From the past duration, every relat

From the past duration, every related work unit supported and enhanced for teacher development in
conducting classroom action research very much. However, teachers still faced various problems in conducting
classroom action research including: their research studies weren’t relevant to problem situation occurred with
students at that time. As a result, the findings couldn’t be applied for solving the classroom problem, the fear of
technique in conducting research, the teachers were likely to believe that the research studies weren’t in their
boundary to perform, time limitation in conducting research, anxiety in the research topics which might be sensitive
to the parents or related persons’ feeling, and they were not supported by their administrators etc (Sardo-Brown,
Welsh & Bolton, 1995; cited in Suwimon Wongwanich, 209: 4) . Besides, the process of teacher development in
classroom action research in the past, the knowledge of research as academic research was emphasized by putting
knowledge as a formal research process. So, the teachers who used formal research for conducting research in their
own research problems. Consequently, there were many problems. Therefore, their research studies had no
development or progress as it should be owing to 6 reasons. First, the teachers’ knowledge obtained from training,
wasn’t sufficient for conducting formal research by themselves. As a result, they couldn’t finish their research
study. So, they were discouraged to conduct research. And that caused by the negative attitude towards conducting
research. Second, formal research had to be based on process in reviewing various related documents very much in
order to include sound conceptual framework as well as reasonable research design. But, the teachers had time
limitation. So, they couldn’t study document completely. Consequently, they employed or asked others to conduct
research for them instead. It affected seriously on many consequences such as the teachers didn’t learn from self
studying. What the obtained were not from their real practice. It was performed only to be finished according to
formal research form as it needed to be. The teachers as researchers didn’t practice their own role and function of
researchers as it should be. Third, it was an effect from difficulty in research process. When teachers finished
research study, they stopped conducting research by obtaining only one research study. They didn’t have motive to
conduct research continuously. Therefore, the research was too specific work conducted for creating the academic
dossier to be on promotion. In this sense, research studies were not useful for the instructional development as they
should be. Fourth, teachers’ determined problems to be used in the studies were problems in which teachers
imitated from academics.’ They were not problems occurred from their own classroom situation. Their research
findings provided answers which couldn’t be used for improving or solving the classroom problems. Fifth, teachers’
research studies in former time were time consuming in implementation. The findings couldn’t be used in time
since the instructional problems were in the past, or the students needed to be corrected didn’t study in that class any
more. Sixth, to conduct research needed to be trained and learn from experts which required to be practiced under
control of mentors who understood research methodology regularly. But, later time, there were no mentors,
experienced and skilful persons in conducting research truly. (Suwimon Wongwanich, 2009: 5-6)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จากระยะเวลาผ่านมา สนับสนุนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสนับสนุนการพัฒนาครูใน
ดำเนินการเรียนการดำเนินการวิจัยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ครูยังคงต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ในการดำเนินการ
รวมถึงการวิจัยการดำเนินการห้องเรียน: นักศึกษาวิจัยที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ
นักเรียนที่ เป็นผล ผลการวิจัยไม่สามารถใช้การแก้ปัญหาการเรียน กลัวความ
เทคนิคในการทำวิจัย ครูมีแนวโน้มที่จะเชื่อว่า การศึกษาไม่ได้ในตน
ขอบทำ ข้อจำกัดเวลาในการดำเนินการวิจัย ความวิตกกังวลในหัวข้อการวิจัยที่อาจสำคัญ
ผู้ปกครองหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก และพวกเขาไม่สนับสนุน โดยผู้ดูแลระบบของตนเป็นต้น (Sardo Brown,
เวลส์&โบลตัน 1995 อ้างถึงในสุวิมล Wongwanich, 209:4) นอก กระบวนการพัฒนาครูใน
ห้องเรียนดำเนินการวิจัยในอดีต ความรู้งานวิจัยเป็นงานวิชาการที่เน้น โดยใส่
ความรู้เป็นกระบวนการวิจัยอย่างเป็นทางการ ดังนั้น ครูที่ใช้การวิจัยอย่างเป็นทางการสำหรับการทำวิจัยในการ
เองปัญหาวิจัย ดังนั้น มีปัญหามากมาย ดังนั้น การศึกษาวิจัยมีไม่
ควร owing พัฒนาหรือความก้าวหน้าตามไปด้วยเหตุผล 6 ครั้งแรก ความรู้ของครูที่ได้รับจากการฝึกอบรม,
ไม่เพียงพอสำหรับการทำวิจัยอย่างเป็นทางการด้วยตัวเอง เป็นผล พวกเขาไม่สามารถเสร็จสิ้นการวิจัย
เรียนได้ ดังนั้น พวกท้อเพื่อดำเนินการวิจัย และที่เกิดจากทัศนคติเชิงลบต่อการดำเนินการ
วิจัย สอง ศึกษาวิจัยมีกระบวนการในการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องตามมากใน
สั่งเสียงกรอบแนวคิดเป็นการออกแบบการวิจัยที่เหมาะสม แต่ ครูมีเวลา
จำกัด ดังนั้น พวกเขาไม่สามารถศึกษาเอกสารทั้งหมด ดังนั้น พวกเขาจ้าง หรือถามคนอื่นทำ
วิจัยนั้นแทน มันได้รับผลกระทบอย่างจริงจังในหลายผลเช่นครูไม่ได้เรียนรู้จากตนเอง
เรียน สิ่งที่ได้รับไม่ได้จากการปฏิบัติจริง งานเฉพาะเพื่อทำให้เสร็จสิ้นตาม
วิจัยอย่างเป็นทางการก็ตามต้องการ ครูเป็นนักวิจัยไม่ปฏิบัติบทบาทและหน้าที่ของตนเอง
นักวิจัยที่ควร ที่สาม มันเป็นผลกระทบจากความยากลำบากในกระบวนการวิจัย เมื่อเสร็จแล้วครู
วิจัยศึกษา พวกเขาหยุดการดำเนินการวิจัย โดยได้รับการศึกษาวิจัยเดียวกัน มีแรงจูงใจการ
ดำเนินการวิจัยอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การวิจัยเป็นงานเฉพาะเกินไปดำเนินการสร้างการศึกษา
dossier อยู่ในโปรโมชั่น ในนี้รู้สึก ศึกษาวิจัยไม่เป็นประโยชน์เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเหล่านั้น
ควร สี่ ครูกำหนดปัญหาที่จะใช้ในการศึกษามีปัญหาในการที่ครู
เลียนแบบจากนักวิชาการ ' ไม่ใช่ปัญหาเกิดขึ้นจากสถานการณ์การเรียนของตนเอง นักวิจัย
ผลการวิจัยให้คำตอบซึ่งไม่สามารถใช้สำหรับการปรับปรุง หรือแก้ปัญหาห้องเรียน ห้า ครู
การศึกษาวิจัยในอดีตใช้เวลานานในการดำเนินการ ไม่สามารถใช้ผลการวิจัยในเวลา
เนื่องจากมีปัญหาการเรียนการสอนในอดีต หรือนักศึกษาที่ต้องแก้ไขไม่ได้ศึกษาในชั้นเรียนที่ใด ๆ
เพิ่มเติมได้ หก การดำเนินการวิจัยที่ต้องได้รับการอบรม และเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญที่ต้องปฏิบัติภายใต้
ควบคุม mentors ที่เข้าใจระเบียบวิธีวิจัยอย่างสม่ำเสมอ แต่ ต่อเวลา มีได้ไม่ mentors,
คนมีประสบการณ์ และเชี่ยวในการทำวิจัยอย่างแท้จริง (สุวิมล Wongwanich, 2009:5-6)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุน และปรับปรุงเพื่อพัฒนาครูใน
การทำวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียนมาก แต่ครูยังคงเผชิญกับปัญหาต่าง ๆในการปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียน :
รวมทั้งการศึกษาวิจัยของพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัญหาที่เกิดกับ
นักศึกษาในเวลานั้น ผลข้อมูลไม่สามารถใช้เพื่อแก้ไขปัญหาในชั้นเรียน ความกลัว
เทคนิคในการทำวิจัย ครูผู้สอนมีแนวโน้มที่จะเชื่อว่า การศึกษาไม่ได้อยู่ในขอบเขตของ
เพื่อดําเนินการ จำกัด เวลาในการทำการวิจัย ความกังวลในหัวข้อการวิจัยที่อาจจะอ่อนไหว
กับพ่อแม่หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ' ความรู้สึก ,และพวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร ฯลฯ ( ซาร์โดสีน้ำตาล
ชาวเวลส์&โบลตัน , 1995 ; อ้างถึงใน ดร สุวิมล ว่องวาณิช , 209 : 4 ) นอกจากนี้ กระบวนการในการพัฒนาครู
การวิจัยในชั้นเรียนที่ผ่านมา ความรู้เกี่ยวกับการวิจัย เช่น การวิจัยทางวิชาการเน้นโดยใส่
ความรู้เป็นขั้นตอนการวิจัยอย่างเป็นทางการ ดังนั้นครูที่ใช้การวิจัยทางการวิจัยในปัญหาการวิจัย
เอง จึงมีปัญหามากมาย ดังนั้น การศึกษาวิจัยของพวกเขาไม่มีการพัฒนาหรือความคืบหน้าเท่าที่ควร เนื่องจาก 6 ประการ แรก ความรู้ของครูที่ได้จากการฝึกอบรม
ไม่เพียงพอสำหรับการทำวิจัยอย่างเป็นทางการด้วยตนเอง ผลพวกเขาไม่สามารถจบการศึกษาวิจัย
. ดังนั้น พวกเขาเคยท้อที่จะดำเนินการวิจัย และเกิดจากทัศนคติเชิงลบต่อการดำเนินการ
) ประการที่สอง การวิจัยแบบเป็นทางการก็ต้องขึ้นอยู่กับกระบวนการในการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆที่เกี่ยวข้องมากเพื่อที่จะรวมเสียง
กรอบแนวคิด ตลอดจนการออกแบบการวิจัยที่เหมาะสม แต่ ครูมีเวลา
ข้อจำกัด ดังนั้นพวกเขาได้ศึกษาเอกสารไม่สมบูรณ์ จึงจ้าง หรือให้ผู้อื่นดำเนินการ
วิจัยพวกเขาแทน มันได้รับผลกระทบอย่างจริงจังในตามมามากมาย เช่น ครูไม่ได้เรียนรู้จากตนเอง
เรียน สิ่งที่ได้จากการปฏิบัติจริงของพวกเขา มันก็แสดงแค่จะแล้วเสร็จตามรูปแบบการวิจัยแบบเป็นทางการ

มันต้องเป็นครูเป็นนักวิจัยไม่ได้การปฏิบัติบทบาทของตนเอง และการทำงานของ
นักวิจัยเท่าที่ควร สาม คือผลจากความยากในกระบวนการวิจัย เมื่อครูเสร็จ
การศึกษาวิจัย พวกเขาหยุดดำเนินการวิจัยโดยได้รับเพียงหนึ่งการวิจัยการศึกษา พวกเขาไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ
วิจัยอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการวิจัยด้วยเฉพาะงานดำเนินการสำหรับการสร้างเอกสารวิชาการ
เป็นโปรโมชั่น ในความรู้สึกนี้ , การศึกษาไม่ได้เป็นประโยชน์สำหรับการพัฒนาการเรียนการสอนตามที่พวกเขา
ควรจะ สี่ ครูกำหนดปัญหาที่จะใช้ในการศึกษา เป็นปัญหาที่ครู
เลียนแบบจากนักวิชาการ ' พวกเขาไม่ได้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ในชั้นเรียนของตนเองผลการวิจัย
ของพวกเขาให้คำตอบที่ไม่สามารถใช้ในการปรับปรุงหรือแก้ไขปัญหาในชั้นเรียน 5 ครู
การศึกษาวิจัยในอดีตเวลาเวลานานในการปฏิบัติ ข้อมูลไม่สามารถใช้ในเวลา
เนื่องจากปัญหาการเรียนการสอนในอดีต หรือนักเรียนที่ต้องได้รับการแก้ไข ไม่ได้เรียนในชั้นเรียนใด
เพิ่มเติม ที่หกการวิจัยต้องได้รับการฝึกฝนและเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งต้องปฏิบัติภายใต้การควบคุมของพี่เลี้ยงที่เข้าใจ
วิจัยอย่างสม่ำเสมอ แต่ เวลาต่อมา ไม่มีพี่เลี้ยง และฝีมือคน
มีประสบการณ์ในการทำวิจัยอย่างแท้จริง ( สุวิมล ว่องวานิช , 2009 : 5-6 )