have been increasing concerns regar

have been increasing concerns regarding its
negative outcomes to adolescents’ well being.
Some of the off-putting outcomes that are related
to Facebook use involved personality problem and
unwanted behaviors such as stalking. 12, 13In the
study conducted by O’Dell, it was reported that
students who use Facebook may feel depressed or
lonely. 5Meanwhile, Gabre & Kumar 14commenced
that student who used Facebook while studying
reported higher levels of stress and were less in
control of things. Klingensmith15also found high
usage of Facebook to be positively related to
feelings of loneliness, shyness, and “friend
sickness,” which is described as the distress one
experiences at the loss of old friends. A study
conducted by Schwartz 16 found Facebook
intensity, or high usage of Facebook, frequency of
status updates, and update intensity to be
negatively related to self-esteem. Other study
however opposes their findings saying that
Facebook use can enhance self-esteem17 even
linked it to an increase in overall life satisfaction.
11, 18

There is an abundance of researches
conducted associating Facebook use and
emotional well being.12-18 In the Philippines, as to
the authors’ knowledge, only one study had been
conducted to examine connection between
Facebook use and depression among Filipino
adolescents. 19However, variables like anxiety and
stress were not included. Additionally, the link
between depression, stress, and anxiety and
Facebook usage has not previously been
scientifically researched. For this current
investigation, the researcher is interested in
identifying relationship between Facebook usage
and negative emotional states which makes this
study important.
Research Objective
This paper aimed to explore the effects of using
Facebook on adolescents’ emotional states of
depression, anxiety, and stress.
Methods
Research Design and Settings
A descriptive correlational research design was
utilized in this investigation. The study population
included 76 nursing students enrolled in the
Bachelor of Science in Nursing program from a
government university in Samar, Philippines.
Measures
The self-report questionnaires consisted of three
parts: 1) Demographic Information, 2) Facebook
Intensity Scale, and 3) Depression Anxiety and
Stress Scale (DASS) were used in this investigation.
Demographic Information
General information included age, gender, year
level, family monthly income, and family
structure.
Facebook Intensity Scale
The Facebook Intensity Scale (FIS) 11 was
developed as part of an investigation of
undergraduates’ social networking site usage and
social capital, the resources accumulated through
being part of a network. An important part of this
study was the development of a scale to measure
Facebook intensity, including the active
engagement with Facebook activities, the extent
to which individuals were emotionally connected
to Facebook, and how well Facebook was
integrated into users’ daily lives. The Facebook
Intensity Scale has eight questions designed to
measure active engagement and emotional
connection with Facebook (alpha=.83 in our
sample). Example questions are “Facebook is part
of my everyday activity” and “I would be sorry if
Facebook shut down.” Two additional Facebook
Usage scales were used to measure how people
used Facebook to meet new people (On to Offline;
1 item: “I use Facebook to meet new people”) and
connect with existing offline contacts (Off to
Online; 5 items, alpha=.68: example item: “I have

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ได้เพิ่มข้อสงสัยเกี่ยวกับการ
ลบผลลัพธ์ที่ดีของวัยรุ่นการ
บางผล off-putting ที่เกี่ยวข้อง
Facebook การปัญหาเกี่ยวข้องกับบุคลิกภาพ และ
พฤติกรรมเช่น stalking ไม่ 12, 13 ในการ
ศึกษาดำเนินการ โดย O'Dell มันเป็นรายงานที่
ผู้ใช้ Facebook อาจรู้สึกหดหู่เศร้า หรือ
เหงาได้ 5Meanwhile, Gabre & Kumar 14commenced
นักเรียนที่ผู้ใช้ Facebook ในขณะที่เรียน
รายงานระดับสูงของความเครียด และมีน้อยใน
ควบคุมสิ่งต่าง ๆ Klingensmith15also พบสูง
การใช้งานของ Facebook บวกเกี่ยวข้องกับ
ความรู้สึกของความเหงา ความอาย และ "เพื่อน
โรค, " ซึ่งอธิบายไว้เป็นทุกข์หนึ่ง
สูญเสียเพื่อนเก่า การศึกษา
จาก Schwartz 16 พบ Facebook
ความเข้ม หรือการใช้ Facebook ความถี่สูง
ปรับปรุงสถานะ และปรับปรุงความเข้มจะ
ส่งที่เกี่ยวข้องกับการนับถือตนเอง ศึกษาอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม opposes เปิดเผยว่า ที่
ใช้ Facebook สามารถเพิ่ม esteem17 ตนเองแม้
เชื่อมโยงกับการเพิ่มความพึงพอใจชีวิตโดยรวมได้
11, 18

มีงานวิจัยมากมาย
ดำเนินการเชื่อมโยงการใช้ Facebook และ
อารมณ์กำลังดี12-18 ในฟิลิปปินส์ ว่า
ความรู้ของผู้เขียน ศึกษาเดียวได้
เพื่อตรวจสอบการเชื่อมต่อระหว่าง
Facebook ใช้และภาวะซึมเศร้าระหว่างฟิลิปปินส์
วัยรุ่น 19However ตัวแปรเช่นความวิตกกังวล และ
เครียดไม่รวม นอกจากนี้ การเชื่อมโยง
ระหว่างภาวะซึมเศร้า ความเครียด ความวิตกกังวล และ
การใช้ Facebook ไม่เคยได้
วิจัยทางวิทยาศาสตร์ สำหรับปัจจุบันนี้
สอบสวน นักวิจัยมีความสนใจใน
ระบุความสัมพันธ์ระหว่างการใช้งาน Facebook
และลบอารมณ์ระบุซึ่งช่วยให้
ศึกษาที่สำคัญ
งานวิจัยวัตถุประสงค์
กระดาษนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจผลกระทบของการใช้
Facebook ในอเมริกาทางอารมณ์ของวัยรุ่นของ
ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และความเครียด
วิธีการ
วิจัยออกแบบและการตั้งค่า
การออกแบบวิจัยอธิบาย correlational
ใช้ในนี้ ประชากรศึกษา
รวม 76 พยาบาลศึกษา
ศาสตรบัณฑิตโปรแกรมการพยาบาลจากการ
มหาวิทยาลัยรัฐบาลในซามาร์ ฟิลิปปินส์
วัด
รายงานตนเองแบบสอบถามประกอบด้วย 3
ส่วน: ข้อมูลประชากร 1, 2) Facebook
ขนาดความเข้ม และ 3) ภาวะซึมเศร้าวิตกกังวล และ
ระดับความเครียด (DASS) ถูกใช้ในการตรวจสอบนี้
ข้อมูลประชากร
รวมข้อมูลทั่วไปอายุ เพศ ปี
ระดับ รายได้ครอบครัวต่อเดือน และครอบครัว
โครงสร้าง
ขนาดความเข้ม Facebook
ได้ Facebook ความเข้มระดับ (FIS) 11
พัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนของ
สูง ๆ ของสังคมเครือข่ายการใช้ไซต์ และ
ทุนสังคม ทรัพยากรที่สะสมผ่าน
เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย ส่วนสำคัญนี้
ศึกษาได้พัฒนามาตราส่วนวัด
ความเข้ม Facebook รวมถึงการใช้งาน
กับกิจกรรม Facebook ขอบเขต
บุคคลใดมีอารมณ์เมื่อ
Facebook และวิธีที่ดี Facebook
รวมอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ Facebook
แปดคำถามที่ออกแบบมาให้มีขนาดความเข้ม
วัดงานหมั้น และอารมณ์
เชื่อมต่อกับ Facebook (อัลฟา =. 83 ในเรา
ตัวอย่าง) มีคำถามอย่าง " Facebook เป็นส่วนหนึ่ง
ของกิจกรรมประจำวันของฉัน" และ "ฉันจะขอถ้า
Facebook ปิดตัวลง" เฟสบุ๊คเพิ่มเติมสอง
ใช้วัดระดับการใช้งานว่าผู้คน
ใช้ Facebook ในการพบปะผู้คนใหม่ (ระบบออฟไลน์;
1 รายการ: "ฉันใช้ Facebook เพื่อพบปะผู้คนใหม่") และ
เชื่อมต่อกับผู้ติดต่อแบบออฟไลน์อยู่ (ปิดการ
ออนไลน์ 5 รายการ อัลฟา =. 68: สินค้าตัวอย่าง: "มี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลเชิงลบของ
ให้วัยรุ่นเป็นอย่างดี
ของออกวางผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ Facebook ที่เกี่ยวข้องปัญหา

บุคลิกและพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เช่น สะกดรอยตาม 12 , 13in
การศึกษาโดยโอเดล , มีรายงานว่านักเรียนที่ใช้ Facebook

อาจรู้สึกหดหู่เศร้า หรือเหงา 5meanwhile gabre & 14commenced
, กุมารเด็กที่ใช้ Facebook ในขณะเรียน
รายงานระดับสูงของความเครียดและน้อยกว่าใน
ควบคุมสิ่งต่าง ๆ klingensmith15also พบการใช้งานสูง
ของ Facebook จะมีความสัมพันธ์กับ
ความรู้สึกของความเหงา ความไม่กล้า และ " เพื่อน
เมา " ซึ่งจะอธิบายเป็น " หนึ่ง
ประสบการณ์การสูญเสียของเพื่อนเก่า การศึกษาดำเนินการโดย 16 Schwartz พบ Facebook

ความเข้มหรือสูงการใช้งานของ Facebook , ความถี่ของ
สถานะการปรับปรุงและการปรับปรุงความเข้มเป็น
ลบที่เกี่ยวข้องกับการเห็นคุณค่าในตนเอง . การศึกษาอื่น ๆอย่างไรก็ตาม คัดค้านผล

ว่าใช้ Facebook สามารถเพิ่ม self-esteem17 แม้แต่
เชื่อมโยงเพื่อเพิ่มความพึงพอใจในชีวิตโดยรวม
11 , 18

มีความอุดมสมบูรณ์ของงานวิจัยการใช้ Facebook และ

) อารมณ์เป็นอย่างดีงในฟิลิปปินส์เป็น

ความรู้ของผู้เขียนเพียงหนึ่งการศึกษาได้ดำเนินการเพื่อตรวจสอบการเชื่อมต่อระหว่าง

ใช้ Facebook และภาวะซึมเศร้าของวัยรุ่นชาวฟิลิปปินส์

19however ตัวแปร เช่น ความวิตกกังวล และความเครียด คือ
ไม่รวม นอกจากนี้ การเชื่อมโยง
ระหว่างภาวะซึมเศร้า , ความเครียดและความวิตกกังวลและการใช้ Facebook ไม่ได้รับก่อนหน้านี้

น่าสนใจสำหรับการสอบสวนในปัจจุบัน
นี้ผู้วิจัยจึงสนใจ

ใช้ระบุความสัมพันธ์ระหว่าง Facebook และอารมณ์ทางลบสหรัฐอเมริกาซึ่งทำให้การศึกษา
ที่สำคัญ

กระดาษการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้ Facebook ในวัยรุ่น

สภาพอารมณ์ของภาวะซึมเศร้าความวิตกกังวลและความเครียด


วิธีการออกแบบการวิจัยและการตั้งค่าการออกแบบการวิจัยเชิงสหสัมพันธ์เชิงบรรยาย
ใช้ในการสืบสวนนี้ ประชากร ได้แก่ นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนใน 76

หลักสูตร วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพยาบาล จาก
มหาวิทยาลัยของรัฐในซามาร์ , ฟิลิปปินส์ .

มาตรการ 5 ชุด ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ 1 ) ข้อมูลส่วนบุคคล
2 ) Facebook
ความเข้มระดับ 3 ) ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
ระดับความเครียด ( ดาส ) ถูกใช้ในคดีนี้

ข้อมูลประชากร ข้อมูลทั่วไป ได้แก่ อายุ เพศ ระดับปี
, ครอบครัว รายได้ และโครงสร้างครอบครัว



Facebook Facebook ความเข้มระดับความรุนแรงระดับ 6 ) 11 ถูกพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวน

ของนักศึกษาของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมและการใช้
ทุนทางสังคมสะสมผ่าน
, ทรัพยากรเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย เป็นส่วนที่สำคัญของการศึกษาคือการพัฒนา

Facebook มาวัดความเข้ม รวมถึงงานหมั้นงาน

กิจกรรม Facebook , ขอบเขตที่บุคคลได้อารมณ์เชื่อมต่อ
Facebook , และว่า Facebook คือ
รวมในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ Facebook มีความเข้มระดับแปดคำถาม


ออกแบบวัดงานหมั้นงานและอารมณ์
การเชื่อมต่อกับ Facebook ( alpha = . 83 ในตัวอย่างของเรา
) คำถาม เช่น " Facebook เป็นส่วนหนึ่ง
กิจกรรม " ทุกวัน " ผมจะเสียใจถ้า Facebook ปิดตัวลง

" สองเพิ่มเติม Facebook ใช้ชั่งเพื่อใช้วัดว่าคน
ใช้ Facebook เพื่อตอบสนองคนใหม่ ( ครับ ;
1 รายการ : " ฉันใช้ Facebook เพื่อตอบสนองคนใหม่ " ) และ
เชื่อมต่อกับติดต่อออฟไลน์ที่มีอยู่ ( ปิด

ออนไลน์ ; 5 รายการ , alpha = . 68 : ตัวอย่างรายการ : " ฉันมี