The region that forms today's Kayin

The region that forms today's Kayin State was part of successive Burmese kingdoms since the formation of the Pagan Empire in mid-11th century. During the 13th to 16th centuries, much of the region belonged to the Hanthawaddy Kingdom while the northern part of the region belonged to Taungoo, which was a vassal state of Ava Kingdom. The region then became part of Taungoo Dynasty and Konbaung Dynasty from 16th to 19th centuries. The British seized the southern third of today's Kayin State (below the Salween River) after the First Anglo-Burmese War (1824-1826), and the rest after the Second Anglo-Burmese War of 1852.

Towards the end of the British colonial era (1945-1948), the Karen leadership insisted on a separate state covering today's Kayin State and much of Mon State and Taninthayi Region, within the British Empire. They refused to sign the Panglong Agreement of February 1947, which was the basis for the 1947 Constitution of Burma, and boycotted the pre-independence elections of April 1947.[4] Nonetheless, the constitution granted the Karen a state, though with an area less than what the Karen leadership had asked for from the British. The constitution also guaranteed states with the right to secede from the Union after a period of 10 years. (The Panglong Agreement gave only the Shan and the Kachin a state each; the Chin who actually signed the agreement did not receive a state.) The Karen National Union, which dominated the Karen leadership, was not satisfied, and wanted outright independence. In 1949, the KNU raised a rebellion that continues up to today.[5] The KNU celebrates January 31 as 'revolution day', marking the day they went underground at the battle of Insein

Much of the state has been a battlefield since then. The civilians have taken the brunt of the war. The KNU today forms the world's longest running resistance. The English name of the state was changed to Kayin State from Karen State in 1989 by the military government.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภูมิภาคที่รัฐกะเหรี่ยงวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรพม่าต่อเนื่องนับตั้งแต่การก่อตัวของอาณาจักรพุกามในศตวรรษกลาง 11 ในระหว่างศตวรรษ 13-16 มากของภูมิภาคเป็นสมาชิกราชอาณาจักร Hanthawaddy ในขณะที่ตอนเหนือของภูมิภาคเป็นสมาชิกตองอู ซึ่งเป็น vassal รัฐราชอาณาจักรเอวา ภาคแล้วกลายเป็น ส่วนหนึ่งของราชวงศ์ตองอูและราชวงศ์จาก 16 ถึงศตวรรษที่ 19 อังกฤษยึดสามภาคใต้ของรัฐกะเหรี่ยงวันนี้ (ใต้แม่น้ำสาละวิน) หลังจากสงครามอังกฤษพม่าครั้งแรก (1824-1826), และส่วนเหลือหลังจากสงครามอังกฤษพม่าสองของ 1852ในตอนท้ายของยุคอาณานิคมอังกฤษ (1945-1948), ผู้นำกะเหรี่ยงยืนยันในวันนี้รัฐกะเหรี่ยงและรัฐมอญและภาค Taninthayi ภายในจักรวรรดิอังกฤษมากแบ่งแยก พวกเขาปฏิเสธการลงนามข้อตกลงเวียงปางหลวงของ 1947 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับ 1947 รัฐธรรมนูญของพม่า boycotted เอกราชก่อนการเลือกตั้งของเดือนเมษายน [4] กระนั้น รัฐธรรมนูญให้กะเหรี่ยงรัฐ แต่ก็ มีพื้นที่น้อยกว่าอะไรเป็นผู้นำกะเหรี่ยงได้ขอจากอังกฤษ นอกจากนี้รัฐธรรมนูญยังรับประกันอเมริกา มีสิทธิถอนสหภาพหลังจากระยะเวลา 10 ปี (ลาวให้เฉพาะไทใหญ่และคะฉิ่นรัฐละ ชินที่จะ ลงนามข้อตกลงไม่ได้รับสถานะ) กะเหรี่ยงแห่งชาติสหภาพ ซึ่งครอบงำผู้นำกะเหรี่ยง ไม่พอใจ แล้วอยากเป็นอิสระทันที ใน 1949, KNU ที่ยกเป็นกบฏที่ยังคงมีอยู่ถึงวันนี้ [5] KNU ฉลอง 31 มกราคมเป็น "วันปฏิวัติ' ทำเครื่องหมายวันที่เดินทางใต้ดินในการต่อสู้ของ Inseinของรัฐมีสนามรบตั้งแต่นั้นแล้ว พลเรือนได้ brunt สงคราม KNU วันนี้ฟอร์มต้านทานทำงานที่ยาวที่สุดในโลก ชื่อภาษาอังกฤษของรัฐถูกเปลี่ยนแปลงให้รัฐกะเหรี่ยงจากรัฐกะเหรี่ยงในปี 1989 โดยรัฐบาลทหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภูมิภาคที่เป็นรัฐกะเหรี่ยงในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรพม่าต่อเนื่องตั้งแต่การก่อตัวของจักรวรรดิอิสลามในช่วงกลางศตวรรษที่ 11 ในระหว่างวันที่ 13 ถึงศตวรรษที่ 16 มากของภูมิภาคเป็นราชอาณาจักร Hanthawaddy ในขณะที่ทางตอนเหนือของภูมิภาคเป็น Taungoo ซึ่งเป็นรัฐข้าราชบริพารของ Ava ราชอาณาจักร ภูมิภาคแล้วก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ Taungoo และราชวงศ์คองบองตั้งแต่วันที่ 16 ถึงศตวรรษที่ 19 อังกฤษยึดภาคใต้ในสามของรัฐกะเหรี่ยงของวันนี้ (ด้านล่างแม่น้ำสาละวิน) หลังจากที่แองโกลพม่าสงคราม (1824-1826) และส่วนที่เหลือหลังจากที่แองโกลพม่าสงคราม 1852 ในช่วงปลายของยุคอาณานิคมของอังกฤษ (1945-1948) เป็นผู้นำกะเหรี่ยงยืนยันที่จะครอบคลุมแยกรัฐรัฐกะเหรี่ยงของวันนี้และมากของรัฐมอญและ Taninthayi ภาคภายในจักรวรรดิอังกฤษ พวกเขาปฏิเสธที่จะลงนามในข้อตกลงปางหลวงของเดือนกุมภาพันธ์ 1947 ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับ 1947 รัฐธรรมนูญของพม่าและ boycotted เลือกตั้งก่อนเป็นอิสระของเดือนเมษายน 1947 [4] อย่างไรก็ตามรัฐธรรมนูญที่ได้รับกะเหรี่ยงรัฐแม้ว่าจะมีพื้นที่ น้อยกว่าสิ่งที่เป็นผู้นำกะเหรี่ยงถามหาจากอังกฤษ รัฐธรรมนูญยังรับประกันรัฐที่มีสิทธิที่จะแยกตัวออกจากสหภาพหลังจากระยะเวลา 10 ปี (ข้อตกลงปางหลวงให้เพียงฉานคะฉิ่นและรัฐแต่ละ. ชินที่ลงนามในข้อตกลงความจริงไม่ได้รับรัฐ) สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงซึ่งโดดเด่นเป็นผู้นำกะเหรี่ยงก็ยังไม่พอใจและต้องการความเป็นอิสระทันที ในปี 1949 เคเอ็นยูที่เกิดขึ้นก่อจลาจลที่ยังคงขึ้นอยู่กับวันนี้. [5] KNU ฉลองวันที่ 31 มกราคมเป็น 'การปฏิวัติวัน' เครื่องหมายวันที่พวกเขาไปใต้ดินในสงครามอินมากของรัฐที่ได้รับสนามรบตั้งแต่นั้นมา พลเรือนได้นำความรุนแรงของสงคราม วันนี้รูปแบบ KNU ต้านทานทำงานที่ยาวที่สุดในโลก ชื่อภาษาอังกฤษของรัฐได้เปลี่ยนไปจากรัฐกะเหรี่ยงรัฐกะเหรี่ยงในปี 1989 โดยรัฐบาลทหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภูมิภาคที่รูปแบบรัฐวันนี้รัฐกะเหรี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของพม่า ตั้งแต่การสร้างอาณาจักรต่อเนื่องของจักรวรรดิพุกามในศตวรรษที่ mid-11th . ในระหว่างวันที่ 13 ถึง 16 ศตวรรษ , มากของพื้นที่เป็นของหันทาวดีราชอาณาจักรในขณะที่ทางตอนเหนือของเขตเป็นของหงส์ ซึ่งเป็นแผ่นดินของ เอวา ราชอาณาจักรภูมิภาคแล้วกลายเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ตองอู และราชวงศ์คองบองจาก 16 19 ศตวรรษ อังกฤษยึดภาคใต้ของรัฐที่สามวันนี้ กะยิน ( ใต้แม่น้ำสาละวิน ) หลังจากสงครามครั้งแรกอังกฤษพม่า ( 1824-1826 ) และส่วนที่เหลือหลังจากสองอังกฤษพม่าสงคราม 1852 .

ไปยังจุดสิ้นสุดของยุคอาณานิคมอังกฤษ ( 1945-1948 )ผู้นำกะเหรี่ยงยืนยันแยกรัฐครอบคลุมวันนี้รัฐกะเหรี่ยงและรัฐมอญ และ taninthayi ของภูมิภาคภายในจักรวรรดิอังกฤษ พวกเขาปฏิเสธที่จะลงนามในความตกลงเวียงปางหลวงกุมภาพันธ์ 1947 ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับ 1947 รัฐธรรมนูญของพม่า และบอยคอตการเลือกตั้งในเดือนเมษายนก่อนความเป็นอิสระ 2490 [ 4 ] อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญให้คาเรน รัฐแม้มีพื้นที่น้อยกว่าสิ่งที่ผู้นำกะเหรี่ยงได้ถามจากอังกฤษ รัฐธรรมนูญรับประกันอเมริกามีสิทธิที่จะแยกตัวออกจากสหภาพหลังจากระยะเวลา 10 ปี ( ความตกลงเวียงปางหลวงให้เฉพาะฉานและคะฉิ่นรัฐแต่ละ คางที่ลงนามในสัญญาไม่ได้รับสถานะ ) สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงซึ่งครอบงำผู้นำกะเหรี่ยงไม่พอใจ และต้องการความเป็นอิสระอย่างสิ้นเชิง ใน พ.ศ. 2492 กองทัพสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงก่อการปฎิวัติที่ยังคงจนถึงวันนี้ [ 5 ] กองทัพสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงฉลอง 31 มกราคม เป็น ' วัน ' การปฏิวัติ , การทำเครื่องหมายวันพวกเขาลงไปใต้ดินในศึกนเซน

มากของรัฐได้รับสนามรบตั้งแต่นั้นมา พลเรือนที่ได้รับความรุนแรงของสงครามกองทัพสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงในรูปแบบของโลกที่ยาวที่สุดที่ใช้ต้านทาน ชื่อภาษาอังกฤษของรัฐมีการเปลี่ยนแปลงรัฐจากรัฐกะเหรี่ยงในปี 1989 โดยรัฐบาลทหาร