Archery – that is, the use of a str

Archery – that is, the use of a stringed bow to propel arrows towards a target – is thought to go back thousands of years – possibly even as far as the stone age of 20,000 BC – with bows and arrows used by numerous peoples over the millennia as a means of hunting and warfare. From the ancient Egyptians to the Shang dynasty of China (1766-1027 BC), Attila the Hun’s hordes to the great civilisations of the Assyrians, Persians and Pathians, archery was widely utilised.

The need to master archery – for huntsmen and soldiers alike – inevitably led to practising the art, which in turn led to organised tournaments, the first recorded event of which took place in Finsbury in England in 1583 and included 3000 participants. The development of guns caused archery to lose its appeal on the battlefield, but it remained popular as a pastime and regular competitions were held in various countries. Archery was first included as an Olympic sport in 1900 for men and 1904 for women – one of the earliest sports for female competitors – and then in 1908 and 1920, then dropping out for a few decades before being reintroduced in 1972, since when it has been a mainstay of the Games.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ยิงธนู – นั่นคือ การใช้ธนูเครื่องสายขับเคลื่อนลูกศรไปยังเป้าหมาย –เป็นความคิดที่ย้อนกลับไปหลายพันปี – อาจแม้เท่าอายุหิน 20000 BC – ริบและลูกศรที่ใช้ โดยคนจำนวนมากวัดวาอารามเป็นวิธีการล่าสัตว์และสงคราม จากชาวอียิปต์โบราณให้ราชวงศ์ซางของจีน (1766-1027 BC), Attila ฮุนของพยุหะกับอารยธรรมเอเซียนดี Assyrians, Persians และ Pathians ยิงธนูได้อย่างกว้างขวางใช้ต้องยิงธนูหลัก –การ huntsmen เหมือนทหาร – ย่อมนำไปสู่การฝึกศิลปะ ซึ่งจะนำไปสู่การแข่งขันผลัด บันทึกเหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้นที่ Finsbury ในอังกฤษใน 1583 และรวม 3000 คน ยิงธนูจะมีเสน่ห์ดึงดูดในสนามรบ การสูญเสียเกิดจากการพัฒนาปืน แต่ยังคงเป็นงานอดิเรกนิยม และแข่งขันปกติจัดให้มีขึ้นในประเทศต่าง ๆ ยิงธนูเป็นครั้งแรกเป็นการกีฬาโอลิมปิค ใน 1900 สำหรับผู้ชายและสำหรับผู้หญิง –หนึ่งของการกีฬาที่เร็วที่สุดสำหรับคู่แข่งหญิง – 1904 แล้วในค.ศ. 1908 และ 1920 ปล่อยออกมาในไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาก่อนการผลิตใหม่ในในปี 1972 ตั้งแต่เมื่อซ่าในเกม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยิงธนู - นั่นคือการใช้สายธนูลูกศรเพื่อขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย - เป็นความคิดที่จะกลับไปเป็นพัน ๆ ปี - อาจเป็นไปได้เท่าที่ยุคหิน 20,000 BC - กับคันธนูและลูกศรที่ใช้โดยผู้คนจำนวนมากมานานนับพันปี เป็นวิธีการล่าสัตว์และการสงคราม จากชาวอียิปต์โบราณราชวงศ์ชางของจีน (1766-1027 BC) อัตติลาพยุหะฮุนเพื่ออารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ของอัสซีเรียเปอร์เซียและ Pathians ยิงธนูที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย. จำเป็นที่จะโทยิงธนู - สำหรับล่าและทหารเหมือนกัน - อย่างหลีกเลี่ยงไม่นำไปสู่การฝึกศิลปะซึ่งจะนำไปสู่การจัดทัวร์นาเมนต์นี้เหตุการณ์บันทึกแรกที่เกิดขึ้นในฟินส์ในประเทศอังกฤษใน 1583 และ 3000 รวมถึงผู้เข้าร่วม การพัฒนาของปืนที่เกิดจากการยิงธนูที่จะสูญเสียอุทธรณ์ของในสนามรบ แต่มันก็ยังคงเป็นที่นิยมเป็นงานอดิเรกและการแข่งขันปกติถูกจัดขึ้นในประเทศต่างๆ ยิงธนูถูกรวมเป็นกีฬาโอลิมปิกในปี 1900 สำหรับผู้ชายและ 1904 สำหรับผู้หญิง - หนึ่งในกีฬาที่เก่าแก่ที่สุดสำหรับคู่แข่งหญิง - และจากนั้นในปี 1908 และ 1920 จากนั้นก็ปล่อยออกมาไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาก่อนที่จะถูกรับรู้ในปี 1972 เนื่องจากเมื่อมี รับเป็นแกนนำของเกม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยิงธนู–นั่นคือ ใช้เป็นสายธนูเพื่อขับเคลื่อนลูกศรไปยังเป้าหมายซึ่งเป็นความคิดที่จะกลับไปเป็นพัน ๆปีและอาจแม้เท่าที่หินอายุ 20 , 000 ก่อนคริสต์ศักราชและคันธนูและลูกศรที่ใช้โดยจำนวนมากของประชาชนกว่าพันปีเป็นวิธีการล่าสัตว์และสงคราม จากชาวอียิปต์โบราณกับราชวงศ์ซางของจีน ( พ.ศ. 1766-1027 )อัตติลา Hun พยุหะไปเป็นอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ของอัสซีเรีย , เปอร์เซียและ pathians ยิงธนูถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย .

ต้องต้นแบบยิงธนู–สำหรับคน และทหารเหมือนกัน ) ย่อมนำไปสู่การฝึกศิลปะ ซึ่งจะนำไปสู่การจัดทัวร์นาเมนต์แรกบันทึกเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นใน Finsbury ในอังกฤษใน 1244 รวม 3 , 000 คนการพัฒนาของปืน ทำให้ยิงธนูที่จะสูญเสียการอุทธรณ์ของสนามรบ แต่มันยังคงได้รับความนิยมเป็น งานอดิเรก และการแข่งขันปกติถูกจัดขึ้นในประเทศต่าง ๆ ยิงธนูเป็นครั้งแรกรวมเป็นกีฬาโอลิมปิกในปี 1900 สำหรับชายและหญิง 1904 –หนึ่งในที่สุดกีฬาหญิงคู่แข่ง–แล้ว 1900 และ 1920 ใน ,แล้วปล่อยออกมาไม่กี่ทศวรรษก่อนที่จะถูก reintroduced ในปี 1972 เมื่อได้รับอนุมัติของเกม