The identification of occupational

The identification of occupational groups at high risk of heavy drinking or alcohol-related disease has often brought forward
the selection hypothesis. It is stated that people do not allocate in occupations at random, and suggested that people vulnerable
or prone to high alcohol consumption may gather in occupations compatible with such practice (Brun-Gulbrandsen &
Irgens-Jensen, 1967; Hitz, 1973; Mensch & Kandel. 1988; Parker & Harford. 1992). thus influencing the associations between
occupation and alcohol consumption level (Mandell. Eaton. Anthony&Garrison, 1992). So far, only one longitudinal study
has shown that the drink trade did recruit more than its share of heavy drinkers, whose entry resulted in still higher levels of
consumption and related problems (Plant, 1978). The present study addresses the possible selection into the restaurant
business based on personality characteristics and its relation to heavy drinking.
Employees in the restaurant business have been identified as a group with a high alcohol consumption level and high
alcohol-related disease risk (Kjaerheim & Andersen, 1993; Mandell et ul., 1992; Parker & Harford, 1992; Plant, 1987). Studies
of restaurant employees have shown that heavy drinking is not directly associated with work stress, but rather strongly
associated with social modelling factors at the workplace (Kjrerheim. Mykletun. Aasland. Haldorsen & Anderson, 1995;
Kjaerheim, Mykletun, Aasland, Haldorsen & Anderson, submitted). Larsen (1994) found higher alcohol consumption among
students at a hotel management college as compared to other college students, indicative of self-selection processes occurring
in this group.
One possible selection factor may be personality characteristics. In the present study extraversion and neuroticism were
chosen as the relevant personality dimensions since they are two of the higher order dimensions repeatedly found in
personality studies (Eysenck & Eysenck, 1985; Zuckerman. Kuhlman & Camac. 1988). Previous research has shown that
extraversion relates positively to alcohol consumption in men (Eysenck, 1958; Sieber & Angst. 1990) and in adolescents
(Hopper, White, Macaskill. Hill & Clifford, 1992). Female alcoholics were, however, not different from their controls on
extraversion (Hallman & v. Knorring, 1991). Positive relationships between neuroticism and alcohol consumption have been
found for men (Sieber & Angst, 1990; Webb, Redman, Hennrikus, Rostats & Sanson-Fisher. 1990) and for women (Hallmann
& v. Knorring, 1991). However, neuroticism was not related to alcohol consumption in adolescents (Hopper et al., 1992).
Based on the acknowledged alcohol-related risk in the restaurant business. heavy drinking at a level previously associated
with medical harm was chosen as the relevant alcohol measure (Barbor, Kranzler & Lauerman. 1987). Sociodemographic
variables such as gender, age, type of household, and occupation are known to be associated with alcohol consumption
(Midanik & Clark, 1994; Parker & Brody, 1982; Zimmermann-Tanzella. Dononi, Ciomei & Siciliani, 1988). and were
therefore controlled for in the analyses.
Two questions were raised in the present study: (I) Do restaurant employees score higher than the general population on
the neuroticism and/or the extraversion scales? and (2) do high scores on neuroticism and/or extraversion predict heavy
drinking in the restaurant business?
*

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประจำตัวประชาชนของกลุ่มอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงของการดื่มหนักหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มักจะได้นำไปข้างหน้า
สมมติฐานการเลือก จะมีการระบุไว้ว่าคนไม่ได้จัดสรรในอาชีพที่สุ่มและบอกว่าคนที่มีช่องโหว่
หรือมีแนวโน้มที่จะบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงอาจมารวมกันในการประกอบอาชีพที่เข้ากันได้กับการปฏิบัติดังกล่าว (บ-Gulbrandsen &
Irgens-jensen 1967; ฮิตซ์,1973; mensch & kandel 1988; parker & HARFORD 1992) จึงมีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ระหว่าง
อาชีพและระดับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (mandell. eaton. anthony &ทหาร, 1992) เพื่อให้ห่างไกลเพียงหนึ่งยาว
การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าการค้าเครื่องดื่มที่ไม่รับสมัครมากกว่าหุ้นของนักดื่มหนักมีรายการส่งผลให้อยู่ในระดับที่ยังคงสูงขึ้นของการบริโภค
และปัญหาที่เกี่ยวข้อง (พืช, 1978)การศึกษาในปัจจุบันที่อยู่ในการเลือกที่เป็นไปได้เข้าไปในร้านอาหาร
ธุรกิจบนพื้นฐานของลักษณะบุคลิกภาพและความสัมพันธ์กับการดื่มหนัก.
พนักงานในธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับการระบุว่าเป็นกลุ่มที่มีระดับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงและสูง
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการเกิดโรค ( kjaerheim &เซน, 1993; Mandell และรหัส ul, 1992;. parker & HARFORD, 1992; พืช 1987) ศึกษา
พนักงานของร้านอาหารได้แสดงให้เห็นว่าการดื่มหนักจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับความเครียดจากการทำงาน แต่อย่าง
เกี่ยวข้องกับปัจจัยการสร้างแบบจำลองทางสังคมในสถานที่ทำงาน (aasland kjrerheim. mykletun haldorsen & anderson, 1995;..
kjaerheim, mykletun, aasland, haldorsen & anderson ส่ง) เสน (1994) พบว่าการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงในหมู่
นักเรียนที่วิทยาลัยการจัดการโรงแรมเมื่อเทียบกับนักศึกษาอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงกระบวนการที่ตัวเองเลือกที่เกิดขึ้น
ในกลุ่มนี้.
ปัจจัยการเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งที่เป็นไปได้อาจจะมีลักษณะของบุคลิกภาพ ในการศึกษาบุคลิกภาพในปัจจุบันและความมั่นคงในอารมณ์ที่ได้รับเลือกให้เป็น
มิติบุคลิกภาพที่เกี่ยวข้องเนื่องจากพวกเขาเป็นสองมิติที่สูงขึ้นเพื่อพบซ้ำแล้วซ้ำอีกใน
การศึกษาบุคลิกภาพ (Eysenck Eysenck &, 1985.. ซัคเกอร์แมน kuhlman & Camac 1988) งานวิจัยก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าบุคลิกภาพเกี่ยวข้อง
บวกกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในผู้ชาย (Eysenck 1958. sieber &ห่วง 1990) และในวัยรุ่น
(ถังสีขาว MacAskill เนินเขา& Clifford, 1992.) สุราเป็นเพศหญิง แต่ไม่ได้แตกต่างจากการควบคุมของพวกเขาใน
บุคลิกภาพ (HALLMAN &โว Knorring,1991) ความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างความมั่นคงในอารมณ์และการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้รับการพบ
สำหรับผู้ชาย (sieber &ห่วง 1990. เว็บบ์เรดแมน, hennrikus, rostats & sanson-ฟิชเชอร์ 1990) และสำหรับผู้หญิง (Hallm​​ann
&โว Knorring, 1991) แต่ความมั่นคงในอารมณ์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัยรุ่น (กระโดดตอัล., 1992).
อยู่บนพื้นฐานของความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้รับการยอมรับในธุรกิจร้านอาหารการดื่มหนักในระดับที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้
ด้วยอันตรายทางการแพทย์ได้รับเลือกให้เป็นตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (barbor, Kranzler & Lauerman. 1987)
ตัวแปรด้านประชากรเช่นเพศอายุประเภทของครัวเรือนและอาชีพเป็นที่รู้จักกันจะเกี่ยวข้องกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(midanik & clark, 1994; parker &โบรดี้ 1982; Zimmermann-tanzella dononi, ciomei & Siciliani, 1988.) และ
จึงควบคุมในการวิเคราะห์
สองคำถามที่ถูกยกขึ้นในการศึกษานี้. (i) ไม่ให้พนักงานร้านอาหารที่ได้คะแนนสูงกว่าประชากรทั่วไปเกี่ยวกับความมั่นคงในอารมณ์
และ / หรือเกล็ดบุคลิกภาพหรือไม่ และ (2) จะมีคะแนนสูงในความมั่นคงในอารมณ์และ / หรือบุคลิกภาพทำนายหนัก
ดื่มในธุรกิจร้านอาหารหรือไม่
*

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รหัสของกลุ่มอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงของโรคหนาดื่ม หรือที่เกี่ยวข้อง กับแอลกอฮอล์ได้มักนำไป
สมมติฐานเลือก ระบุไว้ว่า คนไม่จัดสรรในอาชีพ ที่สุ่ม แนะนำที่คนอ่อนแอ
หรือแนวโน้มที่จะสูงแอลกอฮอล์อาจรวบรวมในอาชีพกับการปฏิบัติดังกล่าว (& Brun Gulbrandsen
Irgens-เจนเซน 1967 เตอร์ +คู่มือไทย 1973 Mensch & Kandel 1988 ปาร์คเกอร์& Harford 1992) จึง มีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ระหว่าง
อาชีพและแอลกอฮอล์ปริมาณระดับ (Mandell โรงแรมอีตัน Anthony&Garrison, 1992) เพื่อห่างไกล เพียงหนึ่งระยะยาวศึกษา
ได้แสดงให้เห็นว่า การค้าขายเครื่องดื่มได้สรรหามากกว่าส่วนแบ่งของผู้ดื่มหนัก รายการที่มีผลในระดับสูงยังคง
ปริมาณการใช้และปัญหาที่เกี่ยวข้อง (พืช 1978) การศึกษาปัจจุบันอยู่ที่เลือกได้ในร้านอาหาร
ธุรกิจตามลักษณะบุคลิกภาพและความสัมพันธ์ของการดื่มเหล้าหนัก
พนักงานในธุรกิจร้านอาหารได้รับการระบุเป็นกลุ่มระดับปริมาณแอลกอฮอล์สูงและสูง
เสี่ยงโรคที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ (Kjaerheim &แอนเดอร์ 1993 Mandell ร้อยเอ็ด ul. 1992 ปาร์คเกอร์& Harford, 1992 ต้น 1987) ศึกษา
อาหาร พนักงานได้แสดงให้เห็นว่า ดื่มหนักไม่เกี่ยวข้องโดยตรง กับความเครียดในการทำงาน แต่แทนที่จะขอ
เกี่ยวข้องกับปัจจัยทางสังคมที่สร้างแบบจำลองที่ทำงาน (Kjrerheim Mykletun Aasland Haldorsen &แอนเดอร์สัน 1995;
Kjaerheim, Mykletun, Aasland, Haldorsen ส่งแอนเดอร์สัน &) Larsen (1994) พบปริมาณแอลกอฮอล์สูงระหว่าง
นักเรียนที่วิทยาลัยการจัดการโรงแรมโดยเปรียบเทียบกับนักเรียนอื่น ๆ ชี้ self-selection ประมวลผลเกิดขึ้น
ในกลุ่มนี้ได้
หนึ่งตัวเลือกได้อาจเป็นลักษณะบุคลิกภาพได้ ในการศึกษาปัจจุบัน extraversion และ neuroticism ถูก
เลือกเป็นมิติบุคลิกภาพที่เกี่ยวข้องเนื่องจากมีสองขนาดสูงสั่งซ้ำ ๆ พบใน
การศึกษาบุคลิกภาพ (Eysenck & Eysenck, 1985 Zuckerman Kuhlman & Camac 1988) การวิจัยก่อนหน้านี้ได้แสดงที่
extraversion บวกเกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ในผู้ชาย (Eysenck, 1958 Sieber & Angst ปี 1990) และ ในวัยรุ่น
(ถัง สีขาว Macaskill เขา&คลิฟฟอร์ด 1992) หญิง alcoholics ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่แตกต่างจากของตัวควบคุมบน
extraversion (ฮอล& v. Knorring 1991) . ความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่าง neuroticism และแอลกอฮอล์ได้
พบสำหรับผู้ชาย (Sieber & Angst, 1990 เวบบ์ Redman, Hennrikus, Rostats & Sanson-Fisher ปี 1990) และผู้หญิง (Hallmann
& v. Knorring, 1991) อย่างไรก็ตาม neuroticism คือไม่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ในวัยรุ่น (ถัง et al., 1992)
ตามความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์รับการยอมรับในธุรกิจร้านอาหาร ดื่มหนักในระดับที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้
กับอันตรายแพทย์ถูกเลือกให้เป็นวัดแอลกอฮอล์ที่เกี่ยวข้อง (Barbor, Kranzler & Lauerman. 1987) Sociodemographic
ทราบว่าตัวแปรเช่นเพศ อายุ ประเภทของใช้ในครัวเรือน และอาชีพกับแอลกอฮอล์
(Midanik &คลาร์ก 1994 &ปาร์คเกอร์โบรดี 1982 Zimmermann-Tanzella Dononi, Ciomei & Siciliani, 1988) และ
จึง ควบคุมการในวิเคราะห์
คำถามที่สองขึ้นในการศึกษาปัจจุบัน: (I) ทำอาหารพนักงานคะแนนสูงกว่าประชากรทั่วไปใน
ที่ neuroticism หรือเกล็ด extraversion และ (2) ทำคะแนนสูงใน neuroticism extraversion ทายหนัก
ดื่มในร้านอาหาร?
*

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การระบุตัวตนของกลุ่มอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคหัวใจปริมาณแอลกอฮอล์ที่เกี่ยวข้องหรือดื่มหนักได้นำมาส่งต่อข้อสมมุติฐานทางเลือก
ซึ่งจะช่วยได้มาก มันจะมีการระบุว่าผู้คนไม่ได้จัดสรรในกลุ่มอาชีพที่สุ่มและคำแนะนำที่ใช้สำหรับคนที่มีความเสี่ยงต่อ
หรือมีแนวโน้มที่จะ บริโภค เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงอาจมารวมตัวกันในกลุ่มอาชีพสามารถใช้งานร่วมกับการปฏิบัติเช่น( brun-gulbrandsen &
irgens-jensen 1967 ฮิต,สาวๆจากสตอร์เบอ1973 mensch & kandel . 1988 Parker & harford . 1992 )ทำให้การเชื่อมโยงระหว่างระดับการ บริโภค เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และ
อาชีพ( mandell Eaton . anthony&garrison 1992 ) ห่างออกไปเพียงหนึ่งดังนั้นการศึกษาตามยาว
ซึ่งจะช่วยได้แสดงให้เห็นว่าการค้าเครื่องดื่มที่ไม่บรรจุมากกว่าใช้ร่วมกันของนักดื่มหนักซึ่งรายการส่งผลให้ในระดับสูงขึ้นของ
การ บริโภค และที่เกี่ยวข้องกับปัญหา( 1978 )แอดเดรสที่มีอยู่การศึกษาที่เป็นไปได้การเลือกเข้าไปในร้านอาหาร
ทางธุรกิจตามความเป็นตัวตนและลักษณะของความสัมพันธ์กับหนักดื่ม.
พนักงานในร้านอาหารธุรกิจได้รับการระบุว่าเป็นกลุ่มที่มีการ บริโภค เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงและระดับแอลกอฮอล์สูง
ที่เกี่ยวข้องกับโรคความเสี่ยง( kjaerheim &แอนเดอร์เซ่น, 1993 ; mandell เอ็ด UL ., 1992 , Parker & harford , 1992 ,โรงงาน, 1987 )
ตามมาตรฐานการศึกษาร้านอาหารของพนักงานได้แสดงให้เห็นว่าการดื่มหนักไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับความเครียดงานแต่เป็นอย่างมาก
ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยทางสังคมการสร้างแบบจำลองในการทำงาน( kjrerheim mykletun . aasland . haldorsen &แอนเดอร์สัน 1995
kjaerheim mykletun aasland haldorsen &แอนเดอร์สันยื่น) เสน( 1994 )พบว่าการ บริโภค เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นใน
ตามมาตรฐานนักศึกษาในวิทยาลัยการจัดการโรงแรมที่เมื่อเทียบกับนักศึกษามหาวิทยาลัยอื่นๆปัจจัยบ่งชี้ถึงการเลือกของกระบวนการด้วยตนเอง - ทางเลือกเกิดขึ้น
ในกลุ่มนี้.
หนึ่งเป็นไปได้อาจมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ในการศึกษาในปัจจุบันที่ขนาด
ซึ่งจะช่วยเลือกเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องและ extraversion neuroticism มีตั้งแต่ทั้งสองมีขนาดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกพบได้ใน
การศึกษาบุคลิก( eysenck & eysenck The Council of Presidents of Major Jewish Organisations ; Spark , 1985 . kuhlman & Camac Street โรงแรม. 1988 ) ก่อนหน้ามีการวิจัยแสดงให้เห็นว่า
extraversion เกี่ยวข้องกับในเชิงบวกต่อการ บริโภค เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในคน( eysenck 1958 sieber & angst 1990 )และในวัยรุ่น
( Hopper แบบสีขาว macaskill . เนินเขา& clifford 1992 ) alcoholics ผู้หญิงมีแต่ถึงอย่างไรก็ตามไม่ได้แตกต่างไปจากการควบคุมของเขาใน
extraversion ( hallman & knorring V1991 ) ความสัมพันธ์กันในทางบวกการ บริโภค เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และ neuroticism ได้รับการ
พบสำหรับคน( sieber & angst 1990 Webb redman hennrikus rostats & sanson-fisher . 1990 )และสำหรับผู้หญิง( hallmann
& V knorring 1991 ) อย่างไรก็ตาม neuroticism ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการ บริโภค เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัยรุ่น( Hopper แบบ et al . 1992 )..
ตามความเสี่ยงต่อปริมาณแอลกอฮอล์ที่เกี่ยวข้องก็ยอมรับแล้วว่าในธุรกิจร้านอาหารการดื่มหนักในระดับที่เคยใช้
พร้อมด้วยความเสียหายทางการแพทย์จะได้รับเลือกเป็นการวัดแอลกอฮอล์ที่เกี่ยวข้อง( barbor kranzler & lauerman 1987 ) ตัวแปร sociodemographic
ซึ่งจะช่วยเช่น ประเภท อายุเพศในการประกอบอาชีพและในครัวเรือนเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องให้มีการเชื่อมโยงกับการ บริโภค เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
( midanik & Clark 1994 Parker & brody 1982 zimmermann-tanzella dononi ciomei & siciliani 1988 )และเป็น
ตามมาตรฐานดังนั้นจึงมีการควบคุมในการวิเคราะห์ที่.
สองคำถามขึ้นในการศึกษานี้( i )พนักงานร้านอาหารคะแนนสูงกว่าประชากรทั่วไปที่เกี่ยวกับ neuroticism
ที่เครื่องชั่งและ/หรือ extraversion ได้หรือไม่? และ( 2 )ทำคะแนนสูงสุดใน neuroticism และ/หรือ extraversion คาดการณ์หนัก
ดื่มเหล้าอยู่ในทางธุรกิจหรือไม่?
ร้านอาหาร*