Radiation therapy for childhood leu

Radiation therapy for childhood leukemia
Radiation therapy uses high-energy radiation to kill cancer cells. It is not always needed
to treat leukemia, but it can be used in different situations:
· It is sometimes used to try to prevent or treat the spread of leukemia to the brain or
treat the testicles if they are involved by leukemia cells.
· It can be used (rarely) to treat a tumor that is pressing on the trachea (windpipe). But
chemotherapy is often used instead, as it may work more quickly.
· Radiation to the whole body is often an important part of treatment before a bone
marrow or peripheral blood stem cell transplant (see the section “High-dose
chemotherapy and stem cell transplant”).
External beam radiation therapy, in which a machine delivers a beam of radiation to a
specific part of the body, is the type of radiation used most often for childhood leukemia.
Before treatment starts, the radiation team will take careful body measurements to
determine the correct angles for aiming the radiation beams and the proper dose of
radiation.
The treatment itself is much like getting an x-ray, but the radiation is more intense. It is
painless, but some younger children may need to be sedated to make sure they don’t
move during the treatment. Each treatment lasts only a few minutes, although the setup
time – getting your child into place for treatment – usually takes longer.
Possible side effects of radiation
The possible short-term side effects depend on where the radiation is aimed. Sunburn-like
skin changes and hair loss in the treated area are possible. Radiation to the abdomen can
sometimes cause nausea, vomiting, or diarrhea. For radiation that includes large parts of
the body, the effects may include fatigue and an increased risk of infection.
Longer-term side effects are also possible and are described in the section “What happens
after treatment for childhood leukemia?”
More information on radiation therapy can be found in the Radiation Therapy section of
our website, or in our document Understanding Radiation Therapy: A Guide for Patients
and Families.
Chemotherapy for childhood leukemia
Chemotherapy (chemo) is the main treatment for nearly all childhood leukemias. This is
treatment with anti-cancer drugs that are given into a vein, into a muscle, into the
cerebrospinal fluid (CSF), or taken as pills. Except when given into the CSF, chemo
drugs enter the bloodstream and reach all areas of the body, making this treatment very
useful for cancers such as leukemia.
The treatment of leukemia uses combinations of several chemo drugs. Doctors give
chemo in cycles, with each period of treatment followed by a rest period to give the body
time to recover. In general, treatment for acute myeloid leukemia (AML) uses higher
doses of chemo over a shorter period of time (usually less than a year), and acute
lymphocytic leukemia (ALL) treatment uses lower doses of chemo over a longer period
of time (usually 2 to 3 years).
Some of the drugs used to treat childhood leukemia include:
· Vincristine (Oncovin)
· Daunorubicin, also known as daunomycin (Cerubidine)
· Doxorubicin (Adriamycin)
· Cytarabine, also known as cytosine arabinoside or ara-C (Cytosar)
· L-asparaginase (Elspar), PEG-L-asparaginase (pegaspargase, Oncaspar)
· Etoposide (VePesid, others)
· Teniposide (Vumon)
· 6-mercaptopurine (Purinethol)
· 6-thioguanine
· Methotrexate
· Mitoxantrone
· Cyclophosphamide (Cytoxan)
· Prednisone
· Dexamethasone (Decadron, others)
Children will probably get several of these drugs at different times during the course of
treatment, but they do not get all of them.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รังสีรักษาสำหรับมะเร็งในวัยเด็กรังสีบำบัดใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง คือไม่จำเป็นเสมอการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว แต่มันสามารถใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ:· บางครั้งใช้เพื่อป้องกัน หรือรักษาการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังสมอง หรือรักษาลูกอัณฑะถ้าพวกเขาเกี่ยวข้อง โดยเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว· สามารถใช้ (ไม่ค่อย) ในการรักษาเนื้องอกที่กดที่หลอดลม (หลอดลม) แต่เคมีบำบัดมักจะใช้แทน อาจทำงานได้เร็วขึ้น· รังสีไปทั้งตัวมักจะเป็นส่วนสำคัญของการรักษาก่อนกระดูกไขหรือการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เลือด (ดูหัวข้อ "ปริมาณสูงเคมีบำบัดและสเต็มเซลล์ปลูก")รังสีของลำแสงภายนอก ที่เครื่องให้ลำรังสีเพื่อการเฉพาะส่วนของร่างกาย เป็นชนิดของรังสีที่ใช้บ่อยที่สุดสำหรับเด็กมะเร็งเม็ดเลือดขาวก่อนที่เริ่มการรักษา ทีมรังสีจะมีขนาดร่างกายระมัดระวังการกำหนดมุมที่ถูกต้องสำหรับเล็งลำแสงรังสีและปริมาณรังสีที่เหมาะสมของรังสีการรักษาตัวเองเป็นเหมือนการรับภาพ แต่รังสีที่จะรุนแรงมากขึ้น มันเป็นเจ็บปวด แต่บางอายุเด็กอาจต้องได้เงียบการตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ย้ายในระหว่างการรักษา รักษาแต่ละเวลาไม่เพียงกี่นาที แม้ว่าการตั้งค่าเวลารับเด็กเข้ารักษา – มักจะใช้เวลานานผลข้างเคียงได้รังสีผลข้างเคียงระยะสั้นได้พึ่งที่รังสีที่มีวัตถุประสงค์เพื่อ เหมือนผิวไหม้เปลี่ยนแปลงผิวและผมในการรักษาเป็นไปได้ สามารถแผ่รังสีไปในช่องท้องบางครั้งทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย สำหรับรังสีที่มีส่วนใหญ่ของร่างกาย ผลกระทบอาจรวมถึงความเมื่อยล้าและความเสี่ยงของการติดเชื้อผลข้างเคียงระยะยาวด้วย และอธิบายไว้ในส่วน "สิ่งที่เกิดขึ้นหลังการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัยเด็กหรือไม่"สามารถพบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาด้วยรังสีในการรักษาด้วยรังสีส่วนของเว็บไซต์ของเรา หรือ ในเอกสารความเข้าใจรังสี: กับคู่มือสำหรับผู้ป่วยและครอบครัวเคมีบำบัดสำหรับมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัยเด็กเคมีบำบัด (คีโม) เป็นการรักษาหลักสำหรับ leukemias เด็กเกือบทั้งหมด นี้เป็นการรักษา ด้วยยาที่ให้เข้าหลอดเลือดดำ เข้ากล้ามเนื้อ เป็น การไขสันหลัง (CSF), หรือนำมาเป็นยา ยกเว้นเมื่อเข้าน้ำไขสันหลัง คีโมป้อนสู่กระแสเลือด และเข้าถึงพื้นที่ทั้งหมดของร่างกาย การรักษาแบบนี้มากมีประโยชน์สำหรับโรคมะเร็งเช่นมะเร็งเม็ดเลือดขาวการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวใช้ผสมยาคีโมหลาย ให้แพทย์คีโมในรอบ แต่ละระยะเวลาของการรักษาตามเวลาพักเพื่อให้ร่างกายเวลาการกู้คืน ทั่วไป รักษาเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์มะเร็งเม็ดเลือดขาว (AML) ใช้ขึ้นปริมาณของคีโมมากกว่าสั้นกว่าช่วงเวลา (โดยปกติจะน้อยกว่าปี), และเฉียบพลันมะเร็งเม็ดเลือดขาว lymphocytic รักษา (ทั้งหมด) ใช้ปริมาณต่ำของคีโมเป็นเวลา (โดยปกติ 2-3 ปี)บางส่วนของยาที่ใช้ในการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัยเด็กรวมถึง:· Vincristine (Oncovin)· Daunorubicin หรือที่เรียกว่า daunomycin (Cerubidine)· Doxorubicin (Adriamycin)· Cytarabine เรียกว่าอดี arabinoside หรือ ara-C (Cytosar)· L-asparaginase (Elspar), PEG-L-asparaginase (pegaspargase, Oncaspar)· Etoposide (VePesid อื่น ๆ)· Teniposide (Vumon)· 6-mercaptopurine (Purinethol)· 6-thioguanine· Methotrexate· Mitoxantrone· Cyclophosphamide (Cytoxan)· Prednisone· Dexamethasone (Decadron อื่น ๆ)เด็กอาจจะได้รับของยาเหล่านี้ในเวลาที่ต่างกันระหว่างรักษา แต่พวกเขาไม่ได้ทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การรักษาด้วยรังสีสำหรับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัยเด็ก
การรักษาด้วยรังสีใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง มันไม่จำเป็นเสมอ
ในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว แต่ก็สามารถนำมาใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน:
·มันเป็นบางครั้งใช้ในการพยายามที่จะป้องกันหรือรักษาการแพร่กระจายของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวไปยังสมองหรือ
รักษาอัณฑะถ้าพวกเขามีส่วนร่วมโดยเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว.
·มัน สามารถนำมาใช้ (ไม่ค่อย) เพื่อรักษาเนื้องอกที่กดหลอดลม (หลอดลม) แต่
ยาเคมีบำบัดมักจะถูกนำมาใช้แทนขณะที่มันอาจจะทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น.
·รังสีต่อร่างกายทั้งมักจะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการรักษาก่อนที่กระดูก
ไขกระดูกหรือการปลูกถ่ายไขกระดูก (ดูส่วน "ขนาดสูง
ยาเคมีบำบัดและต้นกำเนิดการปลูกถ่ายเซลล์ ").
การรักษาด้วยรังสีแสงภายนอกซึ่งในเครื่องที่ให้ลำแสงของรังสีไปยัง
ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายที่เป็นชนิดของรังสีที่ใช้บ่อยที่สุดสำหรับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัยเด็ก.
ก่อนที่จะเริ่มการรักษาทีมรังสีจะใช้การวัดร่างกายระมัดระวังในการ
ตรวจสอบที่ถูกต้องสำหรับมุมเล็งคานการฉายรังสีและปริมาณที่เหมาะสมของ
การฉายรังสี.
การรักษาตัวเองเป็นเหมือนการได้รับการเอ็กซ์เรย์ แต่รังสีที่รุนแรงมากขึ้น มันเป็นความ
เจ็บปวด แต่บางเด็กเล็กอาจจะต้องมีการผ่อนคลายเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่
ย้ายในระหว่างการรักษา การรักษาแต่ละครั้งกินเวลาเพียงไม่กี่นาทีแม้จะติดตั้ง
เวลา - รับบุตรหลานของคุณในสถานที่สำหรับการรักษา - มักจะใช้เวลานาน.
ผลข้างเคียงที่เป็นไปได้ของการฉายรังสี
เป็นไปได้ที่ผลข้างเคียงระยะสั้นขึ้นอยู่กับที่การฉายรังสีที่มีวัตถุประสงค์เพื่อ ผิวไหม้เช่น
การเปลี่ยนแปลงของผิวและผมร่วงในพื้นที่ได้รับการรักษาที่เป็นไปได้ รังสีช่องท้องสามารถ
บางครั้งทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนหรือท้องเสีย สำหรับการฉายรังสีที่มีส่วนใหญ่ของ
ร่างกายผลกระทบที่อาจรวมถึงความเมื่อยล้าและเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อ.
ผลข้างเคียงในระยะยาวยังเป็นไปได้และมีการอธิบายไว้ในส่วน "สิ่งที่เกิดขึ้น
หลังการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัยเด็ก?"
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉายรังสี การบำบัดที่สามารถพบได้ในส่วนของการฉายรังสีบำบัดของ
เว็บไซต์ของเราหรือในเอกสารของเราทำความเข้าใจเกี่ยวกับการบำบัดด้วยการฉายรังสี: คู่มือสำหรับผู้ป่วย
. และครอบครัว
ยาเคมีบำบัดสำหรับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัยเด็กของ
ยาเคมีบำบัด (คีโม) เป็นหลักสำหรับการรักษาเกือบทั้งหมด leukemias วัยเด็ก นี่คือ
การรักษาด้วยยาต้านโรคมะเร็งที่จะได้รับเข้าไปในหลอดเลือดดำเข้าไปในกล้ามเนื้อลงไปใน
น้ำไขสันหลัง (CSF) หรือนำมาเป็นยา ยกเว้นเมื่อได้รับเข้าไปในน้ำไขสันหลัง, คีโม
ยาเสพติดเข้าสู่กระแสเลือดและเข้าถึงทุกพื้นที่ของร่างกายทำให้การรักษานี้มาก
มีประโยชน์สำหรับการเกิดโรคมะเร็งเช่นมะเร็งเม็ดเลือดขาว.
การรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวใช้การรวมกันของยาเสพติดหลายคีโม แพทย์ให้
คีโมในรอบกับช่วงเวลาของการรักษาตามระยะเวลาที่เหลือแต่ละคนเพื่อให้ร่างกาย
เวลาที่จะกู้คืน โดยทั่วไปการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน (AML) ใช้สูงกว่า
ยาเคมีบำบัดในช่วงระยะเวลาสั้นของเวลา (โดยปกติจะน้อยกว่าปี) และเฉียบพลัน
lymphocytic ลูคีเมีย (ทั้งหมด) การรักษาจะใช้ในปริมาณที่ต่ำกว่าของคีโมในระยะเวลานาน
ของเวลา ( . มักจะ 2-3 ปี)
บางส่วนของยาเสพติดที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัยเด็กรวมถึง:
· vincristine (Oncovin)
· daunorubicin ยังเป็นที่รู้จัก daunomycin (Cerubidine)
· Doxorubicin (Adriamycin)
· Cytarabine ยังเป็นที่รู้จัก arabinoside cytosine หรือ ara-C (Cytosar)
· L-แอสปารา (Elspar) PEG-L-แอสปารา (pegaspargase, Oncaspar)
· Etoposide (VePesid, อื่น ๆ )
· Teniposide (Vumon)
· 6 mercaptopurine (Purinethol)
· 6 thioguanine
· Methotrexate
· mitoxantrone
· Cyclophosphamide (Cytoxan)
· Prednisone
· dexamethasone (Decadron, อื่น ๆ )
เด็กอาจจะได้รับหลายของยาเสพติดเหล่านี้ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันในช่วงของ
การรักษา แต่พวกเขาไม่ได้รับทั้งหมดของพวกเขา