The network layer will be IP (Inter

The network layer will be IP (Internet Protocol),
because there is no competition today on this level. The IPv4
(version 4) is worldwide spread and it has several problems
such as limited address space and has no real possibility for
QoS support per flow. These issues are solved in IPv6, but
traded with significantly bigger packet header. Then, mobility
still remains a problem. There is Mobile IP standard on one
side as well as many micro-mobility solutions (e.g., Cellular
IP, HAWAII etc.). All mobile networks will use Mobile IP in
5G, and each mobile terminal will be FA (Foreign Agent),

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชั้นเครือข่ายจะมี IP (Internet Protocol),เนื่องจากไม่แข่งขันวันนี้ในระดับนี้ได้ ใน IPv4(รุ่น 4) ระบาดไปทั่วโลก และมันมีปัญหาหลายอย่างเช่นจำกัดพื้นที่ และมีความไม่จริงสำหรับQoS สนับสนุนต่อกระแส ปัญหาเหล่านี้มีแก้ไขใน IPv6 แต่ซื้อขายกับส่วนหัวแพคเก็ตใหญ่อย่างมีนัยสำคัญ ความคล่องตัวแล้วยังคงปัญหา มีอยู่ IP เคลื่อนมาตรฐานหนึ่งด้านและหลายไมโครจ่ายกระแส (เช่น โทรศัพท์มือถือIP ฮาวายฯลฯ) เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมดจะใช้ IP ในมือถือใน5 กรัม และแต่ละเทอร์มินัลเคลื่อนจะเป็น FA (ต่างประเทศแทน),

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เลเยอร์เครือข่ายจะเป็นไอพี (Internet Protocol)
เพราะไม่มีการแข่งขันในวันนี้ในระดับนี้ IPv4
(รุ่น 4) จะถูกกระจายไปทั่วโลกและก็มีปัญหาหลายประการ
เช่นพื้นที่ที่อยู่ จำกัด และไม่มีความเป็นไปได้จริงสำหรับ
การสนับสนุน QoS ต่อการไหล ปัญหาเหล่านี้จะแก้ไขได้ใน IPv6 แต่
แลกกับส่วนหัวของแพ็กเก็ตที่ใหญ่กว่าอย่างมีนัยสำคัญ จากนั้นการเคลื่อนไหว
ยังคงเป็นปัญหา มีมาตรฐานไอพีมือถือที่หนึ่ง
ด้านเช่นเดียวกับโซลูชั่นไมโครเคลื่อนไหวจำนวนมาก (เช่นโทรศัพท์มือถือ
ไอพี, HAWAII อื่น ๆ ) เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกอย่างจะใช้ไอพีมือถือใน
5G และแต่ละสถานีเคลื่อนที่จะเป็นเอฟเอ (ตัวแทนในต่างประเทศ)