Functions of magnesiumMagnesium is

Functions of magnesium

Magnesium is the second most abundant intracellular cation and has a vital role in a range of biochemical and physiological processes . Magnesium helps stabilize ATP by binding to the phosphate groups of this molecule. In fact, magnesium is required by more than 300 enzymes that utilize ATP, including those required for energy metabolism , muscle contraction, and protein synthesis. A magnesium-dependent enzyme system pumps sodium out of cell and potassium into cell-this process seems especially sensitive to magnesium deficiency. Magnesium also is needed for DNA and RNA synthesis . It's in calcium metabolism contributes to bone structure and mineralization . Magnesium also important for nerve transmission , heart and smooth muscle contraction, and glucose and insulin metabolism . Research suggests the diets high in magnesium-rich foods may help protect against Metabolic Syndrome and diabetes by improving insulin action . Other possible benefits of magnesium include decreasing blood pressure by dilating arteries, preventing heat rhythm abnormalities, and protecting against gallstone formation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หน้าที่ของแมกนีเซียมแมกนีเซียมเป็น cation intracellular สองมากที่สุด และมีบทบาทสำคัญในช่วงของกระบวนการชีวเคมี และสรีรวิทยา แมกนีเซียมช่วยอยู่ดี ATP โดยรวมกับกลุ่มฟอสเฟตของโมเลกุลนี้ ในความเป็นจริง แมกนีเซียมต้องการเอนไซม์มากกว่า 300 ใช้ ATP รวมทั้งจำเป็นสำหรับการเผาผลาญพลังงาน การหดตัวของกล้ามเนื้อ และการสังเคราะห์โปรตีน โซเดียมปั๊มระบบแมกนีเซียมขึ้นอยู่กับเอนไซม์ออกจากเซลล์และโพแทสเซียมเป็นกระบวนการที่เซลล์นี้ดูจะอ่อนไหวโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ขาดแมกนีเซียม แมกนีเซียมยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์ดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอ มีแคลเซียมเมแทบอลิซึมรวมโครงสร้างกระดูกและ mineralization แมกนีเซียมยังมีความสำคัญต่อการส่งผ่านเส้นประสาท หัวใจและกล้ามเนื้อเรียบหดตัว และเผาผลาญน้ำตาลกลูโคสและอินซูลิน งานวิจัยแนะนำอาหารที่มีอาหารอุดมไปด้วยแมกนีเซียมสูงอาจช่วยป้องกันกลุ่มอาการเผาผลาญและโรคเบาหวาน โดยการปรับปรุงการดำเนินการของอินซูลิน ประโยชน์อื่น ๆ เป็นไปได้ของแมกนีเซียมรวมถึงลดความดันโลหิต โดยหลอดเลือดแดง dilating ป้องกันความผิดปกติของจังหวะความร้อน และป้องกันการก่อตัวของนิ่ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟังก์ชั่นของแมกนีเซียมแมกนีเซียมเป็นไอออนในเซลล์ที่มีมากที่สุดที่สองและมีบทบาทสำคัญในช่วงของกระบวนการทางชีวเคมีและสรีรวิทยา แมกนีเซียมช่วยรักษาเสถียรภาพของเอทีพีโดยผูกพันกับกลุ่มฟอสเฟตของโมเลกุลนี้ ในความเป็นจริงแมกนีเซียมเป็นสิ่งจำเป็นโดยกว่า 300 เอนไซม์ที่ใช้เอทีพีรวมถึงผู้ที่จำเป็นสำหรับการเผาผลาญพลังงาน, การหดตัวของกล้ามเนื้อและการสังเคราะห์โปรตีน ระบบการทำงานของเอนไซม์แมกนีเซียมขึ้นอยู่กับปั๊มโซเดียมออกจากเซลล์และโพแทสเซียมในกระบวนการเซลล์นี้ดูเหมือนว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งไวต่อการขาดแมกนีเซียม แมกนีเซียมยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์ DNA และ RNA มันอยู่ในการเผาผลาญแคลเซี่ยมก่อให้เกิดโครงสร้างกระดูกและแร่ แมกนีเซียมยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการส่งผ่านเส้นประสาทหัวใจและการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบและกลูโคสอินซูลินและการเผาผลาญ วิจัยชี้ให้เห็นอาหารที่สูงในอาหารที่อุดมด้วยแมกนีเซียมอาจช่วยป้องกันการเมตาบอลิซินโดรมและโรคเบาหวานโดยการปรับปรุงการดำเนินการของอินซูลิน ผลประโยชน์ที่เป็นไปได้อื่น ๆ ของแมกนีเซียมรวมถึงการลดความดันโลหิตโดยการขยายหลอดเลือด, การป้องกันความผิดปกติของจังหวะความร้อนและป้องกันการก่อตัวของนิ่ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทบาทของแมกนีเซียม

แมกนีเซียมเป็นสองส่วนใหญ่มากมายในเซลล์ และมีบทบาทสำคัญในช่วงของกระบวนการทางชีวเคมี และสรีรวิทยา . แมกนีเซียม ช่วยเพิ่ม ATP โดยผูกกับฟอสเฟตกลุ่มของโมเลกุลนี้ ในความเป็นจริง , แมกนีเซียมเป็นสิ่งจำเป็นมากกว่า 300 เอนไซม์ที่ใช้ ATP รวมทั้งผู้ที่จำเป็นสำหรับการเผาผลาญพลังงานในการหดตัวของกล้ามเนื้อและสังเคราะห์โปรตีน โซเดียม แมกนีเซียม ขึ้นอยู่กับระบบเอนไซม์ที่ปั๊มออกมาและโพแทสเซียมเข้าสู่เซลล์โดยกระบวนการนี้น่าจะแพ้ขาดแมกนีเซียม แมกนีเซียมยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์ DNA และ RNA มันอยู่ในการเผาผลาญแคลเซียมมีส่วนช่วยในโครงสร้างกระดูก และอุตรดิตถ์ แมกนีเซียมยังสำคัญสำหรับการส่งผ่านประสาท หัวใจ และการหดตัวของกล้ามเนื้อ เรียบและกลูโคสในเลือดและการเผาผลาญอินซูลิน งานวิจัยชี้ว่าอาหารสูงในอาหารที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียมอาจช่วยป้องกันโรคเมตาบอลิก และโรคเบาหวาน โดยการปรับปรุงอินซูลิน การกระทำ ประโยชน์ของแมกนีเซียมที่เป็นไปได้อื่น ๆรวมถึงลดความดันโลหิตโดยการขยายหลอดเลือด ป้องกันความผิดปกติของจังหวะความร้อน และป้องกันการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี .