Mitigating nutrient loss is a prere

Mitigating nutrient loss is a prerequisite of sustainable agriculture in the tropics. We evaluated three soil and water conservation technologies (mulching, minimum tillage and tied ridging) for two cropping seasons (long rains 2011, short rains 2011) at two sites in the central highlands of Kenya. The objectives were: to determine effects of the technologies on runoff, sediment yield and nutrient loads in sediment, and to assess influence of the technologies on maize yields. Experimental design was a randomized complete block with 3 treatments replicated thrice. At the beginning of experiment, soil was sampled at 0–15 cm depth and analyzed for pH, N, P, K, C, Ca and Mg. Mulch was applied at a rate of 5 t ha−1 .
Runoff was sampled, sediments extracted by drying in oven at 105 ◦ C, and analyzed for NPK and C loads.
Data were subjected to analysis of variance using SAS 9.1.3 and means separated using Fishers’ LSD at 5% level of significance. Results showed reduced nutrient losses with the technologies. In Meru South, sediment yield was reduced by 41 and 7% during long rains 2011 (p = 0.03), and by 71 and 68% during short rains 2011 (p = 0.01) under mulching and minimum tillage, respectively. Runoff and maize yields were positively influenced by mulching. In Mbeere South, sediment yield was lower under soil and water conservation technologies. Runoff was reduced by 52 and 49% during long rains 2011 and by 51 and 30% during short rains 2011 under tied ridging and mulching respectively, compared with control. Total crop failure occurred during long rains 2011 due to erratic rains. During short rains 2011 tied ridging and mulching increased maize yield by 94 and 75%, respectively, compared with control. This study highlights the importance of analyzing soil and water conservation technologies within rain-fed farming systems perspective in response to declining food production and supports a focus on tied ridging and mulching.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บรรเทาการขาดสารอาหารที่จำเป็นของการเกษตรยั่งยืนในเขตร้อนได้ เราประเมิน 3 ดินและน้ำการอนุรักษ์เทคโนโลยี (คลุมดิน tillage ต่ำสุด และผูก ridging) สองฤดูกาลที่การครอบตัด (ฝนตกยาว 2011 ฝนสั้น 2011) ที่เว็บไซต์สองในตอนกลางของประเทศเคนยา มีวัตถุประสงค์: เพื่อตรวจสอบผลกระทบของเทคโนโลยีไหลบ่า ตะกอน และปริมาณธาตุอาหารในตะกอน และการโน้มน้าวใจกลุ่มเทคโนโลยีบนผลผลิตข้าวโพด ออกแบบการทดลองสุ่มการบล็อก ด้วยทรีทเมนท์ 3 สามครั้งสำหรับการจำลองแบบเสร็จสมบูรณ์ได้ ที่เริ่มต้นทดลอง ดินลิ้มลองที่ความลึก 0-15 ซม. และวิเคราะห์สำหรับค่า pH, N, P, K, C, Ca และ Mg. มรูปถูกนำไปใช้ในอัตรา 5 t ha−1ไหลบ่าเป็นตัวอย่าง สารตกตะกอนแยก โดยการอบแห้งในเตาอบที่ 105 โรค C และวิเคราะห์สำหรับโหลด NPK และ Cข้อมูลถูกต้องในการวิเคราะห์ความแปรปรวนใช้ SAS 9.1.3 และวิธีแยกโดยใช้ LSD ของ Fishers ที่ระดับ 5% ถึงความ ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าขาดสารอาหารลดลง ด้วยเทคโนโลยี ใต้เมรุ ตะกอนผลผลิตลดลง โดย 41 และ 7% ในช่วงฝนตกยาว 2011 (p = 0.03), และ 71 และ 68% ในช่วงสั้น 2011 ฝนตก (p = 0.01) ภายใต้การคลุมดิน และต่ำสุด tillage ตามลำดับ ไหลบ่าและผลผลิตข้าวโพดได้บวกรับอิทธิพล โดยการคลุมดิน ใน Mbeere ใต้ ผลผลิตตะกอนเป็นล่างภายใต้เทคโนโลยีอนุรักษ์ดินและน้ำ ไหลบ่าถูกลดเหลือ 52 และ 49% ในช่วงฝนตกยาว 2011 และ 51 และ 30% ในช่วงหน้าฝนสั้น 2011 ภายใต้ ridging ผูกและคลุมดินตามลำดับ เมื่อเทียบกับการควบคุม พืชรวมความล้มเหลวเกิดขึ้นในระหว่างฝนตกยาว 2011 เนื่องจากฝนตกผิดปกติ ในช่วงหน้าฝนสั้น 2011 ผูก ridging และคลุมดินเพิ่มผลผลิตของข้าวโพด โดย 94 และ 75% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับการควบคุม ศึกษานี้เน้นความสำคัญของการอนุรักษ์ดินและน้ำเทคโนโลยีเกษตรพิงระบบมุมมองในการตอบสนองลดลงการผลิตอาหารภายในวิเคราะห์ และสนับสนุนการโฟกัสบน ridging ผูกและคลุมดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บรรเทาการสูญเสียสารอาหารที่เป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำการเกษตรแบบยั่งยืนในเขตร้อน เราประเมินสามอนุรักษ์ดินและน้ำเทคโนโลยี (คลุมดินเตรียมดินขั้นต่ำและยกร่องผูก) สองฤดูกาลปลูกพืช (ฝนยาวปี 2011 ฝนสั้น 2011) ที่สองเว็บไซต์ในที่ราบสูงตอนกลางของประเทศเคนยา โดยมีวัตถุประสงค์: เพื่อตรวจสอบผลกระทบของเทคโนโลยีเกี่ยวกับการไหลบ่าผลผลิตตะกอนและโหลดธาตุอาหารในดินตะกอนและในการประเมินในฟลอริด้าอิทธิพลต่อของเทคโนโลยีที่มีต่อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์บล็อกมีสามครั้งที่ 3 การรักษาการจำลองแบบ ที่จุดเริ่มต้นของการทดลองดินเป็นตัวอย่างที่ระดับความลึก 0-15 ซม. และวิเคราะห์ค่า pH, N, P, K, C, แคลเซียมและแมกนีเซียม คลุมด้วยหญ้าถูกนำมาใช้ในอัตรา 5 ตันต่อเฮกตาร์ 1 ก.
ปริมาณน้ำไหลบ่าเป็นตัวอย่างตะกอนสกัดโดยการอบแห้งในเตาอบที่ 105 ◦ C, และวิเคราะห์ NPK และ C โหลด.
ข้อมูลถูกยัดเยียดให้การวิเคราะห์ความแปรปรวนโดยใช้ SAS 9.1.3 และวิธีการ แยกออกจากกันโดยใช้ฟิชเชอร์ 'LSD ที่ระดับ 5% ของนัยมีนัยสำคัญ ผลการศึกษาพบลดการสูญเสียสารอาหารที่มีเทคโนโลยี ในพระเมรุใต้ตะกอนผลผลิตลดลง 41 และ 7% ในช่วงฝนยาว 2,011 (p = 0.03) และ 71 และ 68% ในช่วงฝนสั้น 2011 (p = 0.01) ภายใต้การคลุมดินและเตรียมขั้นต่ำตามลำดับ ไหลบ่าและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นอัตราผลตอบแทนในเชิงบวกในฟลอริด้า uenced โดยการคลุมดิน ใน Mbeere ใต้ตะกอนผลผลิตลดลงภายใต้ดินและน้ำเทคโนโลยีการอนุรักษ์ ไหลบ่าลดลง 52 และ 49% ในช่วงฝนยาวปี 2011 และ 51 และ 30% ในช่วงฝนสั้น 2011 ภายใต้ ridging ผูกและคลุมดินตามลำดับเมื่อเทียบกับการควบคุม ความล้มเหลวของการเพาะปลูกทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงฝนยาว 2011 เนื่องจากฝนที่ผิดปกติ ในช่วงฤดูฝนสั้น 2011 ผูก ridging และคลุมดินเพิ่มขึ้นผลผลิตข้าวโพดจาก 94 และ 75% ตามลำดับเมื่อเทียบกับการควบคุม การศึกษาครั้งนี้ไฮไลท์สำคัญของการวิเคราะห์เทคโนโลยีอนุรักษ์ดินและน้ำภายในฝนมุมมองของระบบการทำฟาร์มในการตอบสนองต่อการผลิตอาหารลดลงและสนับสนุนการมุ่งเน้นการยกร่องผูกและคลุมดิน