In human influenza viruses, the vac

In human influenza viruses, the vaccine strain for target season t is identified at the end of season t − 1
(pre-target season) from the epidemic viruses isolated by then (Treanor, 2004; Russell et al., 2008a). To
identify, retrospectively, the most effective vaccine strain for each target season of 2001.0 ≤ t ≤ 2014.5, the
average antigenic distance was computed between each of the strains isolated in seasons 1992.0 to t − 1
and the epidemic viruses sampled in season t. The strain with the smallest average antigenic distance was
considered as the most effective vaccine strain (Table 1). It was observed that the average antigenic distance
for the most effective vaccine strain was always smaller than 2, ranging from 0.181 to 1.400 with the overall
average of 0.587 (Table 1). These values were also always smaller than those for actual vaccines obtained
above. Notably, the most effective vaccine strain was identified in the pre-target season for 25 out of 28
seasons examined (Table 1).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในไวรัสไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์ ระบุสายพันธุ์วัคซีนสำหรับ t ฤดูกาลเป้าหมายเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล t − 1(เป้าหมายก่อนฤดูกาล) จากไวรัสเรื้อรังที่แบ่งแยกแล้ว (Treanor, 2004 รัสเซล et al., 2008a) ถึงระบุ ย้อนหลัง ได้สายพันธุ์วัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละฤดูกาลเป้าหมายของ 2001.0 ≤ t ≤ 2014.5 การมีคำนวณระยะทาง antigenic เฉลี่ยระหว่างแต่ละสายพันธุ์ที่แยกต่างหากในฤดู 1992.0 จะ t − 1และตัวอย่างในฤดูกาลทีไวรัสเรื้อรัง พันธุ์กับระยะทาง antigenic เฉลี่ยน้อยที่สุดได้ถือว่าเป็นสายพันธุ์วัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสุด (ตารางที่ 1) มันถูกพบที่ระยะห่างเฉลี่ย antigenicสำหรับวัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องใช้อยู่เสมอที่มีขนาดเล็กกว่า 2 ตั้งแต่ 0.181 1.400 ด้วยโดยรวมค่าเฉลี่ยของ 0.587 (ตาราง 1) ค่าเหล่านี้ก็ยังมีขนาดเล็กกว่าการรับรู้จริงข้างต้น ยวด ระบุสายพันธุ์วัคซีนมีประสิทธิภาพสูงสุดในฤดูกาลก่อนเป้าหมาย 25 จาก 28ซีซั่นส์ตรวจสอบ (ตาราง 1)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในไวรัสไข้หวัดใหญ่ของมนุษย์สายพันธุ์วัคซีนสำหรับ t เป้าหมายฤดูกาลที่มีการระบุในตอนท้ายของเสื้อฤดูกาล - 1
(ฤดูกาลก่อนเป้าหมาย) จากไวรัสแพร่ระบาดของโรคที่แยกแล้ว (Treanor 2004;. รัสเซลและคณะ, 2008a) เพื่อ
ระบุย้อนหลัง, สายพันธุ์วัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับแต่ละฤดูกาลเป้าหมายของ 2001.0 ≤≤ 2,014.5 ตัน,
ระยะทางแอนติเจนเฉลี่ยคำนวณระหว่างแต่ละสายพันธุ์ที่แยกได้ในฤดูกาล 1,992.0 ไป t - 1
และไวรัสแพร่ระบาดในตัวอย่างเสื้อฤดูกาล ความเครียดกับระยะทางแอนติเจนเฉลี่ยเล็กที่สุดที่ได้รับการ
พิจารณาว่าเป็นสายพันธุ์วัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด (ตารางที่ 1) มันถูกตั้งข้อสังเกตว่าระยะแอนติเจนเฉลี่ย
สำหรับสายพันธุ์วัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือมักจะมีขนาดเล็กกว่า 2 ตั้งแต่ 0.181-1.400 ด้วยโดยรวม
เฉลี่ย 0.587 (ตารางที่ 1) ค่าเหล่านี้ก็ยังเสมอขนาดเล็กกว่าวัคซีนที่เกิดขึ้นจริงที่ได้รับ
ดังกล่าวข้างต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายพันธุ์วัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่ถูกระบุในฤดูกาลก่อนเป้าหมายที่ 25 จาก 28
ฤดูกาลที่ตรวจสอบ (ตารางที่ 1)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในไวรัสไข้หวัดใหญ่ , สายพันธุ์วัคซีน T ฤดูกาลเป้าหมายจะถูกระบุในตอนท้ายของฤดูกาล T − 1
( ฤดูกาลก่อนเป้าหมาย ) จากการระบาดของไวรัสที่แยกได้ ( treanor , 2004 ; Russell et al . , 2008a )

ระบุ , ย้อนหลัง , สายพันธุ์วัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับแต่ละเป้าหมายฤดูกาลของ 2001.0 ≤ T
2014.5 ≤ ,คำนวณระยะทางเฉลี่ยระหว่างแต่ละชนิดของสายพันธุ์ที่แยกได้ในฤดูกาล 1992.0 T − 1
และไวรัสระบาดของโรค โดยในฤดูกาลทีเมื่อยกับน้อยที่สุดเฉลี่ยแอนติเจนระยะทาง
ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของวัคซีน ( ตารางที่ 1 ) พบว่าค่าเฉลี่ยของแอนติเจนระยะทาง
สำหรับวัคซีนมีประสิทธิภาพมากที่สุดซึ่งมักจะมีขนาดเล็กกว่า 2ตั้งแต่ 0.007 ถึง 1.400 มีค่าเฉลี่ยโดยรวมของ 0.587
( ตารางที่ 1 ) ค่าเหล่านี้ ก็มักจะมีขนาดเล็กกว่าที่ได้รับวัคซีนจริง
ข้างบน โดย วัคซีนมีประสิทธิภาพมากที่สุดสายพันธุ์ถูกระบุในฤดูกาลก่อนเป้าหมาย 25 จาก 28
ฤดูกาลตรวจ ( ตารางที่ 1 )