์ blackmails เขาไปอยู่ในงานของเขา ในขณะที่การส่งมอบเชิญบรรยายที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แนช พยายามที่จะหนีจากคนที่เขาคิดว่าเป็นตัวแทนต่างประเทศ นำโดย ดร. โรเซน ( พลัมเมอร์ ) หลังการชก โรเซน ในความพยายามที่จะหลบหนีแนช บังคับให้สงบและส่งไปยังสถานที่จิตเวชเขาเชื่อว่าเป็นของโซเวียต

ดร. โรเซนบอกอลิเซียที่ Nash ได้หวาดระแวงโรคจิตเภทและชาร์ลส์ marcee และพาร์เชอร์อยู่เพียงในจินตนาการของเขา อลิเซีย สืบสวน และสุดท้ายเผชิญแนชกับเปิดเอกสารได้ส่งไปที่กล่องจดหมายลับแนชได้รับแน่นอนของการรักษาช็อกอินซูลินและในที่สุดก็ออก ผิดหวังกับผลข้างเคียงของยา จิตเขาจะสละที่ให้เขาเซื่องซึมและไม่ตอบสนอง เขาจึงหยุดใช้มัน นี้จะทำให้อาการกำเริบ และเขาได้พบกับ

พาร์เชอร์อีกหลังจากเหตุการณ์ที่แนช เป็นอันตรายต่อลูกน้อยของเขาและตั้งใจเคาะอลิเซียและลูกกับพื้น ( คิดว่าเขาหยุดพาร์เชอร์ฆ่าเธอ ) เธอหนีบ้านกับเด็กของพวกเขา แนช ขั้นตอนในด้านหน้าของรถของเธอเพื่อไม่ให้เธอหนีไป เมื่อเขาตระหนักว่าเขารู้จัก marcee มานาน เธอยังไม่โตในที่สุดเขาก็ยอมรับว่า พาร์เชอร์และตัวเลขอื่น ๆเป็นภาพหลอน กับคำแนะนำของดร. โรเซน แนช ตัดสินใจที่จะไม่เริ่มยา เขาเชื่อว่าเขาสามารถจัดการกับอาการตัวเอง อลิเซียตัดสินใจที่จะอยู่ช่วยเขาในนี้

แนชแนวทางของเขาเพื่อนและคู่แข่ง , มาร์ติน แฮนเซ่น ตอนนี้หัวของพรินซ์ตันภาควิชาคณิตศาสตร์ .