A comparison of fat globule diamete

A comparison of fat globule diameters obtained by
using conventional and ultrasonic homogeniser is given in
the Table. As shown in the Table, milk homogenised by
the conventional homogeniser had smaller fat globules
than non-homogenised milk, and milk homogenised by
ultrasound (higher power levels) also had smaller fat
globules than milk homogenised by a conventional
homogeniser. However, the higher the ultrasound
amplitude levels, the smaller the fat globule diameter. The best homogenisation and the smallest fat globule
diameter (0.725 µm) were obtained at a power level of
100 for 10 min.
The fat globule diameters of milk homogenised by
using conventional and ultrasonic homogeniser ranged
between 2.0-3.0 and 0.5-5.0 µm, respectively, while the
fat globule diameters of non-homogenised milk ranged
between 4.0 and 7.0 µm. The fat globule diameters
obtained at a power level of 40 for 10 min (2.375 µm)
were similar to those from (2.625 µm) conventional
homogenisation (Table). Consequently, the fat globule
diamater obtained in conventional homogenisation could
be achieved by using ultrasonic homogenisation at power
level of 40 for 10 min.
Micrographs of milk samples are shown in Figure 1.
As shown in Figures 1a-j, as the ultrasound power levels
and exposure times increased, the distribution of fat
globules was more stable and smaller fat globule
diameters were obtained. It was difficult to observe the
fat globules at a power level of 100 for 10 min (Figure
1j) because of breakage into very small fragments. There
were numerous fat globules smaller than 1 µm at a
power level of 100 for 10 min (Figure 1j). However, the
fat globules in non-homogenised milk could be easily seen
(Figure 1a).A significant correlation was found between the
diameter of fat globules and homogenisation efficiency (P
< 0.01). The homogenisation efficiency of milk samples
versus amplitude levels is plotted in Figure 2.
As shown in Figure 2, as the amplitude levels
increased, the homogenisation efficiency of homogenised
milk samples also increased. However, the exposure
times had an important effect on the homogenisation of
milk.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เปรียบเทียบขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเม็ดไขมันที่ได้จากการ
ใช้ homogeniser ธรรมดาและอัลตราโซนิกจะได้รับใน
ตาราง ดังแสดงในตารางที่นม homogenised โดย
ทั่วไปมี homogeniser ข้นไขมันที่มีขนาดเล็ก
กว่านมที่ไม่ homogenised และนม homogenised โดย
อัลตราซาวนด์ (ระดับพลังงานที่สูงขึ้น) นอกจากนี้ยังมีขนาดเล็กไขมัน
ข้นกว่านม homogenised โดยทั่วไป
homogeniser อย่างไรก็ตามการอัลตราซาวนด์ที่สูงขึ้น
ในระดับที่กว้างที่มีขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางเม็ดไขมัน homogenisation ที่ดีที่สุดและเม็ดไขมันที่เล็กที่สุด
มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง (0.725 ไมครอน) ที่ได้รับที่ระดับพลังงานของ
100 เป็นเวลา 10 นาที.
เส้นผ่าศูนย์กลางเม็ดไขมันนม homogenised โดย
ใช้ homogeniser ธรรมดาและล้ำอยู่ในช่วง
ระหว่าง 2.0-3.0 และ 0.5-5.0 ไมโครเมตรตามลำดับ ในขณะที่
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเม็ดไขมันของนมที่ไม่ได้อยู่ในช่วง homogenised
ระหว่าง 4.0 และ 7.0 ไมครอน เส้นผ่าศูนย์กลางเม็ดไขมัน
ที่ได้รับที่ระดับพลังงาน 40 เป็นเวลา 10 นาที (2.375 ไมครอน)
มีความคล้ายคลึงกับผู้ที่มาจาก (2.625 ไมครอน) ธรรมดา
homogenisation (ตาราง) ดังนั้นเม็ดไขมัน
diamater ได้รับใน homogenisation ทั่วไปสามารถ
ทำได้โดยการใช้ homogenisation อัลตราโซนิกที่อำนาจ
ระดับ 40 เป็นเวลา 10 นาที.
micrographs ของตัวอย่างนมจะแสดงในรูปที่ 1
ดังแสดงในรูปที่ 1a-J เป็นระดับพลังงานอัลตราซาวนด์
และ เวลาเปิดรับเพิ่มขึ้นการกระจายของไขมัน
ข้นเป็นเสถียรภาพมากขึ้นและเม็ดไขมันที่มีขนาดเล็ก
เส้นผ่าศูนย์กลางที่ได้รับ มันเป็นเรื่องยากที่จะสังเกต
ข้นไขมันที่ระดับพลังงาน 100 เป็นเวลา 10 นาที (รูป
1j) เนื่องจากการแตกเป็นเศษเล็กมาก มี
เป็นจำนวนมากข้นไขมันมีขนาดเล็กกว่า 1 ไมครอนที่
ระดับพลังงาน 100 เป็นเวลา 10 นาที (รูป 1j) แต่
ข้นไขมันในนมที่ไม่ homogenised สามารถมองเห็นได้ง่าย
(รูปที่ 1a) ในขณะนี้ A ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญได้รับการพบกันระหว่าง
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของ globules ไขมันและมีประสิทธิภาพ homogenisation (P
<0.01) ประสิทธิภาพ homogenisation ตัวอย่างนม
เมื่อเทียบกับระดับความกว้างเป็นพล็อตในรูปที่ 2
ดังแสดงในรูปที่ 2 เป็นระดับความกว้าง
เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ homogenisation ของ homogenised
ตัวอย่างนมเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามการเปิดรับ
ครั้งมีผลสำคัญใน homogenisation ของ
นม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปรียบเทียบไขมันเม็ดกลมเล็กขนาดปกติได้โดยการใช้ homogeniser

จะได้รับในโต๊ะ ดังแสดงในตาราง นม homogenised ด้วย
homogeniser ปกติมีขนาดเล็กกว่าเม็ดไขมัน
ไม่ homogenised นมและนม homogenised โดย
อัลตร้าซาวด์ ( สูงกว่าระดับ Power ) มีขนาดเล็กกว่า homogenised globules ไขมัน
นมโดย homogeniser ปกติ

อย่างไรก็ตามที่สูงกว่า )
1 ระดับ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเม็ดกลมเล็ก อ้วน การโฮโมจีไนเซชั่นที่ดีที่สุดและไขมันขนาดเล็ก ( เส้นผ่าศูนย์กลางเม็ดกลมเล็ก
0.725 µ M ) ที่ได้รับพลังระดับ 100 เป็นเวลา 10 นาที

ขนาดเม็ดกลมเล็ก ไขมันนม homogenised โดย
ใช้ปกติ และอยู่ระหว่างการ homogeniser
81 ที่เศรษฐกิจ 0.5-5.0 และµเมตร ตามลำดับ ในขณะที่
ไขมัน เม็ดกลมเล็กขนาดไม่ homogenised นมอยู่ระหว่าง 4 และ 7
µเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางเม็ดกลมเล็กอ้วน
ที่ได้รับพลังระดับ 40 10 นาที ( สำรองµ m )
( คล้ายกับ ( ต่อจากµ M ) โฮโมจีไนเซชั่นปกติ
( โต๊ะ ) ดังนั้น การโยกย้ายงาน
ไขมัน diamater ได้รับโฮโมจีไนเซชั่นปกติอาจ
ทำได้โดยการใช้โฮโมจีไนเซชั่นที่พลังงานระดับ 40

นาน 10 นาทีmicrographs ตัวอย่างนมจะแสดงในรูปที่ 1
ดังแสดงในรูป 1a-j เป็นระดับ พลังงาน และอัลตราซาวด์
เวลาที่เพิ่มขึ้น การกระจายของเม็ดไขมัน
เป็นมีเสถียรภาพมากขึ้นและมีขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางเม็ดกลมเล็ก
ไขมันได้รับ มันก็ยากที่จะสังเกต
เม็ดไขมันที่ให้พลังงานระดับ 100 10 นาที ( รูป
1j ) เพราะการแตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ มี
มีจำนวนมากไขมัน globules ขนาดเล็กกว่า 1 µ M ที่
พลังระดับ 100 เป็นเวลา 10 นาที ( รูปที่ 1j ) อย่างไรก็ตาม
เม็ดไขมันในนมไม่ homogenised สามารถมองเห็นได้ง่าย
( รูปที่ 1 ) พบว่าระหว่าง
เส้นผ่าศูนย์กลางของเม็ดไขมันและประสิทธิภาพการโฮโมจีไนเซชั่น ( P
< 0.01 ) การโฮโมจีไนเซชั่น ประสิทธิภาพของตัวอย่างนม
เมื่อเทียบกับความสูงระดับวางแผนในรูป 2
ดังแสดงในรูปที่ 2 เป็นระดับแอมปลิจูด
เพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพในการโฮโมจีไนเซชั่น homogenised
ตัวอย่างนมเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การเปิดรับ
ครั้ง มีผลกระทบที่สำคัญต่อโฮโมจีไนเซชั่นของ
นม