Furthermore, Montessori is distinct

Furthermore, Montessori is distinct in that it does not use textbooks, worksheets,
tests, grades, punishments, or rewards. Differences in classroom attitudes and management also have been noted. According to Chattin-McNichols (1992), Montessori classrooms are based on cooperation, while traditional classrooms are based on competition. In Montessori classrooms, “Teachers promote inner discipline in children by letting students direct their own learning instead of upholding an outer discipline where teachers act as authoritarians, dictating to students how to behave and what to do” . Montessori teachers reportedly have “faith that the children will freely choose the tasks that meet their inner needs at the moment” . In addition, Montessori programs target the development of “human potential … beyond the more narrow focus of skill development and transmission of societal values which shape the traditional educational system”.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นอกจากนี้ บาเป็นหมดที่ไม่ได้ใช้ตำรา แผ่นงาน,
ทดสอบ เกรด ลงโทษ หรือรางวัล ความแตกต่างในห้องเรียนทัศนคติและการจัดการยังได้รับการกล่าว ตาม Chattin-McNichols (1992), ห้องเรียนบาจะขึ้นอยู่กับความร่วมมือ ในขณะที่ห้องเรียนแบบดั้งเดิมจะขึ้นอยู่กับการแข่งขัน ในห้องเรียนบา "ครูส่งเสริมระเบียบวินัยภายในเด็ก โดยให้นักเรียนโดยตรงเรียนตัวเองแทนที่จะยึดถือวินัยการภายนอกที่ครูทำหน้าที่เป็น authoritarians บอกให้นักเรียนวิธีการทำงานและจะทำอย่างไร" ครูบามีรายงานว่ามี "ความเชื่อที่เด็กจะอิสระเลือกงานที่ตรงตามที่ต้องการภายในของพวกเขาในขณะนี้" นอกจากนี้ โปรแกรมบาเป้าหมายการพัฒนาของ "มนุษย์ศักยภาพ...นอกเหนือจากความแคบมากขึ้นพัฒนาทักษะและส่งค่านิยมซึ่งรูปร่างระบบการศึกษาแบบดั้งเดิม"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นอกจากนี้มอนที่แตกต่างในการที่จะไม่ได้ใช้ตำราแผ่น,
การทดสอบ, เกรดลงโทษหรือรางวัล ความแตกต่างในทัศนคติและการจัดการห้องเรียนนอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกต ตามที่ chattin-McNichols (1992), ห้องเรียนมอนจะขึ้นอยู่กับความร่วมมือในขณะที่เรียนแบบดั้งเดิมจะขึ้นอยู่กับการแข่งขัน ในห้องเรียนมอน "ครูส่งเสริมวินัยด้านในเด็กโดยการให้นักเรียนนำการเรียนรู้ของพวกเขาแทนการส่งเสริมวินัยด้านนอกที่ครูทำหน้าที่เป็นเผด็จการเล่าให้กับนักเรียนวิธีการปฏิบัติตนและสิ่งที่ต้องทำ" ครูมอนรายงานว่ามี "ความเชื่อที่ว่าเด็กได้อย่างอิสระจะเลือกงานที่ตอบสนองความต้องการภายในของพวกเขาในขณะนี้" นอกจากนี้โปรแกรมมอนกำหนดเป้าหมายการพัฒนา "ศักยภาพของมนุษย์ ... เกินโฟกัสแคบมากของการพัฒนาทักษะและการส่งค่าในสังคมที่รูปร่างระบบการศึกษาแบบดั้งเดิม"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นอกจากนี้ มอนเตสซอรี่ แตกต่างตรงที่มันไม่ได้ใช้ตำรา , แผ่นงาน ,
ทดสอบเกรด ลงโทษ หรือให้รางวัล ความแตกต่างในทัศนคติและบริหารจัดการห้องเรียน ยังได้ตั้งข้อสังเกต ตาม chattin แมคนิโคลส์ ( 1992 ) , ห้องเรียนมอนเตสซอรี่ตามความร่วมมือ ในขณะที่ห้องเรียนแบบดั้งเดิมอยู่บนพื้นฐานของการแข่งขัน ในมอนเตสซอรี่ ห้องเรียน" ครูส่งเสริมวินัยในเด็ก โดยให้นักเรียนภายใน โดยการเรียนรู้ด้วยตนเองแทนการชั้นนอกที่เป็น authoritarians วินัยครู และนักเรียน ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร และสิ่งที่ต้องทำ " ครูมอนเตสซอรี่ รายงานว่ามีความเชื่อว่าเด็กอย่างอิสระจะเลือกงานที่ตรงกับความต้องการภายในของตนในขณะนี้ " นอกจากนี้เป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพของ " . . . . . . . มนุษย์นอกโฟกัสแคบมากขึ้นของการพัฒนาทักษะและการส่งค่าของสังคมซึ่งรูปร่าง " ระบบการศึกษาแบบมอนเตสซอรี่ โปรแกรม