Here are some examples of what can

Here are some examples of what can go wrong:
An Android app called FaceNiff enables an Android smartphone using a Wi-Fi network to detect any unsecured Facebook or Twitter login made on the same Wi-Fi network by a desktop or laptop using a standard Web browser. The app gives hackers access to a user's private contact details and those of all the user's friends. Using the app, hackers are able to collect personal information needed for identity theft.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นี่คือตัวอย่างของสิ่งที่สามารถไปอย่างผิดปกติคือ:
หุ่นยนต์ที่เรียกว่า App faceniff ช่วยให้หุ่นยนต์มาร์ทโฟนใช้เครือข่าย Wi-Fi ในการตรวจสอบใด ๆ ที่ไม่มีหลักประกันทาง Facebook หรือ Twitter ใช้ทำบนเครือข่าย Wi-Fi เดียวกันโดยสก์ท็อปแล็ปท็อปหรือโดยใช้มาตรฐาน เว็บเบราเซอร์ app ที่ช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงของผู้ใช้รายละเอียดการติดต่อส่วนตัวและของเพื่อน ๆ ทุกคนของผู้ใช้ ใช้ app ที่แฮกเกอร์สามารถที่จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นสำหรับการโจรกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นี่คือตัวอย่างที่สามารถไปอย่างผิดปกติ:
เรียก FaceNiff app Android อันทำให้เป็นสมาร์ทโฟน Android ที่ใช้เครือข่ายไร้สายเพื่อตรวจสอบการมี Facebook หรือ Twitter ล็อกทำ Wi-Fi เครื่องเดสก์ท็อปหรือแล็ปท็อปที่ใช้เว็บเบราว์เซอร์มาตรฐาน App ให้แฮกเกอร์เข้าถึงติดต่อส่วนตัวของผู้ใช้และบรรดาเพื่อนของผู้ใช้ทั้งหมด ใช้ app แฮกเกอร์จะสามารถเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นสำหรับการขโมย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นี่คือบางตัวอย่างของสิ่งที่สามารถเข้าไปไม่ถูกต้อง:
ที่ Android Market แล้วแอปพลิเคชันที่เรียกว่า faceniff Android Market แล้วทำให้สมาร์ทโฟนโดยใช้เครือข่าย Wi - Fi เพื่อตรวจหาที่ไม่มีระบบรักษาความ ปลอดภัย บน Facebook หรือ Twitter ล็อกอินทำให้เหมือนกับเครือข่าย Wi - Fi โดยที่เครื่องเดสก์ท็อปหรือแล็ปท็อปโดยใช้มาตรฐานเว็บเบราเซอร์ แอปพลิเคชันที่จะช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าใช้ข้อมูลผู้ติดต่อส่วนตัวของผู้ใช้และผู้ที่ของเพื่อนๆของทั้งหมดที่ผู้ใช้ การใช้แอปพลิเคชันแฮกเกอร์สามารถที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวที่จำเป็นสำหรับการขโมยข้อมูลเฉพาะตัว