The final rule in solving Shapedoku

The final rule in solving Shapedoku puzzles is an extremely important one: The name that is listed is the most specific name that can be used to describe that shape. For example, a square shape would be listed as a square and not as a rhombus, parallelogram, rectangle, or quadrilateral. And a shape that is listed as an isosceles triangle must have exactly two sides of the same length and cannot contain a right angle (it would then be called an isosceles right triangle).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กฎขั้นสุดท้ายในการแก้ปริศนา Shapedoku เป็นการสำคัญมาก: ชื่อที่อยู่เป็นชื่อส่วนใหญ่ที่ใช้เพื่ออธิบายรูปร่างนั้น ตัวอย่าง รูปสี่เหลี่ยมจะถูกแสดงรายการ เป็นสี่เหลี่ยม และไม่ เป็นบัส สี่เหลี่ยมด้านขนาน สี่เหลี่ยม quadrilateral และรูปที่แสดงไว้เป็นสามเหลี่ยมหน้าจั่วต้องมีความยาวสองด้าน และไม่ประกอบด้วยฉาก (มันจะแล้วจะเรียกว่าเป็นสามเหลี่ยมมุมฉากหน้าจั่วทรง)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กฎสุดท้ายในการแก้ปริศนา Shapedoku เป็นหนึ่งที่สำคัญมาก: ชื่อที่ระบุไว้เป็นชื่อที่เฉพาะเจาะจงมากที่สุดที่สามารถนำมาใช้ในการอธิบายถึงรูปร่างที่ ตัวอย่างเช่นรูปทรงสี่เหลี่ยมจะได้รับการระบุว่าเป็นตารางและไม่เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน, สี่เหลี่ยมด้านขนานสี่เหลี่ยมหรือรูปสี่เหลี่ยม และรูปร่างที่ถูกระบุว่าเป็นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วว่าต้องมีทั้งสองด้านของระยะเวลาเดียวกันและไม่สามารถมีมุมขวา (มันก็จะถูกเรียกว่าสามเหลี่ยมมุมฉากหน้าจั่ว)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กฎข้อสุดท้ายในการแก้ปริศนา shapedoku เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง : ชื่อที่แสดงคือชื่อที่เฉพาะเจาะจงมากที่สุดที่สามารถใช้เพื่ออธิบายว่ารูปร่าง ตัวอย่างเช่น รูปทรงสี่เหลี่ยม จะแสดงเป็นสี่เหลี่ยม และไม่ได้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน นักสิทธิ์ สี่เหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยม .และรูปที่แสดงไว้เป็นรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วต้องตรงสองข้างของความยาวเดียวกันและไม่สามารถมีมุมขวา ( มันก็จะเรียกว่าเป็นสามเหลี่ยมมุมฉากหน้าจั่ว )