According to Bernard Marr (2005), t

According to Bernard Marr (2005), the origin of the term IC dates back to 1836, when
the scholar Nassau William Senior (1836) pointed out the IC as an important
productivity factor. In the late 1950s, Peter Drucker (1959) stigmatized the importance
of knowledge as a resource of organizations, and Penrose (1959), in her important work
The Theory of the Growth of the Firm, pointed to the business organizations as a
“collection of resources, divided into physical assets and human capital, in turn, formed
by skills and know-how, all tied together by an administrative framework”.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตาม Marr เบอร์นาร์ด (2005), มาของคำว่า IC ย้อนไปเมื่อ 1836 เมื่อนักวิชาการอาวุโสนัสวิลเลียม (1836) ชี้ให้เห็น IC สำคัญปัจจัยการผลิต ในปลายปี 1950, Peter Drucker (1959) stigmatized ความสำคัญความรู้เป็นทรัพยากรขององค์กร และ Penrose (1959), ในงานสำคัญของเธอทฤษฎีของการเติบโตของบริษัท ชี้ไปที่องค์กรธุรกิจเป็นการ"คอลเลกชันของทรัพยากร แบ่งทรัพย์สินทางกายภาพและทุนมนุษย์ ในทางกลับกัน เกิดขึ้นโดยทักษะและความรู้ ทาสทั้งหมด โดยมีกรอบการดูแล]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตามที่เบอร์นาร์ด Marr (2005) ที่มาของคำว่า IC วันที่กลับไป 1836 เมื่อ
นักวิชาการนัสซอวิลเลียมอาวุโส (1836) ชี้ให้เห็น IC เป็นสำคัญ
ปัจจัยการผลิต ในช่วงปลายปี 1950, ปีเตอร์ดรักเกอร์ (1959) ประทับตราสำคัญ
ของความรู้ที่เป็นทรัพยากรขององค์กรและเพนโรส (1959) ในการทำงานที่สำคัญของเธอ
ทฤษฎีของการเจริญเติบโตของ บริษัท ที่ชี้ไปที่องค์กรธุรกิจเป็น
"คอลเลกชันของ ทรัพยากรแบ่งออกเป็นสินทรัพย์ทางกายภาพและทุนมนุษย์ในที่สุดก็เกิดขึ้น
โดยทักษะและความรู้ทั้งหมดที่เชื่อมโยงกันโดยกรอบการบริหาร "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตามเบอร์นาร์ด มาร์ ( 2005 ) , ที่มาของชื่อ IC วันที่กลับไป 1836 เมื่อนักวิชาการนัสซอวิลเลียมอาวุโส ( 1836 ) ชี้ IC เป็นสำคัญปัจจัยผลผลิต ในปลายปี 1950 , ปีเตอร์ ดรักเกอร์ ( 1959 ) stigmatized ความสำคัญความรู้เป็นทรัพยากรขององค์กร และเพนโรส ( 1959 ) ในงานที่สำคัญของเธอทฤษฎีของ บริษัท ชี้องค์กรธุรกิจเป็น" คอลเลกชันของทรัพยากรแบ่งเป็นทรัพย์สิน และทุนของมนุษย์ ในการเปิดขึ้นทักษะและความรู้ที่เชื่อมโยงทั้งหมดเข้าด้วยกันโดยกรอบ " บริหาร