If we put aside the extreme views (

If we put aside the extreme views (such as the accusation of a staged chaos by the hospital, or the alleged armed invasion), the contending accounts from both sides can be both correct. That is, the hospital personnel were extremely frightened. They were afraid of the Reds, and had to work with fear that bullets could fly into the hospital, and so on. Either rumors or truth, or exaggeration of facts, they reacted by moving patients frantically. Their fear was real, even though the UDD did not storm the hospital with arms or with a huge number. Even if all the facts could be pieced together, we might not get to the gist of the incident because the root of fear is not in those facts.

A very important note of fact: perhaps the most distinguished patient at the Chula Hospital at the moment is the Supreme Patriarch, who has been there for the past few years. He refused to be moved. A day after the incident, Princess Sirindhorn visited the hospital to request that he agree to move to a safer place, the Siriraj Hospital where the King currently resides.

The invasion of the hillbillies

To describe the incident as a hospital in the battle zone is not quite correct. It is more like an invasion by a cruel army; horrific invaders and the helpless victims. Yet such characterization of war still misses the point.

A Chula Hospital doctor wrote in his Facebook observing that the Red people walk in and out of the hospital to use toilets as if they were theirs at home, and on the day of the “invasion” (buk), he was frightened even by their faces and how they look. A journalist observed that the account of the incident in the media sounds like the bad guys in B-grade Thai films, usually the coarse, plebian, ugly and dirty males, who keep shooting with no reason but simply because they are bad guys.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ถ้าเราใส่กันครั้งที่เข้าดูมากที่สุด (เช่นข้อกล่าวหาของความสับสนวุ่นวายจัดโดยโรงพยาบาลหรือการบุกรุกติดอาวุธที่ถูกกล่าวหา) บัญชียืนยันจากทั้งสองฝ่ายสามารถเป็นได้ทั้งที่ถูกต้อง นั่นคือบุคลากรโรงพยาบาลกลัวมาก เขาก็กลัวสีแดงและมีการทำงานร่วมกับความกลัวว่ากระสุนจะบินเข้าไปในโรงพยาบาลและอื่น ๆ ทั้งข่าวลือหรือความจริงหรือพูดเกินจริงของข้อเท็จจริงที่พวกเขามีปฏิกิริยาตอบสนองโดยการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเมามัน ความกลัวของพวกเขาเป็นจริงแม้ว่า udd ไม่ได้บุกโรงพยาบาลด้วยแขนหรือมีจำนวนมาก แม้ว่าข้อเท็จจริงทั้งหมดสามารถนำมาปะติดปะต่อเราอาจจะได้รับการสรุปสาระสำคัญของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะรากของความกลัวไม่ได้อยู่ในข้อเท็จจริงเหล่านั้น

บันทึกสิ่งที่สำคัญมากของความเป็นจริง.บางทีอาจจะเป็นผู้ป่วยที่โดดเด่นที่สุดที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ในขณะนี้คือพระสังฆราชสูงสุดที่ได้รับมีไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาปฏิเสธที่จะถูกย้าย หนึ่งวันหลังจากที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหญิงสิรินธรเข้าเยี่ยมชมโรงพยาบาลเพื่อขอให้เขาตกลงที่จะย้ายไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยในโรงพยาบาลศิริราชที่กษัตริย์ปัจจุบันอาศัยอยู่.

บุกบ้านนอกคอกนา

เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นโรงพยาบาลในเขตสู้รบไม่ถูกต้องทีเดียว มันเป็นเหมือนการบุกรุกโดยกองทัพโหดร้าย; ผู้บุกรุกที่น่ากลัวและเหยื่อกำพร้า แต่ลักษณะดังกล่าวของสงครามยังคงคิดถึงจุด.

จุฬาฯ โรงพยาบาลหมอเขียนใน Facebook ของเขาสังเกตว่าคนสีแดงเดินเข้าและออกจากโรงพยาบาลเพื่อใช้ห้องน้ำราวกับว่าพวกเขาพวกเขาที่บ้านและในวันที่ "บุก" (บัก) เขากลัวแม้กระทั่งใบหน้าของพวกเขาและวิธีการที่พวกเขามอง นักข่าวตั้งข้อสังเกตว่าบัญชีของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสื่อที่เสียงเหมือนคนเลวในภาพยนตร์ b เกรดไทยมักจะหยาบ, plebian น่าเกลียดและสกปรกเพศชายที่ให้ถ่ายภาพโดยไม่มีเหตุผล แต่เพียงเพราะพวกเขาเป็นคนเลว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถ้าเราวางเฉยมองมาก (เช่นข้อกล่าวหาของความวุ่นวายแบ่งระยะตามโรงพยาบาล หรือการถูกกล่าวหาบุกรุกอาวุธ), บัญชี contending จากทั้งสองฝ่ายได้ทั้งสองอย่างถูกต้อง นั่นคือ บุคลากรโรงพยาบาลอยู่กลัวมาก พวกเขากลัว Reds และมีการทำงาน ด้วยความกลัวว่า กระสุนอาจบินเข้าโรงพยาบาล และอื่น ๆ ข่าวลือหรือความจริง หรือพูดเกินจริงของข้อเท็จจริง พวกเขาปฏิกิริยา โดยการย้ายผู้ป่วยที่เมามัน ความกลัวของพวกเขาเป็นจริง แม้ว่านปช.ไม่ได้พายุโรงพยาบาลแขน หรือจำนวนมาก แม้ข้อเท็จจริงทั้งหมดอาจจะ pieced กัน เราอาจไม่ได้ให้ส่วนสำคัญของปัญหาเนื่องจากรากของความกลัวไม่ได้อยู่ในข้อเท็จจริงเหล่านั้นได้

หมายเหตุสำคัญมากของความเป็นจริง: บางทีผู้ป่วยมากที่สุดทั้งที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ในขณะอยู่สังฆราช ผู้ได้รับมีไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาปฏิเสธที่จะย้าย หลังเกิดเหตุ เจ้าหญิงสิรินธรเข้าเยี่ยมชมโรงพยาบาลเพื่อขอให้ เขาตกลงที่จะย้ายไปปลอดภัย โรงพยาบาลศิริราชซึ่งพระมหากษัตริย์ในปัจจุบันอยู่

ของ hillbillies

เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เป็นโรงพยาบาลในการ โซนได้ค่อนข้างถูกต้อง มันเป็นเหมือนการรุกรานโดยกองทัพที่โหดร้าย horrific ผู้รุกรานและผู้กำพร้า แต่คุณสมบัติดังกล่าวของสงครามยังคงคิดถึงจุดนี้

A โรงพยาบาลจุฬาแพทย์เขียนใน Facebook ของเขาสังเกตว่า คนสีแดงเดินเข้าและออกจากโรงพยาบาลให้ใช้ห้องน้ำว่าพวกตนที่บ้าน และในวันที่ "รุกราน" (ใน buk), เขาไม่กลัว โดยใบหน้าของพวกเขาและวิธีการค้นหา นักข่าวสังเกตว่า บัญชีของเหตุการณ์ในเสียงสื่อเลวในไทยเกรด B เช่นภาพยนตร์ มักหยาบ plebian น่าเกลียด และสกปรกตัว คนให้ยิง ด้วยเหตุผล แต่เพียง เพราะพวกเขามีเลว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถ้าเราเอาด้านข้างวิวทิวทัศน์ Extreme (เช่นถูกกล่าวหาที่ของความสับสนที่จัดแสดงบนเวทีโดยโรงพยาบาลหรือการรุกรานทางทหารที่ถูกกล่าวหาว่า)บัญชีเธอพยายามออกจากด้านข้างทั้งสองจะสามารถทั้งที่ถูกต้อง ที่มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็กลัวเป็นอย่างมาก เขาก็กลัวไม่กล้าของสีแดงและก็ต้องทำงานด้วยความกลัวว่าลูกกระสุนไม่สามารถบินเข้าสู่โรงพยาบาลและใน ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือข่าวลือหรือพูดเกินความเป็นจริงของข้อเท็จจริงที่เกิดปฏิกิริยาโดยการย้ายผู้ป่วยอย่างกระเจิดกระเจิง ความกลัวของพวกเขามาเป็นของจริงแม้ว่าการวินิจฉัย( UDD ไม่ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองที่โรงพยาบาลพร้อมด้วยอาวุธหรือพร้อมด้วยหมายเลขขนาดใหญ่ได้ แม้ข้อเท็จจริงทั้งหมดไม่ได้ปะติดปะต่อเอาเราอาจจะไม่ได้รับการหลักใหญ่ใจความสำคัญที่มีปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากรากของความกลัวไม่ได้อยู่ในข้อเท็จจริงที่.

หมายเหตุสำคัญเป็นอย่างมากในความเป็นจริงบางทีอาจจะมีความอดทนมากที่สุดที่โดดเด่นที่ชูลาวิสต้ารัฐโรงพยาบาลที่อยู่ในขณะนี้เป็นสมเด็จพระสังฆราชที่มีอยู่ที่นั่นไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาปฏิเสธที่จะย้ายไปอยู่ วันที่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯเยี่ยมชมโรงพยาบาลในการร้องขอให้เขายอมรับในการย้ายไปยังสถานที่ที่มีความ ปลอดภัย มากขึ้นที่โรงพยาบาลศิริราช.ที่พระมหากษัตริย์ในปัจจุบันอยู่.การรุกราน

ของ hillbillies ที่

ในการอธิบายถึงปัญหาที่เป็นโรงพยาบาลที่อยู่ในโซนที่การต่อสู้ที่ไม่ถูกต้องนัก มีลักษณะที่คล้ายกับการรุกรานของกองทัพอย่างโหดร้ายที่ผู้บุกรุกน่าตื่นตระหนกและผู้ตกเป็นเหยื่อไม่ได้ที่ แต่คุณลักษณ์ดังกล่าวในการทำสงครามก็ยังมองข้ามจุดนี้.

หมอชูลาวิสต้ารัฐโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่เขียนไว้ใน Facebook ของเขาสังเกตว่าคนสีแดงที่เดินเข้าไปด้านในและออกจากโรงพยาบาลเพื่อจะใช้เป็นห้องสุขาหากพวกเขาเป็นของพวกเขาที่บ้านและในวันที่"รุกราน"(บุกคางคก)เขาก็กลัวจะหันหน้าเข้าหาของพวกเขาและพวกเขาจะดู นักหนังสือพิมพ์คนหนึ่งเห็นว่าบัญชีที่มีปัญหาเกิดขึ้นในสื่อที่ออกเสียงคล้ายกับผู้ร้าย"ใน ภาพยนตร์ ไทยเกรด B โดยปกติแล้วผู้ชายน่าเกลียดและสกปรก plebian หยาบที่ทำให้การถ่าย ภาพ โดยไม่มีเหตุผลแต่เพียงเพราะพวกเขาคือผู้ร้าย"