Two postures were found to be significantly related to weaning survival (Table 2; model II); a 1% increase in duration of standing lead to 0.6% decrease in weaning survival (bII = −0.60 ± 0.11, F1,22 = 7.94; P = 0.01) and a 1% increase in duration of sitting lead to 0.55% increase in weaning survival (bII = 0.55 ± 0.28, F1,21 = 9.18; P = 0.01).
In model II, the effect of mean piglet birth weight on weaning survival was always significant, irrespective of the posture that was included. A 100 g increase in mean piglet weight lead to an increase in weaning survival varying from 0.12% (bcov = 0.12 ± 0.06, F1,22 = 6.88; P = 0.02, for the model including duration of standing) to 0.39% (bcov = 0.39 ± 0.13, F1,22 = 8.93; P = 0.01, for the model including frequency of sitting), depending on the posture involved. In the analysis of duration of sitting, a 1 h prolonged parturition lead to an increase in weaning survival of 3% (bcov = 0.03 ± 0.02, F1,21 = 5.25; P = 0.03).
Postures during parturition were not affected by a sow's EBVma (model I), nor was EBVma correlated to weaning survival (0.00 ± 1.00; Pearson correlation coefficient).
ท่าที่สองพบมากเกี่ยวข้องกับหย่านมอยู่รอด (ตารางที่ 2 รุ่นที่สอง), การเพิ่มขึ้น 1% ในระยะเวลาของการยืนที่นำไปสู่การลดลง 0.6% หย่านมอยู่รอด (bII = −0.60 ± 0.11, F1, 22 = 7.94 P = 0.01) และเพิ่มขึ้น 1% ในระยะเวลาในการนั่งรอให้หย่านมอยู่รอดเพิ่มขึ้น 0.55% (bII =± 0.55 0.28, F1, 21 = 9.18 P = 0.01)ในแบบที่ II ผลของน้ำหนักเกิดหมายถึงลูกหมูหย่านมอยู่รอดได้เสมอสำคัญ โดยไม่คำนึงถึงท่าทางที่ถูกรวม การเพิ่มขึ้น 100 กรัมนำน้ำหนักลูกหมูหมายถึงการเพิ่มขึ้นในการหย่านมอยู่รอดที่แตกต่างจาก 0.12% (bcov = 0.12 ± 0.06, F1, 22 = 6.88 P = 0.02 สำหรับรูปแบบรวมทั้งระยะเวลาในการยืน) 0.39% (bcov = 0.39 ± 0.13, F1, 22 = 8.93 P = 0.01 สำหรับรูปแบบรวมถึงความถี่ของนั่งเล่น), ขึ้นบนท่าเกี่ยวข้อง ในการวิเคราะห์ระยะเวลาในการนั่ง parturition 1 ชม.เป็นเวลานานทำให้เพิ่มขึ้นในการหย่านมอยู่รอด 3% (bcov =± 0.03 0.02, F1, 21 = 5.25 P = 0.03)ท่าระหว่าง parturition ได้ไม่กระทบเสาแบบ EBVma (แบบผม), หรือถูก EBVma สัมพันธ์หย่านมอยู่รอด (0.00 ± 1.00 สัมประสิทธิ์ของสหสัมพันธ์เพียร์สัน)
การแปล กรุณารอสักครู่..

สองท่าพบว่ามีความสัมพันธ์กับการมีชีวิตอยู่รอดหย่านม (ตารางที่ 2 รูปแบบที่สอง); เพิ่มขึ้น 1% ในระยะเวลาของการยืนอยู่นำไปสู่การลดลง 0.6% ในการหย่านมอยู่รอด (BII = -0.60 ± 0.11 F1,22 = 7.94; p = 0.01) และเพิ่มขึ้น 1% ในช่วงระยะเวลาของการนั่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้น 0.55% ในการหย่านม การอยู่รอด (BII = 0.55 ± 0.28, F1,21 = 9.18; p = 0.01). ในรูปแบบที่สองผลกระทบของน้ำหนักลูกสุกรแรกเกิดเฉลี่ยในหย่านมอยู่รอดได้เสมออย่างมีนัยสำคัญโดยไม่คำนึงถึงท่าที่ถูกรวม เพิ่มขึ้น 100 กรัมในค่าเฉลี่ยน้ำหนักลูกสุกรนำไปสู่การเพิ่มหย่านมการอยู่รอดที่แตกต่างจาก 0.12% (bcov = 0.12 ± 0.06 F1,22 = 6.88; P = 0.02, สำหรับรูปแบบรวมทั้งระยะเวลาของการยืน) 0.39% (bcov = 0.39 ± 0.13 F1,22 = 8.93; P = 0.01 สำหรับรูปแบบรวมถึงความถี่ของการนั่ง) ขึ้นอยู่กับท่าที่เกี่ยวข้อง ในการวิเคราะห์ระยะเวลาของการนั่งเป็นเวลานาน 1 ชั่วโมงนำการคลอดบุตรการเพิ่มขึ้นของการอยู่รอดของหย่านม 3% (bcov = 0.03 ± 0.02, F1,21 = 5.25; p = 0.03). ท่าในระหว่างการคลอดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสุกร EBVma (รุ่นผม) มิได้ถูก EBVma มีความสัมพันธ์กับการอยู่รอดหย่านม (0.00 ± 1.00; ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน)
การแปล กรุณารอสักครู่..
