The equivalence principle (EP) lies

The equivalence principle (EP) lies at the foundation of Einstein’s general theory of relativity;
testing this fundamental assumption with the highest possible sensitivity is clearly important,
particularly since it may be expected that the EP will not hold in quantum theories of
gravity [25]. In general relativity, test objects in free-fall follow geodesics of space-time,
and what we perceive as the force of gravity is instead a result of our being unable to follow
those geodesics of space-time, because the mechanical resistance of matter prevents us from
doing so. One can test both the validity of the EP and of the field equations that determine
the geometric structure created by a mass distribution. There are two different ‘flavors’ of

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลักการสมมูล (EP) อยู่ที่รากฐานของทฤษฎีสัมพัทธภาพ ทั่วไปของไอน์สไตน์การทดสอบสมมติฐานพื้นฐานนี้ มีความไวแสงได้สูงสุดเป็นสิ่งสำคัญอย่างชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะมันอาจคาดหวังว่า EP จะถือในทฤษฎีควอนตัมของแรงโน้มถ่วง [25] ในทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ทดสอบวัตถุใน geodesics ตามการกระแทกของลานกว้างและสิ่งที่เรารับรู้เป็นแรงโน้มถ่วงเป็นแทนผลของเราจะไม่สามารถทำตามgeodesics เหล่านั้นของลานกว้าง เนื่องจากความต้านทานเชิงกลของสสารป้องกันเราจากการทำเช่นนั้น หนึ่งสามารถทดสอบทั้งความถูกต้อง ของ EP และสมการของฟิลด์ที่กำหนดโครงสร้างทางเรขาคณิตที่สร้างขึ้น โดยการกระจายมวล มีสองต่าง 'รส' ของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมดุลหลักการ (EP) อยู่ที่การวางรากฐานของทฤษฎีทั่วไปของ Einstein สัมพัทธภาพ;
การทดสอบสมมติฐานพื้นฐานที่มีความไวเป็นไปได้สูงสุดเป็นสิ่งสำคัญอย่างชัดเจน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่มันอาจจะเป็นที่คาดหวังว่าอีจะไม่ถือในทฤษฎีควอนตัมของ
แรงโน้มถ่วง [25] . ในความสัมพันธ์ทั่วไปวัตถุทดสอบตกฟรีทำตาม geodesics ของพื้นที่เวลา
และสิ่งที่เรารับรู้ว่าแรงโน้มถ่วงของแทนที่จะเป็นผลมาจากการไม่สามารถที่จะทำตามเรา
geodesics บรรดาของพื้นที่เวลาเพราะความต้านทานทางกลของป้องกันเรื่อง เราจาก
การทำเช่นนั้น หนึ่งสามารถทดสอบทั้งความถูกต้องของสอีและสมการสนามที่ตรวจสอบ
โครงสร้างทางเรขาคณิตที่สร้างขึ้นโดยการกระจายมวล มีสองที่แตกต่างกัน 'รสชาติ' ของมี