The main premise of this paper is t

The main premise of this paper is that RFID technology acts as a ‘‘disruptive’’ enabler of collaborative SC and requires more integrated B-to-B e-commerce strategies. The overall objective is to improve our understanding of the potential impacts of RFID technology in the context of one specific supply chain (SC). More specifically, this paper attempts to (1) identify and validate key performance indicators (KPIs) that are useful to trace the impacts of RFID technology in each individual organization and in the SC as a whole, (2) assess these impacts and (3) analyze how RFID implementation strategies evolve into more integrated B-to-B ecommerce strategies as mutual consensus among SC members gradually arises. Since these research objectives clearly fall within the realms of exploratory research, it is reflected in the research design which consists of a longitudinal field study involving five layers of one SC in the utility sector.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประทับใจหลักของเอกสารนี้คือ เทคโนโลยี RFID เป็นสตัวเปิดใช้งาน ''ขวัญ '' ของ SC ร่วม และต้องการเพิ่มเติมรวมกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซบีบี วัตถุประสงค์โดยรวมคือความเข้าใจของเราของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของเทคโนโลยี RFID ในบริบทโซ่อุปทาน specific หนึ่ง (SC) เพิ่มเติม specifically กระดาษนี้พยายาม (1) ระบุ และตรวจสอบบ่งชี้ประสิทธิภาพหลัก (Kpi) ที่เป็นประโยชน์ต่อติดตามผลกระทบของเทคโนโลยี RFID ในแต่ละองค์กรแต่ละ และ SC ทั้งหมด, (2) ประเมินผลกระทบเหล่านี้ และ (3) วิเคราะห์ว่ากลยุทธ์ใช้งาน RFID พัฒนาขึ้นรวมบีบีอีคอมเมิร์ซยุทธศาสตร์การดำเนินการ ตามมติร่วมกันในหมู่สมาชิก SC ค่อย ๆ เกิดขึ้น เนื่องจากวัตถุประสงค์การวิจัยเหล่านี้อยู่ภายในอาณาจักรของการวิจัยเชิงบุกเบิกชัดเจน เป็น reflected ในการออกแบบการวิจัยซึ่งประกอบด้วยการศึกษา field ระยะยาวเกี่ยวข้องกับชั้น five SC หนึ่งภาคอรรถ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สถานที่ตั้งหลักของงานวิจัยนี้คือการกระทำเทคโนโลยี RFID เป็น '' ทำลาย '' Enabler ของ SC และต้องทำงานร่วมกันแบบบูรณาการมากขึ้นเพื่อ B-B กลยุทธ์ E-commerce วัตถุประสงค์โดยรวมคือการปรับปรุงความเข้าใจของเราส่งผลกระทบต่อศักยภาพของเทคโนโลยี RFID ในบริบทของสายหนึ่ง speci ห่วงโซ่อุปทานค (SC) cally ระบุไว้มากขึ้นนี้พยายามกระดาษ (1) ระบุและตรวจสอบตัวชี้วัด (KPI) ที่เป็นประโยชน์ในการติดตามผลกระทบของเทคโนโลยี RFID ในแต่ละองค์กรแต่ละรายและในเซาท์แคโรไลนาโดยรวม (2) ประเมินผลกระทบเหล่านี้และ (3 ) วิเคราะห์ว่ากลยุทธ์การดำเนินงาน RFID วิวัฒนาการในแบบบูรณาการมากขึ้นเพื่อ B-B กลยุทธ์อีคอมเมิร์ซเป็นฉันทามติร่วมกันในหมู่สมาชิก SC ค่อยๆเกิดขึ้น เนื่องจากวัตถ​​ุประสงค์ของการวิจัยเหล่านี้เห็นได้ชัดว่าตกอยู่ในอาณาจักรของการวิจัยสำรวจก็เป็นอีกชั้น ected ในการออกแบบการวิจัยซึ่งประกอบด้วย ELD สายยาวที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาสายได้ชั้นหนึ่งในภาค SC ยูทิลิตี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สถานที่หลักของกระดาษแผ่นนี้ คือ เทคโนโลยี อาร์เอฟไอดีทำหน้าที่เป็น ' ' ' 'disruptive enabler ของ SC และต้องร่วมกันมากขึ้นรวม b b B B กลยุทธ์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ . วัตถุประสงค์โดยรวม คือ เพื่อปรับปรุงความเข้าใจของผลกระทบของเทคโนโลยี RFID ในบริบทหนึ่งกาจึง C ห่วงโซ่อุปทาน ( SC ) เพิ่มเติมประเภทจึงคอลลี่ นี่กระดาษวัตถุประสงค์เพื่อ ( 1 ) ศึกษาและตรวจสอบตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลัก ( KPIs ) ที่เป็นประโยชน์ในการติดตามผลกระทบของเทคโนโลยี RFID ในแต่ละบุคคลและองค์การใน SC เป็นทั้ง ( 2 ) ศึกษาผลกระทบเหล่านี้ และ ( 3 ) วิเคราะห์ว่ายุทธศาสตร์ RFID วิวัฒนาการเป็นแบบบูรณาการมากขึ้น b b B B ของอีคอมเมิร์ซ กลยุทธ์การเป็นฉันทามติในหมู่สมาชิกร่วมกัน มค่อย ๆเกิดขึ้น เนื่องจากวัตถุประสงค์เหล่านี้อย่างชัดเจนอยู่ในอาณาจักรของการวิจัยเชิงสำรวจ มันเป็นflประวัติศาสตร์ในการออกแบบการวิจัย ซึ่งประกอบด้วยสาขาการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับระยะยาวจึงจึงได้ชั้น 1 SC ในภาคสาธารณูปโภค