Nightmares probably evolved to help

Nightmares probably evolved to help make us anxious about potential dangers," Barrett said. "Even post-traumatic nightmares, which just re-traumatize us, may have been useful in ancestral times when a wild animal that had attacked you, or a rival tribe that had invaded might well be likely to come back."

But this evolutionary alarm bell may not be so useful in today's world.

"With the modern dangers of house fires, car crashes, rapes and muggings unlikely to repeat soon for the same victims, this adaptive mechanism doesn't always serve us well," Barrett exlpained. "However, some nightmares may be calling to your attention something you might do well to worry aboutor something that, once you are more conscious of the concern, you can convince your unconscious to stop wasting time on."

How to stop a nightmare

How does one go about convincing their subconscious to stop repetitious nightmares?

"People can come up with a different ending to the nightmare - a mastery dream," Barrett told Life's Little Mysteries. "Some people prefer to fight off an attacker, some people would rather be rescued by someone else. Some want a realistic solution, for others, a metaphoric resolution is more satisfying."

"Once they've come up with their preferred ending, they can rehearse this while awake and then at bedtime, to remind themselves that they want to have this ending, should the nightmare occur again."

However, before trying to change a nightmare, Barret recommends attempting to decipher its true meaning. Sometimes, analyzing a bad dream can help a person see its correlation to their daytime worries.

Dreamscapes across cultures

Some cultures and religions, such as the Native American Lakota tribe, rely on dreams and nightmares to point them in the right direction when an important decision needs to be made, according to "The Dream Seekers: Native American Visionary Traditions of the Great Plains," (Univ of Oklahoma Press, 1994).

In 2005, Dutch-sponsored researcher Elizabeth Mohkamsing-den Boer recorded the nightmares of indigenous Surinamese and Australian tribes. She found that their dreams often correlated to significant events that the dreamers were either experiencing or anticipating in their lives.

During her research, the tribes people frequently told Mohkamsing-den Boer that "dreams prepare your emotions," as they believe that nightmares and dreams provide guidance when a difficult decision needs to be made. Mohkamsing-den Boer concluded that nightmares have a helpful role during times of change or uncertainty, and refers to them as transitional dreams.

Nightmares are a normal part of sleep , and their frequency varies from one person to the next. While it may seem that having numerous nightmares in a short period of time is a bad sign, it may be that people who often experience nightmares simply have more vivid dreams in general, according to Barrett.

"People should seek help for their nightmares if they are carrying over into their daytime mood and making them very anxious, or if they are making them afraid to go to sleep," Barrett told Life's Little Msyteries. "However, some people have frequent nightmares and don't particularly mind them they even find them interesting."

Can You Really Die in Your Nightmares?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฝันร้ายอาจพัฒนาเพื่อช่วยทำให้เรากังวลเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น Barrett กล่าว "ฝันร้ายแม้เจ็บปวดหลัง ซึ่งเพียงใหม่ traumatize เรา อาจมีประโยชน์ในยุคโบราณเมื่อสัตว์ป่าที่มีโจมตีคุณ หรือเผ่าคู่แข่งที่มีบุกดีอาจจะกลับมา"แต่ระฆังปลุกวิวัฒนาการนี้อาจไม่มีประโยชน์มากในโลกปัจจุบัน"มีอันตรายจากไฟไหม้บ้าน รถ rapes และ muggings ไม่น่าซ้ำเร็ว ๆ นี้กับเหยื่อเดียวกัน กลไกที่เหมาะสมนี้ไม่เสมอให้บริการเราดี ทันสมัย" Barrett exlpained "อย่างไรก็ตาม ฝันร้ายบางอย่างอาจจะเรียกความสนใจของบางสิ่งบางอย่างที่คุณอาจดีกังวล aboutor สิ่งที่ เมื่อคุณมีสติของความกังวล คุณสามารถมั่นใจการอสัญหยุดเสียเวลากับการ"วิธีหยุดฝันร้ายวิธีหนึ่งไปเกี่ยวกับ subconscious ของพวกเขาเพื่อหยุดฝันร้ายซึ่งหลอกลวง"คนสามารถมากับสิ้นสุดแตกต่างฝันร้าย - ฝันเป็นครู Barrett บอกลึกลับเล็กน้อยของชีวิต "บางคนต้องต่อสู้โจมตี ค่อนข้างจะช่วยบางคน โดยบุคคลอื่น บางส่วนต้องแก้ไขปัญหาที่เป็นจริง ผู้อื่น ความละเอียด metaphoric มีความพึงพอใจมากขึ้น""เมื่อพวกเขาได้มา ด้วยการสิ้นสุดการ พวกเขาสามารถทดสอบนี้ในขณะที่ตื่นแล้ว ที่นอน เพื่อเตือนตัวเองที่พวกเขาต้องสิ้นนี้ จะฝันร้ายเกิดขึ้นอีก"อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะพยายามที่จะเปลี่ยนฝันร้าย Barret แนะนำพยายามที่จะถอดรหัสความหมายที่แท้จริง บางครั้ง การวิเคราะห์ฝันร้ายสามารถช่วยให้ผู้ที่เห็นความสัมพันธ์ของการกังวลของพวกเขาเวลากลางวันDreamscapes ข้ามวัฒนธรรมบางวัฒนธรรมและศาสนา เช่นเผ่าพื้นเมืองอเมริกัน Lakota พึ่งพาฝันและฝันร้ายที่ชี้ในทิศทางที่ถูกได้เมื่อตัดสินใจที่สำคัญที่ต้องทำ ตาม "เดอะดรีมกำลัง:อเมริกันพื้นเมืองวิสัยทัศน์ประเพณีของเดอะรทราบ, " (Univ ของโอคลาโฮมากด 1994)ในปี 2005 ดัตช์สนับสนุนนักวิจัยเอลิซาเบธ Mohkamsing เดนโบบันทึกฝันร้ายของชนเผ่า Surinamese และออสเตรเลีย เธอพบว่า ความฝันมัก correlated กับเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่ไอเดียที่ได้ประสบ หรือสนองในชีวิตของพวกเขาในระหว่างการวิจัยของเธอ คนเผ่าบ่อยบอกโบเดน Mohkamsing ว่า "ฝันเตรียมอารมณ์ของคุณ พวกเขาเชื่อว่า ฝันร้ายและฝันให้คำแนะนำเมื่อต้องตัดสินใจที่ยากจะทำ โบเดน Mohkamsing สรุปว่า ฝันร้ายมีบทบาทช่วยในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงหรือความไม่แน่นอน และอ้างอิงไปเป็นฝันอีกรายการส่วนหนึ่งของการนอนหลับจะฝันร้าย และความถี่แตกต่างกันไปจากบุคคลหนึ่งไป ในขณะที่มันอาจดูเหมือนมีฝันร้ายมากมายในระยะเวลาสั้น ๆ ว่าเครื่องไม่ถูกต้อง มันอาจจะว่า คนที่มักจะพบฝันร้ายเพียงแค่ความฝันสดใสมากขึ้นทั่วไป ตามบาร์เร็ตต์"ควรหาคนช่วยในฝันร้ายของพวกเขา หากพวกเขาจะดำเนินไปในอารมณ์ของพวกเขาเวลากลางวัน และทำให้พวกเขากังวลมาก หรือพวกเขาจะทำให้พวกเขากลัวที่จะไปนอน Barrett บอก Msyteries น้อยของชีวิต "อย่างไรก็ตาม บางคนมีฝันร้ายบ่อย และไม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตใจพวกเขาพวกเขาได้พบพวกเขาน่าสนใจ"สามารถคุณจริง ๆ ตายในฝันร้ายของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฝันร้ายอาจจะพัฒนาเพื่อช่วยทำให้เรากังวลเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น "บาร์เร็ตต์กล่าวว่า." แม้ฝันร้ายบาดแผลที่เพิ่งอีกครั้ง traumatize เราอาจจะได้รับประโยชน์ในครั้งบรรพบุรุษเมื่อสัตว์ป่าที่ได้ทำร้ายคุณหรือชนเผ่าคู่แข่ง ที่บุกเข้ามาดีอาจจะมีแนวโน้มที่จะกลับมา. "แต่ระฆังปลุกวิวัฒนาการนี้อาจไม่เป็นประโยชน์ดังนั้นในโลกปัจจุบัน." ด้วยอันตรายที่ทันสมัยของการเกิดเพลิงไหม้บ้านรถชนข่มขืนและวิ่งราวไม่น่าที่จะทำซ้ำเร็ว ๆ นี้สำหรับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเดียวกัน กลไกการปรับตัวนี้ไม่เคยให้บริการเราดี "บาร์เร็ตต์ exlpained." แต่ฝันร้ายบางคนอาจจะเรียกความสนใจของคุณบางสิ่งบางอย่างที่คุณอาจจะทำดีเพื่อ aboutor กังวลอะไรบางอย่างที่เมื่อคุณมีสติมากขึ้นของความกังวลที่คุณสามารถโน้มน้าวใจของคุณ หมดสติที่จะหยุดเสียเวลากับ ". วิธีที่จะหยุดฝันร้ายวิธีหนึ่งจะไปเกี่ยวกับการโน้มน้าวใจจิตใต้สำนึกของพวกเขาที่จะหยุดฝันร้ายซ้ำ?" คนที่สามารถเกิดขึ้นกับตอนจบที่แตกต่างกันเพื่อฝันร้าย - ความฝันของการเรียนรู้ที่ "บาร์เร็ตต์บอกว่าชีวิตลึกลับเล็ก ๆ น้อย ๆ "บางคนชอบที่จะต่อสู้กับการโจมตีบางคนค่อนข้างจะได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่น. บางคนต้องการการแก้ปัญหาที่เป็นจริงสำหรับคนอื่น ๆ ความละเอียดเปรียบเปรยเป็นที่น่าพอใจมากขึ้น." "เมื่อพวกเขาได้มาด้วยตอนจบที่ต้องการของพวกเขา สามารถฝึกซ้อมนี้ในขณะที่ตื่นขึ้นมาแล้วก่อนนอนเพื่อเตือนตัวเองว่าพวกเขาต้องการที่จะมีตอนจบนี้ฝันร้ายจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ". แต่ก่อนที่จะพยายามที่จะเปลี่ยนฝันร้าย Barret แนะนำให้พยายามที่จะถอดรหัสความหมายที่แท้จริงของมัน บางครั้งการวิเคราะห์ความฝันที่ไม่ดีสามารถช่วยให้คนเห็นความสัมพันธ์ของความกังวลในเวลากลางวันของพวกเขา. Dreamscapes ข้ามวัฒนธรรมบางวัฒนธรรมและศาสนาเช่นชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันจากลาพึ่งพาความฝันและฝันร้ายที่จะชี้ไปในทิศทางที่ถูกต้องเมื่อมีการตัดสินใจที่สำคัญจะต้องทำตาม. "การหาฝัน: ชาวอเมริกันพื้นเมืองประเพณีที่มีวิสัยทัศน์ของ Great Plains" (มหาวิทยาลัยโอคลาโฮมากด 1994) ในปี 2005 นักวิจัยชาวดัตช์ได้รับการสนับสนุนเอลิซาเบ Mohkamsing-den โบเออร์บันทึกฝันร้ายของซูรินาเมพื้นเมืองและ ชนเผ่าออสเตรเลีย เธอพบว่าความฝันของพวกเขามีความสัมพันธ์ที่มักจะให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ฝันได้อย่างใดอย่างหนึ่งที่ประสบหรือคาดการณ์ในชีวิตของพวกเขา. ในระหว่างการวิจัยของเธอชนเผ่าคนมักจะบอก Mohkamsing-den โบเออร์ว่า "ความฝันของการเตรียมความพร้อมอารมณ์ของคุณ" ที่พวกเขาเชื่อว่าฝันร้ายและความฝัน ให้คำแนะนำเมื่อมีการตัดสินใจที่ยากลำบากจะต้องทำ Mohkamsing-den โบเออร์ได้ข้อสรุปว่าฝันร้ายมีบทบาทที่เป็นประโยชน์ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงหรือความไม่แน่นอนและหมายถึงพวกเขาเป็นความฝันของการเปลี่ยนผ่าน. ฝันร้ายเป็นส่วนหนึ่งของการนอนหลับและความถี่ของพวกเขาแตกต่างจากคนหนึ่งไปยัง ในขณะที่มันอาจจะดูเหมือนว่าฝันร้ายจำนวนมากในระยะเวลาสั้น ๆ เป็นสัญญาณที่ไม่ดีก็อาจเป็นไปได้ว่าคนที่มักจะได้รับฝันร้ายก็มีความฝันที่สดใสมากขึ้นโดยทั่วไปตามบาร์เร็ต. "คนควรขอความช่วยเหลือสำหรับฝันร้ายของพวกเขาหากพวกเขา มีการดำเนินการไปสู่อารมณ์ในเวลากลางวันของพวกเขาและทำให้พวกเขากังวลมากหรือถ้าพวกเขาจะทำให้พวกเขากลัวที่จะไปนอน "บาร์เร็ตต์บอกว่าชีวิตของเล็ก ๆ น้อย ๆ Msyteries "แต่บางคนมีฝันร้ายบ่อยและไม่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาคิดที่จะได้พบพวกเขาที่น่าสนใจ." จริงๆคุณสามารถตายในฝันร้ายของคุณ?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฝันร้ายอาจจะพัฒนาเพื่อช่วยให้เรากังวลเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น " Barrett กล่าว แม้แต่บาดแผลฝันร้ายที่เพิ่งจะทำร้ายเรา อาจได้ประโยชน์ในบรรพบุรุษครั้งเมื่อสัตว์ป่าที่โจมตีคุณหรือคู่แข่งเผ่าที่เคยบุกอาจเป็นโอกาสที่จะกลับมา "

แต่นี้วิวัฒนาการกระดิ่งเตือนภัยอาจจะเพื่อประโยชน์ในวันนี้โลก

" กับอันตรายที่ทันสมัยของไฟบ้านรถเกิดปัญหาข่มขืนและ muggings ไม่น่าจะซ้ำทันที สำหรับเหยื่อเดียวกันนี้ปรับกลไกไม่คอยรับใช้เราอย่างดี " Barrett exlpained ” แต่บางฝันร้ายอาจจะเรียกความสนใจของคุณสิ่งที่คุณจะทำคือการกังวล aboutor บางอย่างที่เมื่อคุณไม่พึงพอใจของความกังวลคุณสามารถทำให้หมดสติของคุณที่จะหยุดการสูญเสียเวลาใน "

วิธีการหยุดฝันร้าย

วิธีหนึ่งไปเกี่ยวกับการโน้มน้าวจิตใต้สำนึกของพวกเขาที่จะหยุดฝันร้ายซ้ำซาก ?

" คนที่จะมาสิ้นสุดที่แตกต่างกันกับฝันร้าย - ต้นแบบในฝัน " Barrett บอกว่า " ชีวิตน้อยๆของความลึกลับ บางคนชอบที่จะต่อสู้กับคนร้าย บางคนจะได้รับการช่วยเหลือจากบุคคลอื่นบางคนต้องการโซลูชัน , มีเหตุผลอื่น ๆ ความละเอียดคำอุปมา เป็นที่น่าพอใจมากขึ้น "

" เมื่อพวกเขาได้มากับพวกเขาที่ต้องการสิ้นสุด พวกเขาสามารถซ้อมตอนตื่นและก่อนนอน เพื่อเตือนตนเองว่า พวกเขาต้องการให้เรื่องนี้จบ จะฝันร้ายเกิดขึ้นอีกแล้ว "

แต่ ก่อน พยายามที่จะเปลี่ยนฝันร้าย บาร์เร็ต แนะนำให้พยายามที่จะถอดรหัสความหมายบางครั้ง วิเคราะห์ความฝันที่ไม่ดีสามารถช่วยให้บุคคลมองเห็นความสัมพันธ์กังวลช่วงกลางวัน



dreamscapes ข้ามวัฒนธรรมบางวัฒนธรรมและศาสนา เช่น ชาวอเมริกันพื้นเมืองเผ่าลาโกต้า อาศัยความฝันและฝันร้ายที่จะชี้ไปในทิศทางที่ถูกต้องเมื่อการตัดสินใจที่สำคัญที่ต้องทำ ตาม " ความฝัน ค้นหา :ช่างจินตนาการประเพณีชาวอเมริกันพื้นเมืองของที่ราบ " ( มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอคลาโฮมากด , 1994 ) .

ใน 2005 , ดัตช์สนับสนุนนักวิจัย อลิซาเบธ mohkamsing เดนบัวร์บันทึกฝันร้ายของซูดานและชนเผ่าพื้นเมืองของออสเตรเลีย เธอพบว่า ความฝันของพวกเขามักจะมีเหตุการณ์สำคัญที่ฝันมีทั้งประสบ หรือคาดหวังในชีวิต

ในระหว่างการวิจัยของเธอเผ่าคนมักบอก mohkamsing เดนบัวร์ " ฝันเตรียมอารมณ์ของคุณ ตามที่พวกเขาเชื่อว่าฝันร้ายและฝันให้คำแนะนำเมื่อตัดสินใจที่ยากก็ต้องทำ mohkamsing den Boer กล่าวทิ้งท้ายว่า ฝันร้ายได้ประโยชน์บทบาทในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอน และหมายถึงพวกเขาเป็นครอบครัวในฝัน

ฝันร้ายเป็นปกติส่วนหนึ่งของปและความถี่ของพวกเขาแตกต่างกันไปจากบุคคลหนึ่งไปยังถัดไป ในขณะที่มันอาจดูเหมือนฝันร้ายมากมายในช่วงเวลาสั้นของเวลาเป็นสัญญาณที่ไม่ดี มันอาจจะว่าคนมักพบฝันร้ายก็สดใสมากขึ้น ความฝันทั่วไป ตาม บาร์เร็ท

" คนที่ควรช่วยให้ฝันร้ายของพวกเขาหากพวกเขาจะแบกเข้าไปในอารมณ์ของพวกเขาและทำให้พวกเขากังวลมากตอนกลางวัน ,หรือถ้าพวกเขาทำพวกเขากลัวที่จะนอน " Barrett บอกว่าชีวิตเล็ก ๆน้อย ๆ msyteries ” อย่างไรก็ตาม บางคนมีฝันร้ายบ่อย และไม่ค่อยใส่ใจพวกเขาพวกเขาจะพบพวกเขาที่น่าสนใจ . "

จริงๆคุณสามารถตายจากฝันร้ายของคุณ