Ohmic heating is based on the passa

Ohmic heating is based on the passage of electrical
current through a food product that serves as an electrical
resistance (Reznick, 1996; Sastry, 1989). Heat is generated
instantly inside the food. The amount of heat
generated is directly related to the current induced by
the voltage gradient in the field, and the electrical conductivity
(Sastry & Li, 1996). The applicability of ohmic
heating depends on the product electrical conductivity.
In recent years, the world
s food industry has focused
increasing attention on ohmic heating of pumpable
foods. It is a highly attractive technique for continuous
food processing. It can be used as a continuous in-line
heater for cooking and sterilization of viscous and liquid
food products. Palaniappan and Sastry (1991) studied
the effects of insoluble solids and applied voltage on
electrical conductivity of the pre-pasteurized carrot
and tomato juices during ohmic heating. Qihua, Jindal,
and van Winden (1993) made performance evaluation of
an ohmic heating unit for liquid foods. They reported
that the temperature affected the electrical conductivity
values of fresh orange juice, but the relationships were
not given. Castro, Teixeira, Salengke, Sastry, and
Vicente (2003) discussed the effect of temperature and
sugar content on the electrical conductivity values of
strawberry based products whereas Castro, Teixeira,
Salengke, Sastry, and Vicente (2004) studied the effect
of electrical field strength. Ohmic heating is currently
being used for the processing of whole fruits in Japan
and the United Kingdom (Sastry & Barach, 2000), for
production of syruped fruit-salad and fruit juices

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เครื่องทำความร้อนแบบโอห์มมิคตามเนื้อเรื่องของไฟฟ้าปัจจุบันผ่านผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำหน้าที่เป็นการไฟฟ้าความต้านทาน (Reznick, 1996 Sastry, 1989) เกิดความร้อนทันทีภายในอาหาร จำนวนของความร้อนสร้างโดยตรงเกี่ยวข้องกับกระแสที่เกิดจากการไล่ระดับแรงดันไฟฟ้าในฟิลด์ และค่าการนำไฟฟ้า(Sastry & Li, 1996) ความเกี่ยวข้องของของแบบโอห์มมิคความร้อนขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ค่าการนำไฟฟ้าในปีที่ผ่านมา มีเน้นอุตสาหกรรมอาหาร s โลกเพิ่มความสนใจในเครื่องทำความร้อนแบบโอห์มมิคของ pumpableอาหาร เป็นเทคนิคน่าสนใจอย่างมากอย่างต่อเนื่องการแปรรูปอาหาร สามารถใช้เป็นแบบอย่างต่อเนื่องในสายฮีตเตอร์สำหรับทำอาหารและฆ่าเชื้อโรคในของเหลว และข้นผลิตภัณฑ์อาหาร คณะและ Sastry (1991) ศึกษาผลกระทบของของแข็งที่ไม่ละลายน้ำและแรงดันไฟฟ้าที่ใช้ในค่าการนำไฟฟ้าของแครอทพาสเจอร์ไรส์ก่อนและน้ำมะเขือเทศในระหว่างการทำความร้อนแบบโอห์มมิค Qihua, Jindalและแวน Winden (1993) ทำการประเมินประสิทธิภาพเป็นหน่วยแบบโอห์มมิคเครื่องทำความร้อนสำหรับอาหารเหลว พวกเขารายงานอุณหภูมิได้รับผลกระทบค่าการนำไฟฟ้าค่าของน้ำส้มคั้น แต่ความสัมพันธ์ได้รับไม่ Castro, Teixeira, Salengke, Sastry และVicente (2003) กล่าวถึงผลของอุณหภูมิ และเนื้อหาน้ำตาลค่าค่าการนำไฟฟ้าของสตรอเบอร์รี่ใช้ผลิตภัณฑ์ในขณะที่ Castro, TeixeiraSalengke, Sastry และ Vicente (2004) ได้ศึกษาผลเขตไฟฟ้ากำลัง เครื่องทำความร้อนแบบโอห์มมิคอยู่ใช้สำหรับการประมวลผลของผลไม้ทั้งในประเทศญี่ปุ่นสหราชอาณาจักร (Sastry & Barach, 2000), และสำหรับผลิตน้ำผลไม้สลัดและผลไม้ syruped

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ร้อน ohmic
จะขึ้นอยู่กับทางเดินของไฟฟ้าปัจจุบันผ่านผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำหน้าที่เป็นไฟฟ้าต้านทาน
(Reznick 1996; Sastry, 1989)
ความร้อนจะถูกสร้างขึ้นทันทีภายในอาหาร ปริมาณความร้อนที่เกิดขึ้นโดยตรงที่เกี่ยวข้องกับในปัจจุบันที่เกิดจากการไล่ระดับแรงดันไฟฟ้าในสนามและการนำไฟฟ้า(Sastry & Li, 1996) การบังคับของ ohmic ความร้อนขึ้นอยู่กับสินค้าที่การนำไฟฟ้า. ในปีที่ผ่านมาโลกที่อุตสาหกรรมอาหารได้มุ่งเน้นความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการทำความร้อน ohmic ของ pumpable อาหาร มันเป็นเทคนิคที่น่าสนใจอย่างมากอย่างต่อเนื่องสำหรับการแปรรูปอาหาร มันสามารถนำมาใช้เป็นอย่างต่อเนื่องในสายการผลิตเครื่องทำน้ำอุ่นสำหรับการปรุงอาหารและการฆ่าเชื้อของความหนืดและของเหลวผลิตภัณฑ์อาหาร Palaniappan และ Sastry (1991) การศึกษาผลกระทบของของแข็งที่ไม่ละลายน้ำและแรงดันไฟฟ้าที่ใช้ในการนำไฟฟ้าของแครอทก่อนพาสเจอร์ไรส์และน้ำมะเขือเทศในช่วงร้อนohmic Qihua, Jindal, และรถตู้ Winden (1993) ทำให้การประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยความร้อนohmic สำหรับอาหารเหลว พวกเขาได้รายงานว่าอุณหภูมิได้รับผลกระทบการนำไฟฟ้าค่าน้ำส้มสดแต่ความสัมพันธ์ที่ถูกไม่ได้รับ คาสโตร Teixeira, Salengke, Sastry และเบง(2003) กล่าวถึงผลของอุณหภูมิและปริมาณน้ำตาลในค่าการนำไฟฟ้าของผลิตภัณฑ์จากสตรอเบอร์รี่ในขณะที่คาสโตรTeixeira, Salengke, Sastry และเบง (2004) การศึกษาผลกระทบของสนามไฟฟ้าความแข็งแรง ร้อน ohmic อยู่ในขณะนี้ถูกนำมาใช้สำหรับการประมวลผลของผลไม้ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักร(Sastry & Barach, 2000) สำหรับการผลิตของผลไม้สลัดsyruped และน้ำผลไม้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ค่าความร้อนตามทางเดินของไฟฟ้า
ปัจจุบันผ่านผลิตภัณฑ์อาหารที่เสิร์ฟเป็นไฟฟ้า
ความต้านทาน ( reznick , 1996 ; sastry , 1989 ) ความร้อนถูกสร้างขึ้น
ทันทีภายในอาหาร ปริมาณความร้อน
ที่เกิดจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับปัจจุบันเกิดจากแรงดันไฟฟ้าไล่ระดับ
ในฟิลด์ และการนำไฟฟ้า
( sastry & Li , 1996 ) การประยุกต์ใช้ค่า
ความร้อนขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า .
ในปีล่าสุด อุตสาหกรรมโลก
อาหารได้มุ่งเน้นความสนใจเพิ่มขึ้นในค่า
ความร้อนของอาหาร pumpable

มันเป็นเทคนิคที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับการประมวลผลอาหารอย่างต่อเนื่อง

มันสามารถใช้เป็นเครื่องทำน้ำอุ่นในบรรทัด
อย่างต่อเนื่องสำหรับการปรุงอาหารและฆ่าเชื้อและของเหลวของหนืด
ผลิตภัณฑ์อาหาร พาลาเนียบพัน และ sastry ( 1991 ) เรียน
ผลของปริมาณของแข็งที่ไม่ละลายน้ำ และความต่างศักย์บน
ค่าการนำไฟฟ้าของ pre พาสเจอร์ไรส์แครอท
และน้ำผลไม้มะเขือเทศระหว่างความร้อนค่า . Qihua เข้าร่วมและรถตู้ , ,
winden ( 1993 ) ได้ประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยความร้อน
ค่าสำหรับอาหารเหลว พวกเขารายงานว่า อุณหภูมิมีผลต่อ

ค่าการนำไฟฟ้าของน้ำส้มคั้นสด แต่ความสัมพันธ์
ไม่ใช่ให้salengke sastry TEIXEIRA Castro , , , ,
วิเซนเต้ ( 2003 ) ได้กล่าวถึงผลของอุณหภูมิและปริมาณน้ำตาลต่อค่าการนำไฟฟ้า

ค่าของสตรอเบอรี่โดยใช้ผลิตภัณฑ์ในขณะที่ Castro , TEIXEIRA
salengke sastry , , , และ บิเซนเต้ ( 2547 ) ศึกษาผล
ของสนามไฟฟ้าแรง ค่าความร้อนอยู่ในขณะนี้ถูกใช้สำหรับการประมวลผลของ

ผลไม้ทั้งในญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักร ( sastry &เบอรัก , 2000 ) ,
การผลิต syruped สลัดผลไม้และน้ำผลไม้