Sobhraj, Charles GurmukhBorn Hotcha

Sobhraj, Charles Gurmukh

Born Hotchand Bhawnani Gurmukh Sobhraj, in April 1944, Asia's premier serial slayer was the illegitimate son of a Vietnamese peasant girl and a wealthy Indian merchant living in Saigon.

Soon after his birth, Sobhraj's father married an Indian woman in Pooma, and his mother retaliated by wedding a French military officer when Sobhraj was four years old. The land of Indochina was in turmoil at the time, with French colonial troops fighting a hopeless rear-guard action against Viet Minh communist rebels, and Hotchand Sobhraj witnessed countless acts of violence before his step-father took the family to France in 1953.

Sobhraj hated Europe and the Catholic boarding school in Paris where he soon became the butt of racial jokes and insults. (The school's lasting mark was a name change - to "Charles" - after Sobhraj's clever impersonation of comedian Charlie Chaplin.)

At first, he expressed his displeasure through tantrums and persistent bed-wetting, twice running away to Saigon in his teens. Sobhraj's father sent him back each time, but finally agreed to pay his passage for a trial visit home. The ticket never came, and Sobhraj turned to robbery, landing briefly in jail on his second try.

He finally reached Vietnam on his own, but the family reunion was tense, and Sobhraj was soon packed off to live with relatives in India after wrecking his father's car. When he turned up in Saigon again, uninvited, Charles's father threw in the towel, sending him back to France. In Paris, Charles was locked up twice for auto theft, emerging from jail the second time with a short-lived desire to "go straight."

He married, found a job, but the straight life quickly palled. Jailed again for writing forged checks on his sister's account, Charles was freed when she dropped the charges. He continued bouncing checks thereafter, saving up some 30,000 francs before he took his wife to Bombay , setting up shop as an international con man and smuggler, specializing in the theft of passports from American and European tourists. Arrested for a jewel robbery in Delhi, Charles was granted bail in spite of an escape attempt.

He fled at once to Kabul, in Afghanistan, where he was jailed for auto theft and lesser charges. Another escape brought him back to France, where he kidnapped his infant daughter from his mother-in-law, leaving the woman drugged and locked in a hotel room. Sobhraj's first known murder victim was a Pakistani chauffeur named Habib, hired by Charles and a female companion in September 1972, for a drive between Rawalpindi and Peshawar.

Along the way, for reasons unknown, Charles injected Habib with a drug that took his life, then dumped the driver's body in a river. Warrants were issued for suspect "Damon Seaman," but another year would pass before Sobhraj was finally identified. Arresting him was something else. In November 1973, Sobhraj was in Istanbul, teaming up with his brother Guy to drug and rob wealthy tourists.

Both were arrested in Greece, but Charles managed another escape, leaving his brother in jail as he fled back to India. In Delhi, he entered the heroin trade, gaining a foothold in the cut-throat business with inside information procured - under drugs and torture - from a local pusher whom Sobhraj later killed.

Murder seemed to come easier each time. In October 1975, Sobhraj killed an American tourist, Teresa Knowlton, in his Delhi flat and had a sidekick dump her body. A Turkish competitor in the drug trade, Vitali Hakim, was beaten, his neck snapped, his corpse doused with gasoline and set afire. In Bangkok, Charles strangled Hakim's French contact, one Stephanie Parry. A month later, still in Bangkok, he strangled Dutch tourists Cornelia Hemker and Henricus Bitanja on December 16, burning their bodies as a hedge against arrest.

Shortly before Christmas, Canadian Laurent Carriere and American Connie Bronzick were found dead in Katmandu, their bodies burned. Sobhraj -traveling as Henricus Bitanja, with his victim's passport - had booked a room at the same hotel, but he slipped out of Nepal after preliminary questioning.

The killer continued his aimless trek across Asia, murdering Israeli Allen Jacobs for his passport at Varanasi, in northern India. A few days later, on January 9, 1976, Sobhraj and two accomplices drugged a trio of Frenchmen at Goa, dumping their bodies at roadside, but all three victims managed to survive.

In Hong Kong, Allen Gore was also lucky; he lost $8,000 but kept his life, despite a jolt of Sobhraj's chemical cocktail. Arrested with false passports in Bangkok, Charles was allowed to walk after doling out bribes all around. In Penang, he was arrested for trying to cash stolen traveler's checks, but he managed to talk his way out of jail. Back in Bombay, Sobhraj slipped a fatal mickey to French tourist Jean-Luc Solomon, moving on from there to more ambitious projects.

Shooting for the moon, he drugged an entire class of 60 French engineering students, but miscalculation of the dose sent 20 to a local hospital, and this time police were waiting.

Arrested on July 5, 1976, Sobhraj was linked with at least ten homicides spanning the past three years. Convicted of "culpable homicide" in the Solomon case, Sobhraj was sentenced to seven years at hard labor, with two more years tacked on for drugging the French students.

In 1982, he was sentenced to life imprisonment for the murder of Allen Jacobs, but appeals are continuing. Thailand and Nepal have announced their intention to file murder charges if Sobhraj should manage to win his release

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Sobhraj ชาร์ลส์ Gurmukhเกิด Hotchand Bhawnani Gurmukh Sobhraj, 1944 เมษายน เอเชียผู้สังหารประจำพรีเมียร์เป็นบุตรนอกกฎหมายของสาวชาวนาเวียดนามและพ่อค้าอินเดียรวยอยู่ในไซ่ง่อนหลังจากเขาเกิด พ่อของ Sobhraj แต่งงานผู้หญิงอินเดียใน Pooma และแม่ของเขา retaliated โดยแต่งงานกับทหารฝรั่งเศสเมื่อ 4 ปีที่แล้ว Sobhraj แผ่นดินอินโดจีนอยู่ในความวุ่นวายเวลา กับทหารอาณานิคมฝรั่งเศสต่อสู้การดำเนินการเตรียมตากับกบฏคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์เวียดนาม และ Hotchand Sobhraj เห็นกระทำนับไม่ถ้วนความรุนแรงก่อนบิดาขั้นตอนก็พาครอบครัวไปฝรั่งเศสในปีค.ศ. 1953Sobhraj ขี้เกียจยุโรปและประจำโรงเรียนคาทอลิกในปารีสที่ซึ่งเขาจนกลายเป็นชนเชื้อชาติตลกและดูหมิ่น (เครื่องหมายถาวรของโรงเรียนได้เปลี่ยนชื่อ - "ชาร์ล" - หลังเลียนแบบฉลาดของ Sobhraj ของชาร์ลีแชปลินนักแสดงตลก)ครั้งแรก เขาแสดงเขาไม่พอใจผ่าน tantrums และแบบ bed-wetting สองรันไปเที่ยวในวัยรุ่นของเขา พ่อของ Sobhraj ส่งเขากลับแต่ละครั้ง แต่สุดท้าย ตกลงที่จะจ่ายทางเขาบ้านไปทดลอง บัตรไม่มา แล้วลอง Sobhraj ไปปล้น เชื่อมโยงไปถึงสั้น ๆ ในคุกบนเขาสองครั้งเขาจนถึงเวียดนามในของเขาเอง แต่ครอบครัวตึงเครียด และ Sobhraj เร็ว ๆ นี้ไว้ออกไปอยู่กับญาติในอินเดียหลังจากทำลายรถของพ่อของเขา เมื่อเขาเปิดขึ้นในไซ่ง่อนอีก uninvited พ่อของชาร์ลส์โยนผ้าขนหนู ส่งเขากลับไปยังฝรั่งเศส ในปารีส ชาร์ลส์ถูกล็อคขึ้นสองครั้งสำหรับการขโมยรถยนต์ ใหม่จากคุกครั้งที่สอง ด้วยความต้องการช่วงสั้น ๆ ไป "ตรงนั้น"เขาแต่ง งาน งาน พบ แต่ชีวิตตรง palled อย่างรวดเร็ว ถูกตัดสินจำคุกอีกสำหรับเขียนปลอมเช็คบัญชีของน้องสาวของเขา ชาร์ลส์ได้ละเมื่อเธอลดลงค่า เขายังคงกำยำเช็คหลัง บันทึกค่าบางฟรังซ์ 30000 ก่อนเขาก็พาภรรยาไปบอมเบย์ ตั้งร้านเป็นคนคอนอินเตอร์เนชั่นแนลและเอา นริศในการขโมยของหนังสือเดินทางจากนักท่องเที่ยวอเมริกันและยุโรป จับกุมสำหรับปล้นอัญมณีในเดลี ชาร์ลส์ได้รับประกันแม้มีความพยายามหลบหนีเขาหนีครั้งสู่คาบูล อัฟกานิสถาน ที่เขาเป็นคุกสำหรับโจรกรรมรถยนต์และค่าธรรมเนียมน้อยกว่าใน อีกหนีนำเขากลับไปยังฝรั่งเศส ที่เขาลักพาตัวลูกสาวทารกของเขาจากแม่ยายของเขา ปล่อยผู้หญิง drugged และล็อคในห้องโรงแรม เหยื่อฆาตกรรมที่รู้จักกันครั้งแรกของ Sobhraj เป็นคนขับรถที่ปากีสถานที่ชื่อฮาบิ การจ้างงาน โดยชาร์ลส์และสหายหญิงในเดือน 1972 กันยายน ไดรฟ์ Rawalpindi และเปศวาร์ตามทาง สำหรับเหตุผลที่ไม่รู้จัก ชาร์ลส์ฉีดประกอบไปด้วยกับยาที่เอาชีวิตของเขา แล้ว dumped ของโปรแกรมควบคุมร่างกายในแม่น้ำ ใบสำคัญแสดงสิทธิออกให้สงสัย "ซีแมนเดมอน" แต่ปีอื่นจะผ่านก่อนสุดท้ายระบุ Sobhraj จับกุมเขาเป็นอย่างอื่น ในเดือน 1973 พฤศจิกายน Sobhraj ขึ้นในอิสตันบูล กำหนดเซิร์ฟขึ้นกับน้องผู้ชายยา และปล้นนักท่องเที่ยวที่มั่งคั่งทั้งสองถูกจับกุมในกรีซ แต่ชาร์ลส์จัดการอื่นหนี ออกจากพี่ชายของเขาในคุกเขาหนีกลับไปอินเดีย ในเดลลี เขาป้อนค้าเฮโรอีน ได้รับ foothold การตัดคอธุรกิจกับค้นหาข้อมูลภายใน- ภาย ใต้ยาและทรมาน - จาก pusher ถิ่นที่ Sobhraj สังหารฆาตกรรมที่ดูเหมือนจะ ง่ายขึ้นมาแต่ละครั้ง ในเดือน 1975 ตุลาคม Sobhraj ฆ่าการท่องเที่ยวอเมริกา Knowlton เทเรซา เดลีของเขาแบน และมีเพื่อนสนิทที่ถ่ายโอนข้อมูลที่ร่างกายของเธอ มีตีคู่แข่งในการค้ายาเสพติด Vitali Hakim ตุรกี จัด ชิดคอเขา ศพของเขาสาดน้ำน้ำมัน และตั้งลุกเป็นไฟ ในกรุงเทพมหานคร ชาร์ลส์รัด Hakim ของฝรั่งเศสติดต่อ Parry ตสเตนี่หนึ่ง หนึ่งเดือนต่อมา ในกรุงเทพมหานคร เขาเชือดคอนักท่องเที่ยวเนเธอร์แลนด์มอบ Hemker และ Henricus Bitanja บน 16 ธันวาคม เผาศพเป็นการป้องกันการจับกุมช้าก่อนคริสต์มาส Carriere Laurent แคนาดา และอเมริกัน Connie Bronzick พบศพ Katmandu เขาเขียน Sobhraj -มาเป็น Henricus Bitanja หนังสือเดินทางของเหยื่อของเขา - ได้ถูกจองเมื่อห้องพักที่โรงแรมเดียวกัน แต่เขาเล็ดรอดออกจากเนปาลหลังสงสัยเบื้องต้นนักฆ่าที่ยังคงเดินป่าเขา aimless เอเชีย สังหารเจคอปส์อัลเลนอิสราเอลในหนังสือของเขาที่พาราณสี อินเดียเหนือ ไม่กี่วันต่อมา บน 9 มกราคม 1976, Sobhraj และ accomplices สอง drugged ทริโอของ Frenchmen ที่กัว ศพที่ริมถนนถ่ายโอนข้อมูล แต่เหยื่อทั้งหมดสามจัดการเพื่อความอยู่รอดใน Hong Kong กอร์อัลเลนยังเป็นโชคดี เขาสูญเสีย $8000 แต่เก็บชีวิต แม้ มีการกระตุกของเคมีของ Sobhraj ค็อกเทล จับกับหนังสือเดินทางปลอมในกรุงเทพ ชาร์ลส์ถูกได้เดินหลัง doling ออกใกล้แมคอินทอช ในปีนัง เขาถูกจับพยายามเงินสดถูกขโมยเช็คของนัก แต่เขาได้พูดคุยเขาออกจากคุก ในบอมเบย์ Sobhraj เล็ดรอดมิกกี้ร้ายแรงการท่องเที่ยวฝรั่งเศสฌองลุคโซโลมอน เลื่อนจากโครงการที่ทะเยอทะยานมากขึ้นยิงหมายจันทร์ เขา drugged คลาสที่มีทั้งเรียนฝรั่งเศสวิศวกรรม 60, miscalculation ของปริมาณการส่ง 20 โรงพยาบาลท้องถิ่น และตำรวจครั้งนี้ก็รอไว้จับบน 5 กรกฎาคม 1976, Sobhraj ถูกลิงค์กับ homicides น้อยสิบสามปีเลย ประวัติ "ฆาตกรรมอาชญากร" ในกรณีโซโลมอน Sobhraj ถูกพิพากษาถึงเจ็ดปีที่แรงงานฮาร์ดดิสก์ สองปีเพิ่มเติม tacked ในการ drugging นักเรียนฝรั่งเศสในปี 1982 เขาถูกพิพากษาให้จำคุกชีวิตฆาตรกรรมของอัลเลนเจคอปส์ แต่ได้ทำการอุทธรณ์ ไทยและเนปาลได้ประกาศความตั้งใจของแฟ้มฆาตกรรมค่าธรรมเนียมถ้า Sobhraj ควรจัดการลุ้นปล่อยเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Sobhraj ชาร์ลส์ Gurmukh เกิด Hotchand Bhawnani Gurmukh Sobhraj ในเดือนเมษายน 1944 ฆ่าอนุกรมเอเชียชั้นนำเป็นบุตรนอกสมรสของหญิงสาวชาวนาเวียดนามและที่อยู่อาศัยผู้ประกอบการค้าอินเดียที่ร่ำรวยในไซ่ง่อน. ไม่นานหลังจากที่เขาเกิดพ่อ Sobhraj ของแต่งงานกับหญิงอินเดียภู่มา, และแม่ของเขาแก้เผ็ดด้วยการจัดงานแต่งงานที่เป็นนายทหารฝรั่งเศสเมื่อ Sobhraj มาสี่ปี ดินแดนแห่งอินโดจีนอยู่ในความวุ่นวายในขณะที่กองกำลังอาณานิคมของฝรั่งเศสในการต่อสู้การกระทำที่สิ้นหวังหลังป้องกันเวียดมิกบฏคอมมิวนิสต์และ Hotchand Sobhraj เห็นการกระทำที่นับไม่ถ้วนของการใช้ความรุนแรงก่อนที่จะขั้นตอนที่พ่อของเขาเอาครอบครัวไปประเทศฝรั่งเศสในปี 1953 Sobhraj เกลียดยุโรปและโรงเรียนกินนอนคาทอลิกในปารีสซึ่งเขาก็กลายเป็นเรื่องตลกของชนเชื้อชาติและด่า (เครื่องหมายที่ยั่งยืนของโรงเรียนที่ได้รับการเปลี่ยนชื่อ - เพื่อ "ชาร์ลส์" -. หลังจากที่เลียนแบบฉลาด Sobhraj ของนักแสดงตลกชาร์ลีแชปลิน) ตอนแรกเขาแสดงความไม่พอใจของเขาผ่าน tantrums และเตียงเปียกถาวรเป็นครั้งที่สองวิ่งหนีไปไซ่ง่อนในวัยรุ่นของเขา พ่อของ Sobhraj ส่งเขากลับมาในแต่ละครั้ง แต่ในที่สุดก็ตกลงที่จะจ่ายทางของเขาสำหรับการเยี่ยมบ้านทดลอง ตั๋วไม่เคยมาและ Sobhraj หันไปปล้นเชื่อมโยงไปถึงในเวลาสั้น ๆ ในคุกในครั้งที่สองของเขา. ในที่สุดเขาก็มาถึงเวียดนามของตัวเอง แต่การชุมนุมในครอบครัวก็เครียดและ Sobhraj ถูกบรรจุในเร็ว ๆ นี้ออกไปอาศัยอยู่กับญาติในอินเดียหลังจากการทำลายของเขา รถของพ่อ เมื่อเขาเปิดขึ้นในไซ่ง่อนอีกครั้งไม่ได้รับเชิญพ่อของชาร์ลส์โยนในผ้าเช็ดตัวส่งเขากลับไปยังประเทศฝรั่งเศส ในปารีสชาร์ลส์ถูกขังสองครั้งสำหรับการโจรกรรมรถยนต์โผล่ออกมาจากคุกเป็นครั้งที่สองด้วยความปรารถนาสั้น "ไปตรง." เขาแต่งงานพบงาน แต่ชีวิตได้อย่างรวดเร็วตรง palled ตัดสินจำคุกอีกครั้งสำหรับการเขียนการตรวจสอบการปลอมแปลงในบัญชีของน้องสาวของเขาชาร์ลส์เป็นอิสระเมื่อเธอลดลงค่าใช้จ่าย เขายังคงตีกลับการตรวจสอบหลังจากนั้นประหยัดได้ถึง 30,000 ฟรังก์ก่อนที่เขาจะเอาภรรยาของเขาไปบอมเบย์ตั้งร้านค้าเป็นนักโทษชายระหว่างประเทศและการลักลอบมีความเชี่ยวชาญในการขโมยหนังสือเดินทางจากนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันและยุโรป ถูกจับในข้อหาปล้นอัญมณีในนิวเดลี, ชาร์ลส์ได้รับการรับการประกันตัวทั้งๆที่พยายามหลบหนี. เขาหนีในครั้งเดียวที่จะคาบูลในอัฟกานิสถานที่เขาถูกตัดสินจำคุกการโจรกรรมรถยนต์และค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า หลบหนีอีกพาเขากลับไปยังประเทศฝรั่งเศสที่เขาลักพาตัวลูกสาวทารกของเขาจากแม่ในกฎหมายของเขาออกจากผู้หญิงคนนั้นยาและถูกขังอยู่ในห้องพักที่โรงแรม เหยื่อฆาตกรรม Sobhraj ที่รู้จักกันเป็นครั้งแรกที่คนขับรถชาวปากีสถานชื่อ Habib ได้รับการว่าจ้างโดยชาร์ลส์และสหายหญิงในเดือนกันยายนปี 1972 สำหรับไดรฟ์ระหว่างราวัลและเพชาวาร์ได้. ไปตามทางที่ไม่ทราบสาเหตุชาร์ลส์ฉีด Habib กับยาเสพติดที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา แล้วทิ้งร่างกายของคนขับรถในแม่น้ำ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกสำหรับผู้ต้องสงสัย "เดมอนนาวิน" แต่อีกปีที่จะผ่านก่อนที่จะถูกระบุ Sobhraj ที่สุด จับกุมเขาเป็นอย่างอื่น ในเดือนพฤศจิกายนปี 1973 Sobhraj อยู่ในอิสตันบูลใกล้เคียงกับพี่ชายของเขาที่จะผู้ชายยาเสพติดและปล้นนักท่องเที่ยวที่ร่ำรวย. ทั้งสองถูกจับกุมในกรีซ แต่ชาร์ลส์ที่มีการจัดการการหลบหนีอีกปล่อยให้พี่ชายของเขาอยู่ในคุกขณะที่เขาหนีกลับไปยังประเทศอินเดีย ในนิวเดลีเขาเข้าการค้ายาเสพติดได้รับตั้งหลักในธุรกิจตัดคอมีข้อมูลภายในจัดหา - ภายใต้ยาเสพติดและการทรมาน -. จากดันท้องถิ่นซึ่ง Sobhraj ฆ่าฆาตกรรมดูเหมือนจะมาได้ง่ายขึ้นในแต่ละครั้ง ในเดือนตุลาคมปี 1975 Sobhraj ฆ่านักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน, เทเรซานอลตัน, นิวเดลีของเขาแบนและมีเพื่อนสนิททิ้งร่างของเธอ คู่แข่งตุรกีในการค้ายาเสพติด, ทาฮาคิมได้รับการตีคอของเขาตะคอกศพของเขาราดด้วยน้ำมันเบนซินและลุกเป็นไฟ ในกรุงเทพมหานครชาร์ลส์รัดติดต่อนักปราชญ์ชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งสเตฟานีปัดป้อง หนึ่งเดือนต่อมายังคงอยู่ในกรุงเทพฯเขารัดคอนักท่องเที่ยวชาวดัตช์คอร์เนเลีย Hemker และ Henricus Bitanja ที่ 16 ธันวาคม, การเผาไหม้ร่างกายของพวกเขาในขณะที่ป้องกันการจับกุมได้. ไม่นานก่อนวันคริสต์มาสแคนาดา Laurent Carriere และอเมริกันคอน Bronzick ถูกพบศพใน Katmandu ร่างกายของพวกเขาถูกเผา . Sobhraj -traveling เป็น Henricus Bitanja กับหนังสือเดินทางเหยื่อของเขา - ได้จองห้องพักที่โรงแรมเดียวกัน แต่เขาหลุดออกจากเนปาลหลังจากการซักถามเบื้องต้น. ฆาตกรต่อเนื่องช่วงระยะการเดินทางอย่างไร้จุดหมายของเขาทั่วเอเชียฆ่าอิสราเอลอัลเลนจาคอบส์หนังสือเดินทางของเขาที่เมืองพารา ณ สี ในภาคเหนือของอินเดีย ไม่กี่วันต่อมาวันที่ 9 มกราคม 1976 Sobhraj และสองสมคบยาทั้งสามคนของฝรั่งเศสที่กัวทิ้งร่างกายของพวกเขาที่ริมถนน แต่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อทั้งสามที่มีการจัดการเพื่อความอยู่รอด. ในฮ่องกงกอร์อัลเลนก็ยังโชคดี; เขาสูญเสีย $ 8,000 แต่ยังคงชีวิตของเขาแม้จะเขย่าค็อกเทลเคมี Sobhraj ของ จับกับหนังสือเดินทางปลอมในกรุงเทพฯ, ชาร์ลส์ได้รับอนุญาตให้ดำเนินตามสเปกสินบนทั่ว ในปีนังเขาถูกจับกุมในข้อหาพยายามที่จะตรวจสอบการเดินทางที่ถูกขโมยเงินสด แต่เขามีการจัดการที่จะพูดคุยทางของเขาออกมาจากคุก ย้อนกลับไปในบอมเบย์ Sobhraj ลื่นมิกกี้อันตรายถึงชีวิตที่ท่องเที่ยวฝรั่งเศส Jean-Luc โซโลมอนย้ายจากที่นั่นไปโครงการความทะเยอทะยานมากขึ้น. ยิงสำหรับดวงจันทร์เขายาชั้นทั้งหมด 60 นักศึกษาวิศวกรรมฝรั่งเศส แต่ผิดของยาที่ส่งมา 20 โรงพยาบาลท้องถิ่นและตำรวจในเวลานี้กำลังรอ. จับ 5 กรกฏาคม 1976 Sobhraj ถูกเชื่อมโยงที่มีอย่างน้อยสิบคดีฆาตกรรมที่ทอดผ่านมาสามปี ตัดสินจากการ "ฆาตกรรมน่าตำหนิ" ในกรณีโซโลมอน Sobhraj ถูกตัดสินจำคุกถึงเจ็ดปีที่ทำงานหนักกับอีกสองปีติดอยู่สำหรับ drugging นักเรียนฝรั่งเศส. ในปี 1982 เขาถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตในข้อหาฆาตกรรมอัลเลนจาคอบส์ แต่ ดึงดูดความสนใจอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยและประเทศเนปาลได้ประกาศความตั้งใจที่จะยื่นค่าใช้จ่ายในการฆาตกรรมถ้า Sobhraj ควรจัดการที่จะชนะได้รับการปล่อยตัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชาร์ล โสภราช , gurmukh

เกิด hotchand bhawnani gurmukh โสภราช ในเมษายน 1944 ในภูมิภาคเอเชีย อนุกรม Slayer เป็นบุตรนอกกฎหมายของผู้หญิงชาวนาเวียดนามและอินเดีย พ่อค้าร่ำรวยอาศัยอยู่ในไซ่ง่อน

หลังจากเกิดของเขาแล้ว คุณพ่อ โสภราชแต่งงานผู้หญิงอินเดียใน pooma และแม่แก้เผ็ดด้วยการแต่งงานกับ ฝรั่งเศส ทหารเมื่อ โสภราชเป็นสี่ปีเก่าแผ่นดินอินโดจีนในความวุ่นวายในเวลาที่มีอาณานิคมฝรั่งเศสกองกำลังต่อสู้สิ้นหวังหลังยามต่อต้านเวียดมินห์พรรคคอมมิวนิสต์กบฏและ hotchand โสภราชสัมพันธการกระทํานับไม่ถ้วนของความรุนแรงของเขาก่อนที่ขั้นตอนที่พ่อพาครอบครัวไปฝรั่งเศสในปี 1953 .

โสภราชเกลียดยุโรปและโรงเรียนคาทอลิกในปารีสซึ่งเขาได้เร็ว ๆ นี้เป็น ก้นของเชื้อชาติ เรื่องตลก และดูถูก( โรงเรียนยั่งยืน มาร์คเป็นเปลี่ยนชื่อ - " ชาร์ล โสภราช " หลังฉลาดโคตรๆของดาวตลกชาร์ลี แชปลิน )

ตอนแรกเขาแสดงความไม่พอใจของเขาผ่าน tantrums และถาวร wetting เตียง สองหนีไปไซ่ง่อนในวัยรุ่นของเขา พ่อ โสภราชส่งเขากลับไปทุกครั้ง แต่ก็ยอมจ่ายทางของเขาเพื่อทดลองเยี่ยมบ้าน ตั๋วที่ไม่เคยมาแล้วก็ โสภราชหันไปปล้น ลงสั้น ๆในคุกในครั้งที่สองของเขา ในที่สุดเขาก็มาถึง

เวียดนามด้วยตัวเอง แต่การชุมนุมในครอบครัวตึงเครียด และ โสภราชทันทีจัดไปอยู่กับญาติในอินเดียหลังจาก ทำลายรถของพ่อเขา เมื่อเขาเปิดขึ้นในไซ่ง่อน อีก เชิญ คุณพ่อของชาร์ล โยนในผ้าเช็ดตัว ส่งเขากลับไปฝรั่งเศส ในปารีสชาร์ลส์ถูกสองครั้งสำหรับ Theft Auto ที่เกิดขึ้นใหม่จากคุกเป็นครั้งที่สองกับความปรารถนาในช่วงสั้น ๆไป " ตรง "

เขาแต่งงาน ได้งาน แต่ชีวิตตรงอย่างรวดเร็ว palled . คุกอีกครั้งสำหรับการเขียนปลอมแปลงเช็คบัญชีน้องสาวของเขา ชาร์ลถูกปล่อยตัวเมื่อหล่อนถอนแจ้งความ เขายังคงตีกลับการตรวจสอบหลังจากนั้น ประหยัดขึ้นบาง 30000 ฟรังซ์ ก่อนที่เขาจะพาภรรยาไปบอมเบย์ ตั้งร้านค้าเป็นสากล คนที่ต่อต้านและลักลอบมีความเชี่ยวชาญในการโจรกรรมหนังสือเดินทางจากอเมริกาและยุโรป นักท่องเที่ยว จับอัญมณีปล้นในนิวเดลี , ชาร์ลได้รับประกันตัว ทั้งๆที่พยายามหนี

เขาหนีไปทันทีในคาบูล , อัฟกานิสถาน , ที่ซึ่งเขาเคยติดคุกเพราะขโมยรถ และน้อยกว่าค่าใช้จ่ายหนีอีก พาเขากลับไปฝรั่งเศสที่เขาลักพาตัวลูกสาวทารกของเขาจากแม่ของเขา ปล่อยให้ผู้หญิงวางยาและขังไว้ในห้องของโรงแรม เป็นครั้งแรกที่รู้จัก โสภราชฆาตกรรมเหยื่อเป็นชาวปากีสถาน คนขับรถชื่อ ฮาบิบ จ้างโดยชาร์ลส์และสหายหญิงในเดือนกันยายน พ.ศ. 2515 สำหรับไดรฟ์ระหว่างดาวนิวตรอน Peshawar .

ตลอดทาง โดยไม่ทราบสาเหตุชาร์ลส์ฉีด Habib กับยาเสพติดที่พรากชีวิตของเขา แล้วทิ้งร่างของคนขับรถในแม่น้ำ ออกหมายจับ สำหรับผู้ต้องสงสัย " เดม่อนลูกเรือ " แต่อีกปีก็ผ่านไปก่อน โสภราชก็ระบุ จับเขาเป็นอย่างอื่น ในพฤศจิกายน 1973 โสภราชอยู่ในอิสตันบูล , teaming กับคนที่พี่ชายของเขาเพื่อยา และปล้นนักท่องเที่ยวรวย

ทั้งสองถูกจับในกรีซ