Chlorella is a genus of single-cell

Chlorella is a genus of single-cell green algae belonging to the phylum Chlorophyta. It is spherical in shape, about 2 to 10 μm in diameter, and is without flagella. Chlorella contains the green photosynthetic pigments chlorophyll-a and -b in its chloroplast. Through photosynthesis, it multiplies rapidly, requiring only carbon dioxide, water, sunlight, and a small amount of minerals to reproduce.[1]
The name Chlorella is taken from the Greek χλώρος, chloros, meaning green, and the Latin diminutive suffix ella, meaning small. German biochemist and cell physiologist Otto Heinrich Warburg, awarded with the Nobel Prize in Physiology or Medicine in 1931 for his research on cell respiration, also studied photosynthesis in Chlorella. In 1961, Melvin Calvin of the University of California received the Nobel Prize in Chemistry for his research on the pathways of carbon dioxide assimilation in plants using Chlorella.
Many people believe Chlorella can serve as a potential source of food and energy because its photosynthetic efficiency can, in theory, reach 8%,[2] which exceeds that of other highly efficient crops such as sugar cane.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คลอเรลล่าเป็นสกุลของสาหร่ายสีเขียวเซลล์เดียวที่เป็นของไฟลัม Chlorophyta มันเป็นทรงกลมในรูปร่าง ประมาณ 2 ถึง 10 μ m และไม่มี flagella สาหร่ายประกอบด้วยสีเขียวสังเคราะห์แสงสีคลอโรฟิลล์ a และ -b ในของคลอโรพลาสต์ ผ่านการสังเคราะห์แสง เยอะอย่างรวดเร็ว ต้องเท่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำ แสงแดด และแร่การสร้างจำนวนเล็กน้อย [1]ชื่อคลอเรลล่าจะนำมาจากχλώροςกรีก chloros เขียวความหมาย และเล็กติ suffix หมายถึงเล็ก ella ภาษาเยอรมัน biochemist และเซลล์ผีออตโตไฮน์ริชวาร์บูร์ก ได้รับรางวัล Nobel Prize ในสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ในค.ศ. 1931 การวิจัยของเขาจากการหายใจเซลล์ ยังมีศึกษาสังเคราะห์แสงในคลอเรลล่า ในปีค.ศ. 1961, Melvin Calvin ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีสำหรับการวิจัยของเขาบนเส้นทางของการดูดซึมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในพืชโดยใช้คลอเรลล่าหลายคนเชื่อว่า สาหร่ายสามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งอาหารและพลังงานที่มีศักยภาพเนื่องจากประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสงสามารถ ในทางทฤษฎี ถึง 8%, [2] ซึ่งสูงกว่าพืชอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นอ้อย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Chlorella เป็นประเภทของเซลล์เดียวสาหร่ายสีเขียวที่อยู่ในไฟลัม Chlorophyta ที่ มันเป็นรูปทรงกลมประมาณ 2-10 ไมโครเมตรในเส้นผ่าศูนย์กลางและโดยไม่ต้อง flagella Chlorella มีสีเขียวสังเคราะห์เม็ดสีคลอโรฟิลและ -b ในคลอโรพลามัน ผ่านการสังเคราะห์ก็คูณอย่างรวดเร็วต้องใช้เพียงคาร์บอนไดออกไซด์น้ำแสงแดดและมีจำนวนน้อยของแร่ธาตุในการทำซ้ำ. [1]
ชื่อคลอเรลล่าจะนำมาจากχλώροςกรีก Chloros หมายถึงสีเขียวและละตินเอลล่าต่อท้ายเล็ก ความหมายเล็ก ๆ ชีวเคมีเยอรมันและสรีรวิทยาของเซลล์อ็อตโตวอร์เบิร์กเฮ็นได้รับรางวัลกับรางวัลโนเบลสรีรวิทยาหรือการแพทย์ในปี 1931 สำหรับการวิจัยของเขาเกี่ยวกับการหายใจของเซลล์ยังศึกษาการสังเคราะห์แสงในคลอเรลล่า ในปี 1961, เมลวินคาลวินจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีสำหรับงานวิจัยของเขาบนทางเดินของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ดูดซึมในพืชโดยใช้คลอเรลล่า.
หลายคนเชื่อ Chlorella สามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งที่มีศักยภาพของอาหารและพลังงานเพราะประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสงของมันสามารถ ในทางทฤษฎีถึง 8% [2] ซึ่งเกินกว่าที่ของพืชที่มีประสิทธิภาพสูงอื่น ๆ เช่นอ้อย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Chlorella เป็นสกุลของสาหร่ายสีเขียวเซลล์เดียวที่อยู่ในไฟลัม Chlorophyta . มันเป็นทรงกลมในรูปร่าง ประมาณ 2 ถึง 10 μเมตรในเส้นผ่าศูนย์กลางและไม่มีแฟลเจลลา . สาหร่ายมีสีเขียวและสีคลอโรฟิลล์สังเคราะห์แสง - B ในคลอ . ผ่านการสังเคราะห์แสง มันเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว โดยไดออกไซด์ คาร์บอนน้ำ แสงแดด และจำนวนเล็ก ๆของแร่ธาตุที่จะทำซ้ำ [ 1 ]ชื่อสาหร่ายมาจากภาษากรีกχλώρος chloros , ความหมาย , สีเขียว , และภาษาละตินแคระต่อท้ายเอลล่า ความหมายเล็ก ๆ นักชีวเคมีชาวเยอรมันและเซลล์ลงทะเบียนลิขสิทธิ์ตโต วอร์เบิร์กได้รับรางวัลกับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ในปี 1931 เพื่อการวิจัยของเขาในการหายใจของเซลล์ นอกจากนี้ยังได้ศึกษาการสังเคราะห์แสงในสาหร่าย ในปี 1961 , เมลวิน คาลวิน ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีสำหรับการวิจัยของเขาบนเส้นทางของการใช้คาร์บอนไดออกไซด์ในพืช สาหร่ายหลายคนเชื่อว่าสาหร่ายเป็นแหล่งที่มีศักยภาพของอาหารและพลังงาน เพราะประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสงของสามารถในทางทฤษฎีถึง 8 % [ 2 ] ซึ่งเกินกว่าที่ของพืชที่มีประสิทธิภาพสูงอื่น ๆ เช่น อ้อย