1) พอลีแลคติคแอซิด (Polylactic Acid

1) พอลีแลคติคแอซิด (Polylactic Acid) หรือ PLA วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต Polylactic Acid (PLA) คือแป้งที่มาจากทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นใหม่ได้ (renewable resource) ซึ่งได้แก่พืชที่มีแป้งเป็นองค์ประกอบหลัก เช่น ข้าวโพด และมันสำปะหลัง โดยมีกระบวนการผลิตเริ่มต้นจากการบดหรือโม่พืชนั้นให้ละเอียดเป็นแป้ง จากนั้นทำการย่อยแป้งให้ได้เป็นน้ำตาล และนำไปหมัก (fermentation)ด้วยจุลินทรีย์เกิดเป็น Lactic Acid ซึ่งมีกรรมวิธีคล้ายกับการหมักเบียร์ จากนั้นนำ Lactic Acid ที่ได้มาผ่านกระบวนการทางเคมี เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างให้เป็นสารใหม่ที่มีโครงสร้างทางเคมีเป็นวงแหวนเรียกว่า lactide หลังจากนั้นนำมากลั่นในระบบสุญญากาศเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างได้เป็นโพลิเมอร์ของ lactide ที่เป็นสายยาวขึ้นเรียกว่า Polylactic Acid (PLA) ซึ่งการกำหนดความยาวของสายโพลิเมอร์ให้ได้ตามที่ต้องการจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณสมบัติของ PLA เปลี่ยนไปตามลักษณะการใช้งาน ทั้งนี้ PLA สามารถนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกได้เช่นเดียวกับเม็ดพลาสติกจากปิโตรเลียม อีกทั้ง PLA ยังมีคุณสมบัติพิเศษคือมีความใส ไม่ย่อยสลายในสภาพแวดล้อมทั่วไป แต่สามารถย่อยสลายได้เองเมื่อนำไปฝังกลบในดิน

2) พอลีไฮดรอกซีอัลคาโนเอท (Polyhydroxyalkanoates) หรือ PHAs เป็นสารพอลีเมอร์ตั้งต้นที่สามารถนำมาใช้ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้โดยบริษัท Metabolix Inc. ประเทศสหรัฐอเมริกาได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิต PHAs ได้ในระดับอุตสาหกรรม วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต Polyhydroxyalkanoates (PHAs) คือ แป้งหรือน้ำตาลที่มาจากทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นใหม่ได้ (renewable resource) ซึ่งได้แก่ พืชที่มีแป้งหรือน้ำตาลเป็นองค์ประกอบหลัก เช่น ข้าวโพด มันสำปะหลังและอ้อย เป็นต้น โดยมีกระบวนการผลิตเริ่มต้นจากการบดหรือโม่พืชนั้นให้ละเอียดเป็นแป้ง จากนั้นทำการย่อยแป้งให้ได้เป็นน้ำตาล และนำไปหมัก (fermentation) ด้วยจุลินทรีย์ชนิดพิเศษชื่อ Eschericia Coli ซึ่งกินน้ำตาลเป็นอาหาร และสามารถเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีของน้ำตาลภายในตัวจุลินทรีย์เองเป็น PHAs ซึ่งสามารถแยกออกมาได้โดยการกะเทาะแยกเปลือกนอกหุ้มจุลินทรีย์ออก เนื่องจาก PHAs มีช่วงอุณหภูมิในการหลอมเหลว (Tm) ที่กว้างตั้งแต่ 50 – 180 °C จึงทำให้มีคุณสมบัติในการนำไปเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์พลาสติกได้หลากหลาย เช่น การขึ้นรูปเป็นฟิล์ม การฉีดและการเป่า

3) โพรเพนไดออล Propanediol (PDO) สำหรับผลิตเส้นใยชีวภาพสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอ (Bio-Fiber : SoronaTM) PDO เป็นสารเคมีตั้งต้น (monomer) อีกชนิดหนึ่งซึ่งผลิตขึ้นโดยอาศัยแป้งจากทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นใหม่ได้ เช่น ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ซึ่งกระบวนการผลิตจะคล้ายกับการผลิต PLA โดยเริ่มจากการย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาล และทำการใช้สารเร่งปฏิกิริยาชนิดชีวภาพ (biocatalyst) เพื่อเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็น PDO ซึ่งสามารถนำไปเป็นสารตั้งต้นในการผลิตเส้นใยชีวภาพที่เรียกว่า SoronaTM ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของบริษัท ดูปองท์ สหรัฐอเมริกา โดยเส้นใย SoronaTM นี้มีคุณสมบัติยืดหยุ่นได้ดี มีความอ่อนนุ่ม แห้งได้เร็ว และสามารถย้อมติดสีได้ดี หากแต่ในปัจจุบันด้วยคุณสมบัติทางโมเลกุลของพอลิเมอร์ที่มีขนาดใหญ่จึงทำให้เส้นใย SoronaTM ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามเส้นใย SoronaTM เป็นวัสดุชนิดใหม่ที่เกิดจากการใช้วัตถุดิบธรรมชาติที่สามารถเกิดทดแทนได้อีกชนิดหนึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1) พอลีแลคติคแอซิด (กรดเกิดสารประกอบเชิงซ้อน) หรือปลาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตกรดเกิดสารประกอบเชิงซ้อน (ปลา) คือแป้งที่มาจากทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นใหม่ได้ (ทดแทนทรัพยากร) ซึ่งได้แก่พืชที่มีแป้งเป็นองค์ประกอบหลักเช่นข้าวโพดและมันสำปะหลังโดยมีกระบวนการผลิตเริ่มต้นจากการบดหรือโม่พืชนั้นให้ละเอียดเป็นแป้งจากนั้นทำการย่อยแป้งให้ได้เป็นน้ำตาลและนำไปหมัก (หมัก) ด้วยจุลินทรีย์เกิดเป็นกรดซึ่งมีกรรมวิธีคล้ายกับการหมักเบียร์จากนั้นนำกรดที่ได้มาผ่านกระบวนการทางเคมีเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างให้เป็นสารใหม่ที่มีโครงสร้างทางเคมีเป็นวงแหวนเรียกว่า lactide หลังจากนั้นนำมากลั่นในระบบสุญญากาศเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างได้เป็นโพลิเมอร์ของ lactide ที่เป็นสายยาวขึ้นเรียกว่ากรดเกิดสารประกอบเชิงซ้อน (ปลา) ซึ่งการกำหนดความยาวของสายโพลิเมอร์ให้ได้ตามที่ต้องการจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณสมบัติของปลาเปลี่ยนไปตามลักษณะการใช้งานทั้งนี้ปลาสามารถนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกได้เช่นเดียวกับเม็ดพลาสติกจากปิโตรเลียมอีกทั้งปลายังมีคุณสมบัติพิเศษคือมีความใสไม่ย่อยสลายในสภาพแวดล้อมทั่วไปแต่สามารถย่อยสลายได้เองเมื่อนำไปฝังกลบในดิน2) พอลีไฮดรอกซีอัลคาโนเอท (Polyhydroxyalkanoates) หรือ PHAs เป็นสารพอลีเมอร์ตั้งต้นที่สามารถนำมาใช้ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้โดยบริษัท Metabolix Inc. ประเทศสหรัฐอเมริกาได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิต PHAs ได้ในระดับอุตสาหกรรมวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต Polyhydroxyalkanoates (PHAs) คือแป้งหรือน้ำตาลที่มาจากทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นใหม่ได้ (ทดแทนทรัพยากร) ซึ่งได้แก่พืชที่มีแป้งหรือน้ำตาลเป็นองค์ประกอบหลักเช่นข้าวโพดมันสำปะหลังและอ้อยเป็นต้นโดยมีกระบวนการผลิตเริ่มต้นจากการบดหรือโม่พืชนั้นให้ละเอียดเป็นแป้งจากนั้นทำการย่อยแป้งให้ได้เป็นน้ำตาลและนำไปหมัก (หมัก) ด้วยจุลินทรีย์ชนิดพิเศษชื่อ Eschericia Coli ซึ่งกินน้ำตาลเป็นอาหารและสามารถเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีของน้ำตาลภายในตัวจุลินทรีย์เองเป็น PHAs ซึ่งสามารถแยกออกมาได้โดยการกะเทาะแยกเปลือกนอกหุ้มจุลินทรีย์ออกเนื่องจาก PHAs มีช่วงอุณหภูมิในการหลอมเหลว (Tm) ที่กว้างตั้งแต่ 50-180 ° C จึงทำให้มีคุณสมบัติในการนำไปเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์พลาสติกได้หลากหลายเช่นการขึ้นรูปเป็นฟิล์มการฉีดและการเป่า3) สำหรับผลิตเส้นใยชีวภาพสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอ Propanediol (PDO) โพรเพนไดออล (ไบโอไฟเบอร์: SoronaTM) PDO เป็นสารเคมีตั้งต้น (น้ำยา) อีกชนิดหนึ่งซึ่งผลิตขึ้นโดยอาศัยแป้งจากทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นใหม่ได้เช่นข้าวโพดและมันสำปะหลังซึ่งกระบวนการผลิตจะคล้ายกับการผลิตปลาโดยเริ่มจากการย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาลและทำการใช้สารเร่งปฏิกิริยาชนิดชีวภาพ (biocatalyst) เพื่อเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็น PDO ซึ่งสามารถนำไปเป็นสารตั้งต้นในการผลิตเส้นใยชีวภาพที่เรียกว่า SoronaTM ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของบริษัทดูปองท์สหรัฐอเมริกาโดยเส้นใย SoronaTM นี้มีคุณสมบัติยืดหยุ่นได้ดีมีความอ่อนนุ่มแห้งได้เร็วและสามารถย้อมติดสีได้ดีหากแต่ในปัจจุบันด้วยคุณสมบัติทางโมเลกุลของพอลิเมอร์ที่มีขนาดใหญ่จึงทำให้เส้นใย SoronaTM ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติอย่างไรก็ตามเส้นใย SoronaTM เป็นวัสดุชนิดใหม่ที่เกิดจากการใช้วัตถุดิบธรรมชาติที่สามารถเกิดทดแทนได้อีกชนิดหนึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1) พอลีแลคติคแอซิด (Polylactic Acid) หรือ PLA วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต Polylactic Acid (PLA) (ทรัพยากรหมุนเวียน) เช่นข้าวโพดและมันสำปะหลัง และนำไปหมัก (หมัก) ด้วยจุลินทรีย์เกิดเป็นกรดแลคติก จากนั้นนำกรดแลคติกที่ได้มาผ่านกระบวนการทางเคมี lactide lactide ที่เป็นสายยาวขึ้นเรียกว่า Polylactic Acid (PLA) ปลาเปลี่ยนไปตามลักษณะการใช้งานทั้งนี้ปลา อีกทั้งปลายังมีคุณสมบัติพิเศษคือมีความใสไม่ย่อยสลายในสภาพแวดล้อมทั่วไป พอลีไฮดรอกซีอัลคาโนเอท (polyhydroxyalkanoates) หรือ PHAs Metabolix Inc. PHAs ได้ในระดับอุตสาหกรรมวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต polyhydroxyalkanoates (PHAs) คือ (ทรัพยากรหมุนเวียน) ซึ่ง ได้แก่ เช่นข้าวโพดมันสำปะหลังและอ้อยเป็นต้น และนำไปหมัก (หมัก) ด้วยจุลินทรีย์ชนิดพิเศษชื่อ Eschericia ไลซึ่งกินน้ำตาลเป็นอาหาร PHAs เนื่องจาก PHAs มีช่วงอุณหภูมิในการหลอมเหลว (TM) ที่กว้างตั้งแต่ 50-180 องศาเซลเซียส เช่นการขึ้นรูปเป็นฟิล์มการฉีดและการเป่า3) โพรเพนไดออลโพรเพน (PDO) (Bio-ไฟเบอร์: SoronaTM) PDO เป็นสารเคมีตั้งต้น (โมโนเมอร์) เช่นข้าวโพดและมันสำปะหลัง ปลา (สารเร่ง) เพื่อเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็น PDO SoronaTM ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของ บริษัท ดูปองท์สหรัฐอเมริกาโดยเส้นใย SoronaTM นี้มีคุณสมบัติยืดหยุ่นได้ดีมีความอ่อนนุ่มแห้งได้เร็วและสามารถย้อมติดสีได้ดี SoronaTM ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติอย่างไรก็ตามเส้นใย SoronaTM

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 ) พอลีแลคติคแอซิดค็อค PLA ( Polylactic acid ) วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต Polylactic acid ( PLA ) คือแป้งที่มาจากทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นใหม่ได้ ( ทรัพยากรทดแทน ) ซึ่งได้แก่พืชที่มีแป้งเป็นองค์ประกอบหลักเช่นและมันสำปะหลัง cauliflowerจากนั้นทำการย่อยแป้งให้ได้เป็นน้ำตาลและนำไปหมัก ( การหมัก ) ด้วยจุลินทรีย์เกิดเป็นซึ่งมีกรรมวิธีคล้ายกับการหมักเบียร์จากนั้นนำที่ได้มาผ่านกระบวนการทางเคมีกรดแลคติกกรดแลกติกซึ่งหลังจากนั้นนำมากลั่นในระบบสุญญากาศเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างได้เป็นโพลิเมอร์ของซึ่งที่เป็นสายยาวขึ้นเรียกว่า Polylactic acid ( PLA )ปลาเปลี่ยนไปตามลักษณะการใช้งานทั้งนี้ปลาสามารถนำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกได้เช่นเดียวกับเม็ดพลาสติกจากปิโตรเลียมอีกทั้งปลายังมีคุณสมบัติพิเศษคือมีความใสไม่ย่อยสลายในสภาพแวดล้อมทั่วไป
2 ) พอลีไฮดรอกซีอัลคาโนเอท ( polyhydroxyalkanoates ) ค็อคยังเป็นสารพอลีเมอร์ตั้งต้นที่สามารถนำมาใช้ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้โดยบริษัท Metabolix Incประเทศสหรัฐอเมริกาได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตยังได้ในระดับอุตสาหกรรมวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต polyhydroxyalkanoates ( ยัง ) ความแป้งหรือน้ำตาลที่มาจากทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดขึ้นใหม่ได้ ( ทรัพยากรทดแทน ) ซึ่งได้แก่เช่น cauliflower มันสำปะหลังและอ้อยเป็นต้นโดยมีกระบวนการผลิตเริ่มต้นจากการบดหรือโม่พืชนั้นให้ละเอียดเป็นแป้งจากนั้นทำการย่อยแป้งให้ได้เป็นน้ำตาลและนำไปหมัก ( การหมัก ) ด้วยจุลินทรีย์ชนิดพิเศษชื่อเชอริเชีย โคไลและสามารถเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีของน้ำตาลภายในตัวจุลินทรีย์เองเป็นยังซึ่งสามารถแยกออกมาได้โดยการกะเทาะแยกเปลือกนอกหุ้มจุลินทรีย์ออกเนื่องจากยังมีช่วงอุณหภูมิในการหลอมเหลว ( TM ) ที่กว้างตั้งแต่ 180 ° C ( 50เช่นการขึ้นรูปเป็นฟิล์มการฉีดและการเป่า