การเรียนในระดับมัธยมปลาย จะว่าไปแล้วก็หนักหนาสาหัสไม่น้อย ด้วยเป็นช่วงจังหวะของการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญในชีวิต หนึ่งในข้อคิดสำคัญก็คือ การเตรียมตัวเพื่อเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งในหลายกรณีก็นำมาซึ่งความเครียดและอ่อนล้า หมดเรี่ยวแรง และหลายคนทำใจไม่ได้เที่ยวเตร่ออกทะเลเละเทะก็มีให้เห็นบ่อยๆ โดยเรื่องทำนองนี้ควรเรียนรู้และนำมาเป็นตัวอย่าง
ตัวอย่างคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตการเรียนมีให้เห็นบ่อยเช่นเดียวกัน และนับประโยชน์สำหรับผู้ที่นำไปใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม กระนั้นต้องยอมรับก่อนว่า หนทางมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หากแต่รกรุกรังและยากเย็นแสนเข็ญมากกว่า ยกเว้นบางกรณี อาทิ การเตรียมตัวล่วงหน้ายาวนาน ผ่านการสะสมความรู้ชนิดรู้ลึก รู้จริง มีตรรกะคิดที่เป็นระบบ ไม่นึกหรือคิดเอาเองทำนองนั้น
อันที่จริงแล้วการเรียนในระบบโรงเรียนปกติควรตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ ทั้งการเตรียมตัวก่อนเรียนและหลังเรียน โดยเฉพาะอย่างการทำแบบฝึกหัดเพื่อทดสอบความเข้าใจหรือเป็นการสรุปเนื้อหาที่เรียน และในการเรียนสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยก็คือ การฝึกหัดจดโน้ตย่อสำหรับความเข้าใจของตัวเองอย่างเป็นกิจจะลักษณะ เพื่อให้สามารถกลับมาทบทวนได้อีกในภายหลัง โดยที่ไม่ต้องกลับไปอ่านหนังสือหรือตำราทั้งเล่มใหม่ให้เปลืองเวลาโดยไม่จำเป็น
นอกจากนี้แล้ว หากไม่เข้าใจในเนื้อหาของบทเรียนที่เรียนไปแล้ว ก็ควรซักถามขอความรู้เพิ่มเติมจากคุณครูผู้สอน ซึ่งจะช่วยให้มีความเข้าใจและจดจำ พร้อมทั้งสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง การเรียนหากมีบุคลิกขี้อายหรือขาดความกล้าในการซักถามนับเป็นอุปสรรคในการพัฒนาตนเองมากกว่าเรื่องอื่น และบางคนอาจติดนิสัยกลัวว่าจะถูกติเตียนหรือดูถูกก็มักลงเอยเช่นเดียวกัน ซึ่งอันที่จริงแล้ว ความไม่รู้ไม่ใช่เรื่องที่ว่าตัวผู้เรียนโง่หรือไม่ฉลาดเหมือนเช่นคนอื่น หากแต่เป็นเพียงเพราะว่าความสามารถในการรับรู้หรือความถนัดในบางสาขาวิชาไม่เท่ากันมากกว่า และความไม่รู้นั้นสามารถพัฒนาและต่อยอดได้ เพียงแต่ว่า จำเป็นต้องได้รับคำแนะนำเพิ่มเติมหรือ อธิบายเคล็ดลับในการทำความเข้าใจได้ ซึ่งนับเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของการเรียนที่สำคัญอย่างยิ่ง